บท
ตั้งค่า

ตอนที่14.อำนาจรึ? เขารู้จักมันแล้ว

เส้นทางสายไหมกลายเป็นแหล่งรวมพ่อค้าจากทุกสารทิศ ราชสำนักและราชวงศ์สามารถควบคุมพื้นที่และตั้งหน่วยงานปกครองที่มั่นคง ทั้งยังสามารถปราบปรามชนกลุ่มน้อยที่เคยเรืองอำนาจในดินแดนแถบนี้ เอื้อประโยชน์ให้การคมนาคมมีความสะดวกสบาย มีกลุ่มพ่อค้าทั่วสารทิศใช้เส้นทางมากขึ้น นอกเหนือจากผู้แสวงบุญและผู้ที่เดินทางมาแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจำนวนมาก ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เขาเลือกอยู่ที่ตุนหวง ละทิ้งจองหยวน แม้รู้ดีอยู่แก่ใจว่าลึกๆ แล้ว ฮ่องเต้ทรงไม่ไว้ใจเขา เกรงว่าให้อำนาจการปกครองทางการทหารมากเกินไป ทำให้เขาใช้เหล่าทหารเข้ายึดอำนาจและสถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้

อำนาจรึ? เขารู้จักมันแล้ว

เพียงแค่คิดก็เผลอยกท่อนแขนซ้ายขึ้นดู เวลานี้มันเป็นเพียงแขนข้างซ้ายที่มีปีศาจมังกรเพลิงหลับใหลอยู่ หากเมื่อเขาต้องการ ปีศาจกระหายโลหิตตนนั้นจะปรากฏได้ในทันที หลายปีมานี้เขาใช้ความสามารถของตนเอง ผนวกกับความสามารถของกุนซือที่เขาเชื่อใจ ซ้ำยังมีองครักษ์ซ้ายขวาที่เขาชุบเลี้ยงทั้งสองมาตั้งแต่ยังวัยเยาว์ เมื่อมีคนที่ไว้ใจได้อยู่เคียงข้าง ก็ไม่มีสิ่งใดขวางชัยชนะของเขาได้

เขาไม่เคยรู้สึกผิดที่เรียกหาปีศาจ หากย้อนเวลาได้ เขายังคงทำเช่นเดิม

พอยกแขนลงก็ไปแตะโดนกระดาษกองหนึ่ง เขาเพียงปรายตามองแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่ไม่เข้าใจก็คือ ไฉนฮองไทเฮาถึงได้นำรูปหญิงงามมาให้เขาเลือกเป็นพระชายา

“เจ้าก็เลือกเอาสักคนเถิด”

เขานึกถึงเสียงรับสั่งของฮองไทเฮา ไม่คิดว่ามีสตรีอยากชะตาขาดมาให้เขาเลือกเป็นพระชายานับสิบคน คงเพราะตำแหน่งพระชายาของชินอ๋องแห่งตุนหวงเย้ายวนจนยอมเอาชีวิตมาเสี่ยง

แม้ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกระดานที่วางหมากอยู่นั้น แต่ก็เข้าใจความคิดของผู้เป็นนายที่ซิ่นเจี่ยงติดตามมานาน เขาเป็นเด็กกำพร้าเดิมทีใช้ชีวิตเร่ร่อน เพราะรูปร่างผอมบางตามประสาเด็กกินไม่อิ่ม ไม่มีเรี่ยวแรงมากมายไปต่อยตีกับผู้อื่น อาศัยที่ตนเองพอมีสติปัญญากับความเจ้าเล่ห์เพทุบาย เอาตัวรอดมาจนได้ อาจารย์วั่นมาพบเข้า ด้วยความเมตตาจึงรับเขาเป็นศิษย์ ให้อยู่ในสำนักศึกษาทำงานทั่วไปพร้อมกับร่ำเรียนไปด้วย และยังตั้งชื่อให้เขาอีก ซิ่นเจี่ยงจึงได้มีชีวิตใหม่ แม้ไม่ได้ร่อนเร่นอนข้างถนน ได้อยู่ในสำนักศึกษา แต่เพราะเป็นเด็กกำพร้าไม่รู้ชาติกำเนิด จึงถูกผู้อื่นดูถูกและกลั่นแกล้ง เขามุมานะเพียรพยายามในการเล่าเรียนจนเก่งกาจสอบขุนนางฝ่ายบุ๋นได้สำเร็จ

ในครานั้น องค์ชายเฟยเทียนยังครองตำแหน่งรัชทายาท มีความสามารถมากล้น สมเป็นโอรสขององค์ฮ่องเต้ วรยุทธ์สูงส่ง แม้ออกรบหลายครั้ง แต่เป็นการศึกเล็กๆ มีเพียงครั้งนั้น...ศึกที่ถูกกล่าวขานว่าเป็น ‘ทรายย้อมโลหิต’ องค์ชายเฟยเทียนนำทัพออกต้านทหารมองโกล เป็นการศึกครั้งใหญ่ กลับเลือกส่งคนที่ไม่เป็นงานมาร่วมรบกับองค์ชาย รวมทั้งเขาด้วย แม้แปลกใจที่ตนเองได้รับเลือกให้เป็นกุนซือออกรบกับองค์ชายเฟยเทียน ทว่าด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อหลังได้รับชัยชนะ เขากลับพบความจริงอันแสนเศร้าที่ว่า การศึกครั้งนั้นเป็นการตั้งใจกำจัดองค์ชายเฟยเทียนอย่างสง่างาม

จะเป็นชะตาลิขิตหรือไร ซิ่นเจี่ยงไม่ได้สนใจแล้ว เชื่อว่าไม่ใช่ทุกผู้คนที่สามารถเรียกปีศาจมังกรเพลิงออกมาได้ องค์ชายเฟยเทียนได้บอกเล่าเงื่อนไขแลกเปลี่ยนครั้งนั้นแล้ว แต่เขาเห็นว่าปีศาจมังกรเพลิงนั้นเป็นทาสในอาณัติขององค์ชายมากกว่าที่องค์ชายจะเป็นทาสของปีศาจมังกรเพลิง นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่เคยหวาดกลัวปีศาจมังกรเพลิง เพราะอย่างไรองค์ชายเฟยเทียนเป็นฝ่ายควบคุมมันได้ตลอดมา

ด้วยความเป็นองครักษ์ ประสาทการรับรู้รวดเร็วกว่าคนทั่วไป เจิ้งหู่และเจิ้งไฉตวัดสายตามองไปยังร่างของหญิงสาวที่ประคองถาดอาหารเข้ามา นางไม่ได้สวมชุดแบบนางกำนัล แต่ก็ไม่เฉิดฉันเหมือนองค์หญิงทั่วไป เป็นเพียงการแต่งกายอย่างเรียบง่าย และมีผ้าโปร่งปิดครึ่งล่างของใบหน้า

แม้ระแวดระวังจนเป็นนิสัย แต่เมื่อจมูกได้กลิ่นหอมหวานก็ลดความระแวงลงและจ้องมองสิ่งที่อยู่ในถาด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel