11 อย่าไปน่ารักกับใครอีกนะ...
กวินภพกลับมาถึงห้องพักหลังจากที่ไปตระเตรียมอะไรบางอย่างอยู่ในมือ เขาก็แทบหัวใจวายเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นหญิงสาวกำลังรื้อตู้เสื้อผ้าทั้ง ๆ ที่เธอใส่เพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
ตุ๊บ!..
ของในมือกวินภพร่วงหล่น หญิงสาวในชุดกระโจมอกรีบหันขวับไปมองผู้มาเยือน แล้วเธอก็แทบจะร้องกรี๊ด
“กรี๊ด!!!.. ทำไมคุณมาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยคะ” ถึงแม้ว่าเธอจะชอบยั่วเขาบ้างเป็นบางเวลา แต่ตอนนี้เธอไม่ได้คิดจะยั่วเขาแล้ว อีกอย่างสภาพของเธอนั้นมันช่างล่อแหลมอะไรขนาดนี้ มือบางที่กำชุดชั้นในสุดเซ็กซี่หล่นลงสู่พื้น นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง
“ผมขอโทษ พอดีผมรีบมาเตรียมแผนสัมมนา”
กวินภพรีบปิดประตูแล้วหันหลังขวับ
“ใจเย็น ๆ สิครับ ผมยังไม่ทันจะเห็นอะไรคุณเลยนะ”
ไม่จริงอย่างที่พูดออกไป ตอนนี้เลือดในกายของเขามันแล่นพล่าน หัวใจเต้นอย่างกับกลองชุด ไม่ต้องอธิบายถึงใบหน้าที่ตอนนี้มันคงจะแดงเถือกไปถึงใบหูแล้ว
ณัฐณิชารีบฉวยชุดชั้นในพร้อมเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำก่อนที่จะปิดประตูดังปัง เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูแล้วกวินภพจึงหันหลังกลับไปใหม่ มือหนาวางทาบหน้าอกตัวเองที่หัวใจกำลังจะวายตาย
เขาสะบัดหน้าไล่ความคิดลามกอนาจารออกจากหัวสมอง เขาอุตส่าห์หลบไประงับสติอารมณ์ แต่มาเจอเธอในสภาพแบบนี้ อารมณ์เร่าร้อนที่เพิ่งดับไปกลับปะทุขึ้นมาอีก
กวินภพต้องไม่คิดถึงเรือนร่างของเธอในตอนนี้ต้องสลัดออกจากหัวสมองให้หมด เพราะอีกสองชั่วโมงเขาจะต้องไปงานเลี้ยงต้อนรับของโรงแรม
กวินภพจึงหยิบชุดที่เตรียมไว้ให้หญิงสาว แล้วเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ
“ณิชา เย็นนี้งานเลี้ยงต้อนรับของโรงแรมคุณใส่ชุดที่ผมเตรียมไว้ให้นะครับ”
“ค่ะ ๆ” หญิงสาวตะโกนออกมาจากในห้องน้ำ
ณัฐณิชา ยืนอกสั่นขวัญแขวนอยู่หน้าประตู เธอกลัวเขาจะเปิดประตูเขามา เพราะเธอไม่ได้ล็อกห้องน้ำ
หัวใจเธอเต้นกระหน่ำจนต้องเอามือบางไปทาบอก เธอพยายามหลับตาลงควบคุมสติ แต่แล้วสติเธอก็ต้องกระจุยกระจายเพราะว่าเสียงเคาะประตูของคนข้างนอกที่ดังมาอีกรอบ
“ณิชา ๆ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกหญิงสาว
“มีอะไรอีกเหรอคะ” ณัฐณิชา ถามเสียงสั่น
“ชุดที่เตรียมไว้ผมเอาวางไว้บนเตียงนะครับ” กวินภพยิ้มขึ้นมาในใจ ทำไมณัฐณิชาเธอถึงน่ารักน่าเอ็นดูอย่างนี้นะ
“รีบหน่อยนะ จะถึงเวลาแล้ว อีกอย่างผมยังไม่ได้อาบน้ำ”
“ค่ะ” ณัฐณิชา รับคำ ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องน้ำมา หญิงสาวพยายามหลบสายตาของชายหนุ่มและรีบมาหยิบเอาชุดที่เขาเตรียมไว้ให้
ชุดราตรีเกาะอกเข้าสีครีม ได้อยู่บนเรือนร่างของหญิงสาวเรียบร้อย กวินภพที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเปิดประตูออกมาได้จึงเห็นความงามที่อยู่ตรงหน้า เขาพยายามข่มความเป็นตัวตนเอาไว้
ส่วนณัฐณิชาเลือดกำเดาเธอก็แทบจะทะลักทันทีที่เห็นร่างสูงใหญ่ยืนเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันร่างหนาอย่างน่าหวาดเสียวอยู่หน้าห้องน้ำ
“คุณกวินภพ!!! มองอะไรคะ” กวินภพยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ ทำให้ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเมื่อเขาไม่ยอมละสายตาจากเธอ
“มองคุณไง ณิชา วันนี้คุณสวยมาก” เขาชมเสร็จก็รีบเดินไปแต่งตัว ปล่อยให้คนสวยยืนตาค้าง ชายหนุ่มสบายใจที่ได้แกล้งเธอ ก็เธอเอาความสวยมายั่วเขาก่อนทำไมละ
เมื่อเธอเหลือบมองในกระจกก็เห็นเขากำลังเปลื้องผ้าขนหนูออกพร้อมกับใส่กางเกง ให้ตายเถอะ...นี่เขาไม่คิดจะอายเธอหรือยังไงกัน
ณัฐณิชา ยืนค้างอยู่นาน เธอยกมือขึ้นจับใบหน้า ความคิดเตลิดเตลิงวิ่งวุ่น ร่างกายเธอร้อนผ่าว เมื่อกวินภพแต่งตัวเสร็จเขาเดินออกมาเหลือบมองหญิงสาว แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“นี่คุณยังไม่แต่งหน้าอีกเหรอ นี่อย่าบอกนะว่ายืนตรงนี้ตั้งแต่ผมแต่งตัวน่ะ” ณัฐณิชาหลบสายตา เธอส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วรีบเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ถึงแม้ว่าเธอจะชอบเขาก็ตามที แต่มาอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมแบบนี้หัวใจเธออาจจะวายได้
ณัฐณิชาสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีสัมผัสจากอ้อมแขนของใครบางคน
“เป็นอะไร..หึ ทำไมไม่รีบแต่งหน้าอีก แต่ไม่แต่งก็ไม่เป็นไรนะ คุณสวยอยู่แล้ว อีกอย่างพวกหนุ่ม ๆ จะได้ไม่มองคุณด้วย” พูดจบก็กดริมฝีปากลงที่แก้มนิ่มของหญิงสาว
ณัฐณิชาหน้าร้อนผ่าว เธอรีบแกะมือของกวินภพออก
“ปล่อยค่ะ ณัฐณิชา จะรีบแต่งหน้า”
“ไม่ปล่อย” เขาหัวเราะด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์พร้อมส่งสายตาระยิบระยับให้หญิงสาวตรงหน้า
“ถ้าคุณโอ้เอ้ ไปถึงงานช้าไม่รู้ด้วยนะคะ” เมื่อพูดจบ กวินภพจึงยอมปล่อยอ้อมกอดของเขา
ณัฐณิชารีบหยิบเครื่องสำอางมาประทินใบหน้า โดยมีกวินภพนั่งมองอยู่ที่เตียง บางทีเธอก็นึกอิจฉาผู้ชายนักไม่เห็นจะต้องมีอะไรยุ่งยากวุ่นวายเลย ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่จะต้องแต่งนู่นเติมนี่อยู่ตลอดเวลา
เธอแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยก็จัดการทำผมแบบง่ายๆ กวินภพเห็นเธอมวยผมหลวมๆ พร้อมกับติดกิ๊บเล็กๆ บนศีรษะ ณัฐณิชาหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งยิ้มแป้นอยู่ที่เตียง
“เสร็จแล้วค่ะ” กวินภพไล่สายตามองเธอด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม เรือนร่างงดงามอยู่ภายใต้ชุดราตรีสีดำ
เนินอกที่โผล่พ้นเกาะอกนั้นทำให้หัวใจเขาวูบวาบ ทรวดทรงองเอวดูช่างสวยงามดั่งนาฬิกาทราย
เรียวขาขาวผ่องเนียนน่าสัมผัส ปอยผมร่วงลงมาคลอเคลียกับต้นคอน่าขบเม้มยิ่งนัก
กวินภพมองหญิงสาวตรงหน้าจนตาค้าง ณัฐณิชาหน้าแดงกับสายตาที่มองเธอเหมือนจะกลืนกิน
“คุณกวินภพคะ ฉันคิดว่าเราควรจะรีบไป”
“ครับ” กวินภพพยักหน้า ร่างของเขาร้อนรุ่ม เขาไม่อยากละสายตาออกจากเธอไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว ตอนนี้เขาอาจจะโดนคนตรงหน้าร่ายมนตร์สะกดแล้วก็เป็นได้
งานเลี้ยงในโรงแรมจัดอย่างเรียบหรู ณัฐณิชาเดินมาเคียงข้างกับกวินภพ ชายหนุ่มรู้สึกว่าหญิงสาวข้างกายเขาตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่มๆ ในงานเหลือเกิน
แววตาหลายคู่ของหนุ่ม ๆ ในงานเลี้ยง โลมเลียหญิงสาวแล้วเขา จนอยากจะส่งเธอกลับห้องเสียเดี๋ยวนี้ นี่ขนาดหาชุดให้เธอใส่แบบไม่โป๊แล้วยังจะมีคนมองอีก
มือหนารีบยกขึ้นโอบเอวหญิงสาวทันที ณัฐณิชามองหน้ากวินภพด้วยสายตาแปลกใจ เขากระชับอ้อมแขนเพิ่มอีกนิดเพื่อแสดงถึงความเป็นเจ้าของ
“คุณกวินภพ!” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้กวินภพต้องหันไปมอง เขาจำใจต้องปล่อยมือออกจากเอวคอดกิ่วของ ณัฐณิชา เพราะต้องไปทักทายหุ้นส่วนอีกคนในบริษัท
“สวัสดีครับ คุณปรเมศวร์” กวินภพเอ่ยทักทาย
“แล้วนี่มากับใครครับเนี่ย” สายตาที่กำลังประเมินหญิงสาวจ้องมองเธอไม่ขาดระยะ
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อณัฐณิชาค่ะ เป็นผู้ช่วยของกวินภพ” ณัฐณิชา รีบแนะนำตัวเอง
“ผู้ช่วยของกวินภพอย่างนั้นหรือ น่าอิจฉาคุณจริง ๆ ที่มีผู้ช่วยที่สวยสะพรั่งขนาดนี้” กวินภพได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆ แต่ในใจอยากจะอัดหน้าคนชมเสียจริง ยิ่งเห็นแววตาที่จ้องมองแต่เนินอกของณัฐณิชาเขายิ่งเดือดปุด ๆ
เมื่อเขาคุยกับผู้ร่วมหุ้นได้สักพักหันกลับมาอีกทีก็เห็นหญิงสาวเดินไปแถวเครื่องดื่มเสียแล้ว
ณัฐณิชา ทิ้งกวินภพให้คุยกับผู้ร่วมหุ้นเพียงคนเดียว เพราะเธอคอแห้งเหลือเกิน เธอหยิบแก้วน้ำสีสวยขึ้นมาจิบ อีกมือก็หยิบไปเผื่อกวินภพด้วย
“สวัสดีครับ” ณัฐณิชา แทบสำลักน้ำเพราะน้ำเสียงที่ดังอยู่ไม่ไกลจากใบหูเธอ
หญิงสาวหันไปมองทางด้านหลังทันทีทำให้เรือนร่างของเธอนั้นชนกับชายหนุ่มปริศนา
“อะ...เอ่อ” ณัฐณิชาพูดไม่ออก เพราะชายหนุ่มตรงหน้านั้นหล่อคมเข้มแบบชายไทยแท้ แม้จะมีใจให้กับกวินภพอยู่แล้ว แต่การที่เธออยู่ใกล้ชายหนุ่มปริศนาที่หล่อเหลายิ่งกว่านายแบบ ก็อดทำให้เธอหน้าแดงไม่ได้
“ผมชื่อศรุตครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” เขายื่นมือมาข้างหน้า ณัฐณิชารีบวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วยื่นมือบางไปจับมือหนาเพื่อเป็นมารยาท
“ณัฐณิชาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” คิ้วเข้มของเขาขมวดขึ้นนิดหน่อย แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเธอ ตรงกันข้ามกลับลูบไล้อย่างแผ่วเบา
“คุณชื่อณัฐณิชาเหรอครับ ชื่อเพราะดีนะครับ” หญิงสาวพยักหน้า เธอพยายามดึงมือออกแต่ชายหนุ่มตรงหน้ากับจับมือเธอไว้แน่น
ศรุตยกมือขึ้นมาตรงหน้าหมายจะจุมพิตที่หลังมือบาง แต่ทำไมริมฝีปากของเขากลับได้จุมพิตกับมือหนาและหยาบ ๆ ล่ะ?
แล้วศรุตก็ต้องหายสงสัยเพราะเจ้าของมือหนาที่วางทาบทับมือบางของเธอยืนหน้าถมึงทึงอยู่ด้านข้าง
ศรุตรีบปล่อยมือออกจากหญิงสาวทันที ณัฐณิชาแอบหัวเราะอยู่ในใจ เธอไม่เคยเห็นกวินภพแสดงใบหน้าโมโหขนาดนี้มาก่อนเลย
“สวัสดีครับ ผมชื่อกวินภพ” กวินภพทักทายเป็นภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำ ศรุตรีบเก๊กสีหน้าเรียบขรึม
“ผมชื่อศรุตครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” เขายืนมือมาทำความรู้จักกับกวินภพ เจ้าของใบหน้าเขร่งขรึมไม่รอช้ารีบยื่นมือสานสัมพันธ์ทันที
ณัฐณิชา มองชายหนุ่มทั้งสองด้วยความงุนงง เมื่อทั้งคู่ไม่มีทีท่าที่จะปล่อยมือออกจากกัน แน่นอนเธอไม่มีโอกาสได้รู้ว่าภายใต้สีหน้ายิ้มแย้มนั้น เขากำลังทำสงครามบีบมือของคนตรงหน้าอยู่ ใบหน้าของศรุตยิ้มแย้มแต่นัยน์ตานั้นกลับวาวโรจน์ไม่ต่างจากกวินภพ
“เอ่อ...กวินภพคะ ฉันกำลังจะเอาเครื่องดื่มไปให้คุณ” เมื่อเห็นท่าไม่ค่อยดี ณัฐณิชาจึงตัดบทด้วยการรีบส่งแก้วเครื่องดื่มให้ชายหนุ่มทันที
กวินภพสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะปล่อยมือไปรับเครื่องดื่มนั้น
“ขอบคุณครับ”
“ผมอยากทำความรู้จักกับคุณณัฐณิชาจังเลยครับ ไม่ทราบว่าคุณทำงานอะไรเหรอครับ” ศรุตจีบหญิงสาวต่อหน้าต่อตากวินภพ
ชายหนุ่มจ้องใบหน้าชายไทยอย่างมีอารมณ์โมโห มือหน้าที่ถือแก้วเครื่องดื่มอยู่บีบแน่นจนมันแทบจะแตกไปตรงนั้น
กวินภพต้องการแสดงความเป็นเจ้าของก่อนที่ไอ้หนุ่มหน้าอ่อนคนนี้จะมาจีบหญิงของเขา
“เธอเป็น...” กวินภพพูดไม่ทันจบ ณัฐณิชาก็รีบพูดสวนขึ้นไปก่อน เธอชักอยากเล่นอะไรสนุกๆ เสียแล้ว ทีเขายังแกล้งงอนเธอได้ ทำไมเธอจะแกล้งยั่วเขาบ้างไม่ได้
“ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณกวินภพค่ะ แล้วคุณล่ะคะ” ณัฐณิชาส่งรอยยิ้มหวานยั่วยวนใจไปให้ กวินภพกัดฟันกรอด เขาบีบแก้วแน่นแก้วจนเกือบจะแตกคามืออีกรอบ หลังจากพยายามผ่อนคลายอารมณ์โมโห
“ผมเป็นเจ้าของบริษัทน้ำหอมครับยี่ห้อใหม่ที่เพิ่งเปิดตลาดไม่นานนี้เอง ไม่ทราบว่าคุณต้องการจะเปลี่ยนงานหรือเปล่าครับ บริษัทของผมยินดีต้อนรับคุณเป็นพิเศษเลยนะครับ” คำพูดนั้นเป็นเหมือนประกาศชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับกวินภพ
