บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“ลูกหนูไม่ได้อยากได้เงิน ลูกหนูอยากได้ร่างกายของลูกหนูคืน”

“โอ๊ยลูกหนู อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่หน่อยเลย เสียตัวแบบนี้ดีจะตายไปเพราะได้เงินก้อนโตใช้ เงินที่ซื้อทุกอย่างได้ เงินที่ลูกหนูทำงานงกๆ หามาตลอดนั่นแหละ”

“หยุดพูดแล้วออกไปจากบ้านลูกหนูเดี๋ยวนี้ ออกไปแล้วอย่ากลับมาให้ลูกหนูเห็นหน้าอีก ออกไป” ก่อนที่พิจิกาจะได้เอ่ยอะไรไปมากกว่านี้ สัมปันนีก็เข้าไปผลักเธอให้ออกไปจากบ้าน

“แล้วเงินนี่ละ จะไม่เอาจริงๆ เหรอ เยอะนะ คิดดีๆ”

“ใช่ ลูกหนูไม่เอา ถ้าพี่จะเอาก็เชิญ ลูกหนูทำบุญให้ ขอให้พี่ไปที่ชอบๆ หลังจากนี้อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย”

“โอเค ขอบคุณมากสำหรับเงินแล้วก็คำอวยพรนะลูกหนู บายจ้ะ” พิจิกาไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของ สัมปันนีแม้แต่น้อย เธอจูบเงินในมือซึ่งจำนวนของมันไม่ใช่น้อยๆ ในเมื่อเธอตั้งใจเอามาให้สัมปันนีแต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับเองก็ช่วยไม่ได้ นอนกับผู้ชายคืนเดียวทำเป็นตีโพยตีพาย เสียตัวแล้วยังได้เงินมันไม่ดีตรงไหน ดีกว่าเสียตัวฟรีๆ แน่นอน

ครั้งแรกมันก็ทำใจยากสักหน่อย แต่รสชาติของเงินมันหอมหวาน งานง่ายๆ สบายๆ เงินคล่องมือแบบนี้ใครๆ ก็อยากทำ เธอมั่นใจว่าอีกไม่กี่เดือนสัมปันนีต้องติดต่อหาเธอเพื่อให้หาลูกค้ากระเป๋าหนักให้แน่ ถึงตอนนั้นเธอจะหัวเราะเยาะเย้ยให้สาแก่ใจ

สัมปันนีทรุดลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกอดตัวเองแล้วโยกไปมาด้วยแววตาที่เหม่อลอย การที่พิจิกามาหาถึงที่บ้านแบบนี้ส่งผลให้จิตใจเธอจมดิ่งอีกครั้งทั้งๆ ที่กว่าจะกลับมาสู่สภาวะยอมรับอย่างจำนนต่อโชคชะตาอย่างในตอนนี้นั้นยากเหลือเกิน

น้ำตาที่มันควรจะไหลอาบแก้มขณะนี้ไหลย้อนเข้าไปในหัวใจ ค่อยๆ หยดลงสู่ก้นบึ้งของหัวใจที่ยังคงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สัมปันนีอยากยอมแพ้เหลือเกินความคิดที่อยากหายไปจากโลกใบนี้หวนกลับมาอีกครั้ง แต่แล้วโลกกลับส่งบทเรียนที่เลวร้ายอีกบทมาให้เธอได้ก้าวผ่าน

“เกิดเรื่องใหญ่แล้วลูกหนู”

“เรื่องอะไรหรือคะลุง” สัมปันนีเอ่ยถามลุงสมหมายซึ่งเป็นคนขับรถสองแถวที่มารับแม่ไปตลาดทุกๆ วัน

“ลูกหนู แม่ถูกรถชน”

ความเสียใจใดๆ ไม่หลงเหลืออยู่ในความคิดของสัมปันนีอีกต่อไป สิ่งเดียวที่เธอคิดในตอนนี้คือความปลอดภัยของผู้เป็นแม่ เธอรีบรุดไปโรงพยาบาล เมื่อรู้ว่าเธอเป็นญาติหมอก็เข้ามาคุยด้วยเพื่อบอกอาการให้ทราบว่าขณะนี้คนป่วยปาดเจ็บส่วนไหนบ้าง

แผลฟกช้ำทั่วทั้งตัว ขาซ้ายหัก กระดูกซี่โครงทิ่มเข้าปอดส่งผลให้มีเลือดออกในช่องท้องจำนวนมากและที่หมอเป็นห่วงมากกว่านั้นคือบริเวณสมองที่ถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก การผ่าตัดจึงเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนเพื่อยื้อชีวิต

“แม่ถูกรถชนได้ยังไงคะลุง” สัมปันนีเอ่ยถามเพราะจุดที่แม่ถูกรถชนนั้นห่างไปจากบ้านไม่ไกล มันคือระหว่างทางกลับบ้านที่ถ้าไม่มีธุระอะไรแม่คงไม่ลงไปจากรถเพื่อข้ามถนนแน่

“ระหว่างทางวรรณีเห็นคนขายไหลบัวเอาไหลบัวสดๆ ขึ้นมาจากน้ำ บอกให้ลุงจอดจะข้ามไปซื้อ” คำพูดของลุงสมหมายทำให้สัมปันนีปล่อยโฮออกมา เธอชอบกินแกงส้มไหลบัวและแม่คงตั้งใจข้ามถนนไปซื้อมันมาทำกับข้าวให้เธอกินเป็นแน่

ยิ่งคิดสัมปันนีก็ยิ่งรู้สึกผิด ไม่ว่าจะเวลาไหนเมื่อไหร่แม่ก็มักจะคิดถึงเธอและทำเพื่อเธอเสมอ ถ้าแม่ไม่ข้ามถนนไปซื้อก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุหนักแบบนี้ถ้าร้ายแรงถึงขั้นพรากชีวิตของแม่ไปอย่างกะทันหันขึ้นมาเธอจะทำยังไง

การผ่าตัดผ่านไปหลายชั่วโมงก่อนที่หมอจะเดินออกมาบอกข่าวดี นั่นทำให้สัมปันนีพอจะยิ้มออกบ้าง ในขณะที่คู่กรณีก็เข้ามารับผิดชอบทุกอย่างไม่ได้หนีหน้าหายไปไหน

เพราะหมอห่วงเรื่องการติดเชื้อ หลังการผ่าตัดใหญ่วรรณีก็ถูกย้ายไปพักฟื้นที่ห้องปลอดเชื้อชั่วคราว นั่นทำให้สัมปันนีเข้าเยี่ยมไม่ได้ต้องยืนเกาะกระจกมองแม่ทั้งน้ำตา ทุกๆ ครั้งที่เธอเหนื่อยท้อหรือเจอเรื่องเลวร้าย แม่จะเป็นคนปลอบใจเธอเสมอ ทว่าเวลานี้แม่กลับนอนเจ็บหนักอยู่ตรงหน้าทำให้สัมปันนีต้องบอกตัวเองให้เข้มแข็ง

สัมปันนียืนอยู่แบบนั้นกระทั่งหมดเวลาเยี่ยมจึงจำต้องกลับบ้าน เมื่อมาถึงก็รีบโทรแจ้งลูกค้าของแม่ทุกๆ คนว่าตอนนี้แม่ประสบอุบัติเหตุคงต้องหยุดทำข้าวกล่องพักใหญ่ๆ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจแม้จะเสียดายก็ตาม หลังจากนั้นก็กลับมาทิ้งตัวลงนอนร้องไห้บนเตียง

เมื่อไหร่เรื่องร้ายๆ จะผ่านพ้นไปเสียที เธอเหนื่อยและท้อเหลือเกิน ทว่าเวลานี้ความรู้สึกอยากตายกลับไม่อยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อยเพราะถ้าเธอชิงตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปสบายคนเดียวแบบนั้นแล้วแม่จะอยู่ยังไง สัมปันนีรีบปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งจากนั้นก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเข้านอน

สัมปันนีสะดุ้งตื่นตอนเช้ามืด อาจเพราะเหนื่อยล้าทั้งกายและใจทำให้เธอหลับสนิทโดยไม่ฝันร้ายเหมือนที่ผ่านๆ มา หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็ไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล ซึ่งข่าวดีอีกข่าวของวันนี้คือแม่รู้สึกตัวแล้ว นั่นทำให้สัมปันนีโล่งอกเป็นอย่างมาก เธอเข้าไปหาแม่ไปถามไถ่ว่าเจ็บตรงไหน

แม้แม่จะยังพูดไม่ได้เพราะใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่สัมปันนีก็สัมผัสความรักและความห่วงใจที่แม่ถ่ายทอดผ่านสายตามาให้ เธอเอ่ยขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้แม่เจ็บตัวซึ่งวรรณีได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ สัมปันนีอยู่กับแม่กระทั่งหมดเวลาเยี่ยมจึงต้องกลับออกไปซึ่งหญิงสาวไม่ได้ไปไหนไกลเพราะเลือกจะหามุมนั่งรอแถวๆ โรงพยาบาลเพื่อสะดวกต่อการเข้าเยี่ยมแม่ได้ตามเวลา

เช้าถึงเย็นสัมปันนีอยู่ที่โรงพยาบาลก่อนจะกลับมาอาบน้ำเข้านอนตื่นเช้ามาก็ไปโรงพยาบาล ผ่านไปสองวันหมอก็อนุญาตให้ผู้เป็นแม่ย้ายออกจากห้องปลอดเชื้อแล้วไปพักฟื้นที่ห้องพิเศษซึ่งทางคู่กรณีเตรียมไว้ให้ พร้อมมอบเงินทำขวัญให้เธออีกก้อนหนึ่ง

“ขอบคุณค่ะ” ลึกๆ แล้วสัมปันนีไม่อยากรับเงินก้อนนี้ด้วยซ้ำไปเพราะมันได้มาจากความเจ็บของแม่ที่เงินมากแค่ไหนก็เทียบไม่ได้ ทว่าทนายทางนั้นก็คะยั้นคะยอให้เธอรับ

สัมปันนีนำเงินส่วนหนึ่งมอบให้ทางโรงพยาบาลอีกส่วนไปทำบุญเหลือไว้อีกส่วนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของแม่ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel