บทนำ
เสียงกรีดร้อง ดังลั่นกลางเรือนไทยยกพื้นสูงขนาดสามคูหา ระเบียงไม้ทอดยาวไปตามตัวเรือนขนาดกว้าง มีเรือนใหญ่น้อยหลายเรือนรวมกันเป็นหมู่ โดยมีหอกลางทำเป็นศาลาเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจในยามกลางวัน แต่กลับกลายที่รับลม ชมจันทร์ของเจ้าเรือนแห่งนี้ในยามค่ำคืน เรือนหลังงามใหญ่โตโอ่อ่าสมฐานะเจ้าของเรือน
“ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม”
กรี้ดดด
“หยุดแหกปากสักที หากเอ็งไม่หยุดข้าจะเอาอะไรที่ทั้งใหญ่ทั้งแน่นปากเอ็ง อุดปากซะให้เข็ด”
แม้ขุนกริชจะเอ็ดเสียงกร้าว ให้แม่หญิงวิปลาสที่เอาแต่อ้างว่าตัวเอง ‘เมคอัพอาร์ติส’ มาจากอนาคต ปี พ.ศ 2566 นางนี้ก็หาฟังไม่
“ไอ้ที่ท่านขุนจะเอาอุดปากข้ามันคืออะไรรึเจ้าคะ...แน่นและใหญ่ด้วยหรือไม่” คนถามเหลือบมองกำปั้นใหญ่ๆ ที่มีเส้นเลือดปูดโปน
ผ้าขี้ริ้วในมือที่จะเอามาอุดปากนางถึงกับสั่น เมื่อเห็นดวงตากลมโตของนางจ้องเขม็งตรงมาที่กึ่งกลางกายกำยำ ที่แท้นางมองไปด้านหลังว่าในมือท่านขุนกำสิ่งใดไว้แน่น
“....”
ท่านขุนหนุ่มกัดกรามแน่น ข่มจิต ข่มใจ สภาพของนางในเวลานี้ ผ้าถุงหลุดลุ่ย สไบผืนงามหลุดจากไหล่บอบบางไม่มีชิ้นดี จนเผยให้เห็นทรวงอกคัพซีขาวผ่องนวลเนียน ถึงขุนกริชจะเห็นเต้าสาวมาจนนับไม่ถ้วน แต่ภาพตรงหน้าก็ชวนให้พี่ขุนนึกหฤหรรษ์อยากจะเล่นบทโจรบ้ากาม ใจทราม แกล้งแม่คนอวดดี ขึ้นมาบัดเดี๋ยวนี้
“ผ้าขี้ริ้วในมือข้า ตั้งใจจะเอามาอุดปากห้ามเสียงร้องเจ้า หากนำมาผูกที่ข้อมือบางๆ ของเจ้าโยงไว้เก็บหัวเตียงคงจะน่าหฤหรรษ์กว่าเยอะ ข้าจะได้เป็นโจรบ้ากามใจทรามสมกับที่ถูกกล่าวหาข้า”
