ตอนที่5.หลับตา
“หนิงเหมยเด็กดี เจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะต้องอยู่เพียงลำพัง” มือใหญ่ยื่นมาประคองใบหน้าเล็ก “หลับตา แล้วตั้งสมาธิ เปิดดวงจิตของเจ้า เจ้าจะได้ยินเสียงเหล่าพฤกษาพูดคุยกัน”
นางทำตามที่พี่ชายผู้นั้นบอก เดิมทีนางได้ยินเพียงเสียงใบไม้สั่นไหวยามลมพัดผ่าน แต่เมื่อตั้งใจฟัง นางได้ยินเหมือนเสียงพูดคุย บางครั้งเป็นเสียงหัวร่อต่อกระซิก เด็กหญิงลืมตา มองหน้าชายผู้นั้นแล้วยิ้มกว้าง
“เจ้าได้ยินหรือไม่”
นางรีบพยักหน้า ไม่กล้าส่งเสียงเพราะกลัวว่าเสียงของตนไปรบกวนการสนทนาของเหล่าต้นไม้ในสวนหย่อมนี้
“หนิงเหมยเด็กดี การที่เจ้ามองเห็นข้า ถือเป็นวาสนาต่อกัน ข้าคือเทพมังกรดิน”
“เทพ-มังกร-ดิน” นางเอ่ยแต่ละคำงุนงงและไม่คาดคิด พี่ชายผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นเทพมังกรดิน
“มีมังกรเพลิงแตกแถวตนหนึ่งที่ข้าต้องไปจัดการมัน คงไม่มีเวลามาหาเจ้าอีก”
“ท่านจะไม่มาหาข้าแล้วเหรอ”
“ข้ามิอาจให้สัญญาใดกับเจ้าได้ แต่ข้าจะมอบพลังเล็กน้อยให้เจ้าเป็นการตอบแทนที่เจ้าเดินหมากเป็นเพื่อนข้า”
แรกๆ นางไม่เข้าใจว่าพลังเล็กน้อยที่เทพมังกรดินเอ่ยถึงคืออะไร นางไม่เห็นตัวเองมีอะไรแปลกประหลาด เสกข้าวของอะไรก็ไม่ได้ เหาะเหินเดินอากาศก็ไม่ได้ ไม่มีเวทมนตร์อะไรสักอย่าง นอกจากการได้ยินเสียงต้นไม้ดอกไม้พูดคุยกัน นางจึงเผลอพูดแทรกไป
“เอ๊ะ! เจ้าได้ยินที่เราคุยกัน”
“ก็สมควรแล้ว นางเป็นสหายของเทพมังกรดินเชียวนะ”
“นี่ๆ เทพมังกรดินเคยจับมือนางด้วยนะ”
“พวกท่านคุยอะไรกัน ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย”
ทุกครั้งที่นางพูดคุยกับเหล่าพฤกษา ต้องรอจังหวะที่ปลอดผู้คน ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าเป็นคนสติไม่ดี
“เจ้าไม่เข้าใจรึ ดินคือผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง มังกรดินถือว่าเป็นมังกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่มังกร ซึ่งมีมังกรดิน มังกรน้ำ มังกรเพลิงและมังกรลมอย่างไรเล่า เจ้าเองก็มีพลังในการให้ชีวิตเช่นกัน” ต้นท้ออธิบายกับนาง “นี่ๆ เจ้าลองเอาเม็ดของข้าไปวางในอุ้งมือของเจ้าดูสิ”
นางรีบทำตามที่ต้นท้อบอก หยิบมาแล้ววิ่งไปหามีดมาผ่าเพื่อเอาเม็ดข้างใน นางวางเม็ดไว้ในฝ่ามือตั้งสมาธิเหมือนที่พี่ชายผมสีเงินผู้นั้นเอ่ย ครั้งแรกนางไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ได้ยินเสียงเหล่าพฤกษาให้กำลังใจ นางลองทำอีกครั้ง เมื่อคลายฝ่ามือออกจึงเห็นเม็ดลูกท้อเมื่อครู่มียอดอ่อนโผล่ขึ้นมา
นี่นะหรือพลังเล็กน้อยที่เทพมังกรดินมอบให้นาง
นั่นคือความลับของนาง ผู้อื่นเรียกนางว่า ‘มือเย็น’ ปลูกต้นไม้อะไรก็งอกงาม แท้ที่จริงนางมีพลังเล็กน้อยของเทพมังกรดิน ด้วยเหตุนี้ต่อให้ต้นไม้ใกล้ตายอย่างไร นางก็ปลุกชีพให้ฟื้นได้ แต่นางกลัวความลับนี้จะเปิดเผยแล้วถูกมองว่าตนเองเป็นภูตผีปีศาจ นางจึงเก็บความลับนี้ไว้กับตนเอง
หลายปีมานี้ นางไม่พบเทพมังกรดินอีกเลย นางเดาว่ามังกรเพลิงแตกแถวที่เทพมังกรดินพูดถึงในคราวนั้นคือ มังกรเพลิงที่มอบพลังให้องค์ชายเฟยเทียน
นางหลับตาเอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่ ฟังเสียงต้นไม้พูดคุยความลับในวังหลวง นางได้ยินเหล่าพฤกษาพูดถึงองค์ชายเฟยเทียน แม่ทัพใหญ่คุมพลทหารนับแสน แต่ยินดีอยู่เมือง ‘ตุนหวง’ เมืองที่ไกลวังหลวงแห่งนี้ นางไม่เคยไปตุนหวง แต่รู้ว่าที่นั่นเป็นเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลทราย
‘ฮ่องเต้เรียกองค์ชายเฟยเทียนกลับมา เห็นว่าจะประทานสมรสให้’
‘ใครกันหนอจะอายุสั้นได้เป็นพระชายาขององค์ชายเฟยเทียน’
ว่านหนิงเหมยขมวดคิ้ว เจ็บแปลบที่อกซ้าย องค์ชายจะแต่งงานหรือ? แต่...คนผู้นั้นก็อายุยี่สิบเจ็ด ควรแต่งงานมีครอบครัวแล้ว เป็นหญิงนางใดกันหนอ? เท่าที่รู้...มีแต่คนหวาดกลัวคนผู้นั้นเหลือเกิน
หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจ นางไม่เคยหวาดกลัวเขา กลับเข้าใจ คนผู้นั้น เขาเป็นถึงองค์ชายและยังมีพลังของปีศาจ ปีศาจมังกรเพลิงตนนั้นใช้ร่างกายขององค์ชายเป็นที่หลบซ่อนเทพมังกรดิน ผู้คนหวาดกลัวเขา ต่างหาทางกำจัดเขาทิ้ง นางรู้ เรื่องพวกนี้แม้จะกระซิบไม่ให้ผู้อื่นได้ยิน แต่เหล่าพฤกษาต่างได้ยิน ส่งเสียงกระซิบมาเล่าให้นางรับรู้เสมอ นางทำได้เพียงแค่เห็นใจและเป็นห่วงชายผู้นั้น คนที่ยอมแบกรับความเกลียดชังไว้เพียงผู้เดียว
