บท
ตั้งค่า

12 ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ

ชายหนุ่มถลึงตามองศรุตด้วยสายตาที่โกรธเคือง ดวงตาสีน้ำตาลนั้นแทบจะกลายเป็นแดงเพลิงอยู่ตรงนั้น ‘ขอสักหมัดเถอะ!’!

กวินภพไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะหญิงสาวที่มาด้วยของเขากลับไปให้ท่าไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนคนนี้

เสียงฟันกรามขบกันดังกรอด ๆ ริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่มเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง แต่หญิงสาวตรงหน้ายังคงแสร้งทำเป็นสนใจศรุตอยู่

“ก็น่าสนใจดีนะคะ เผอิญว่าดิฉันเป็นคนชอบใช้น้ำหอมซะด้วยสิคะ” ณัฐณิชาพูดจบก็แกล้งเหลือบสายตาไปมองกวินภพแล้วยิ้มยั่วอารมณ์ของชายหนุ่ม ทำให้กวินภพกระแทกแก้วน้ำลงบนโต๊ะทันที

“จริงเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นคุณเอานามบัตรผมไปนะครับ ถ้าเบื่องานเดิม ๆ เมื่อไหร่ก็ติดต่อผมได้ทันที” สีหน้ามีชัยของศรุตทำให้กวินภพเดือดปุด

กวินภพอยากจะพาณัฐณิชากลับเสียตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่าต้องขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงาน ณัฐณิชากำลังจะคว้านามบัตรที่ศรุตยื่นมา มือหนาที่แสนจะว่องไวก็รีบฉวยนามบัตรนั้นมาเสียก่อน

“คงจะยังอีกนานเลยล่ะครับ กว่าที่คุณณัฐณิชาจะเบื่องานที่โรงแรมผม” นามบัตรอยู่ในมือกวินภพ เขารีบเก็บใส่กระเป๋าทันที คิดในใจว่ากลับไปถึงห้องเมื่อไหร่ เขาจะจุดไฟเผากระดาษแผ่นน้อยไม่ให้เหลือแม้แต่เศษซาก

“ถ้าอย่างนั้นคุณมีเบอร์ติดต่อหรือเปล่าครับ เผื่อผมมีอะไรอยากจะปรึกษาคุณ” ณัฐณิชา ชักรำคาญผู้ชายตรงหน้าเสียแล้ว เพราะอาการจีบไม่ปล่อยทำให้เธออยากจะออกจากงานไปเร็วๆ เธอไม่น่าแกล้งยั่วกวินภพด้วยวิธีนี้

“ไม่มีครับ เบอร์ของคุณณัฐณิชา ก็คือเบอร์ของผม” กวินภพทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เห็นทีจะต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้เสียแล้วว่าสาวสวยข้างกายเขาคือว่าที่ภรรยาในอนาคต

“หมายความว่ายังไง?” ศรุตทำสีหน้าสงสัย กวินภพได้ทีก็ยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย ดวงตาทอประกายแห่งชัยชนะอย่างเห็นได้ชัด

“ก็เพราะว่าณัฐณิชา เป็นแม่ของลูกผมไงล่ะ ทีนี้เข้าใจหรือยังครับ” ศรุตหน้าชาไปชั่วขณะ มิน่าล่ะถึงได้มีอาการหึงหวงอย่างออกนอกหน้า คราแรกก็นึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าแค่กำลังสนใจหญิงสาว แต่ที่ไหนได้เป็นถึงแม่ของลูก แสดงว่าเธอจะต้องมีเรื่องทะเลาะกันแน่ ๆ ถึงได้ประชดด้วยการบอกว่าเป็นผู้ช่วย

“น่าเสียดายนะครับ” ศรุตเปรยออกไปอย่างลืมตัว ใช่...เขาเสียดายหญิงสาวตรงหน้าจริง ๆ เพราะความสวย ความน่ารักเซ็กซี่เย้ายวน แถมทรวงอกอิ่มของเธอทำให้ศรุตอยากจะครอบครองเสียเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่นิยมแย่งของ ๆ ใครเสียด้วยสิ

กวินภพกัดฟันกรอด มันจะมาเสียดายอะไรว่าที่เมียเขากันนัก เมื่อเห็นศรุตยืนนิ่งเขาจึงฉวยร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพาเดินไปแนะนำตัวณัฐณิชากับเพื่อนในวงธุรกิจ

มือปลาหมึกติดกาวของกวินภพนั้นทำให้ณัฐณิชา ต้องประเมินชายหนุ่มเสียใหม่ ไม่คิดเลยว่าพ่อม่ายคนนี้จะขี้หึงและหวงเธอได้ทุกสถานการณ์ขนาดนี้

เมื่อถึงเวลาอันสมควร กวินภพก็ขึ้นไปเปิดงาน ใบหน้าหล่อเหลาของกวินภพยามต้องไฟสีเหลืองนวลบนเวทีทำให้ณัฐณิชา ชื่นชมอยู่ในใจ

เขาช่างหล่อเหลาเหลือเกินยิ่งยามที่เขาอยู่ในสภาพผ้าขนหนูพันท่อนล่างอย่างเดียวนั้นทำให้เลือดสาวร้อนฉ่า

กล้ามเนื้อที่เกิดจากการออกกำลังกายนั้นช่างน่าสัมผัส ส่วนสูงที่เหมาะสมพอ ๆ กับคนยุโรปกับผิวขาวๆ ริมฝีปากแดง ๆ นั้นก็ช่างน่าจูบ บางทีเธอก็อยากจะเห็นอะไรที่มากกว่านี้

ณัฐณิชานึกขำตัวเองอยู่ในใจเวลานี้ล่ะกล้าคิดดีนัก พอเวลาเจอเข้าจริงเธอเองกลับไม่กล้า

ศรุตเห็นหญิงสาวยืนอยู่เหงาอยู่คนเดียวก็อดไปทักไม่ได้ เธอและเขาคุยกันได้ดี เพราะความมีมนุษยสัมพันธ์ของณัฐณิชา ทำให้ศรุตนั้นชื่นชม ถึงแม้ว่าณัฐณิชาจะมีเจ้าของแล้วก็ตาม แต่มันคงไม่ผิดที่เขาอยากเป็นเพื่อนกับเธอ

กวินภพลงมาจากเวทีด้วยอารมณ์คุกรุ่น เขาเห็นณัฐณิชา กับศรุตยืนหัวเราะต่อกระซิกกันก็ยิ่งเดือดใหญ่ ไม่คิดเลยว่าเธอจะทำให้เขาแทบคลั่งได้ขนาดนี้ นี่ขนาดเขาอุตส่าห์บอกไปแล้วนะว่าณัฐณิชาเป็นแม่ของลูก มันก็ยังจะมาคุยด้วยอีกอย่างนี้มันต้องโดน

“ณิชา!!!” กวินภพเรียกหญิงสาวเสียงเข้ม ณัฐณิชา หยุดการสนทนาแล้วหันไปมองกวินภพด้วยสายตาใสซื่อ

“คะ”

“ผมอยากกลับห้องแล้ว” เขาไม่พูดเปล่ากลับเดินเข้ามาโอบเอวหญิงสาวเหมือนจะประกาศความเป็นเจ้าของ

“แต่งานยังไม่เลิกเลยนี่คะ”

“ที่รัก แต่ผมอยากกลับแล้วนี่นา” เขากระซิบข้างหูอย่างไม่อายสายตาของศรุตเลยแม้แต่น้อย ถ้าเขาเป็นกวินภพก็คงจะดีไม่น้อยที่ได้มีภรรยาสวยและน่ารักอย่างณัฐณิชา

“ก็ได้ค่ะ กลับก็กลับ” ณัฐณิชารีบดันหน้าอกแกร่งออกห่าง เธอกลัวว่าถ้าปฏิเสธเขาจะทำยิ่งกว่ากระซิบ

“คุณศรุตครับ ผมกับภรรยาต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ” กวินภพรีบบอกกับศรุต

“ตามสบายครับ แล้วเจอกันนะครับ คุณณิชา” ศรุตไม่มองหน้ากวินภพ แถมยังเรียกชื่อเล่นของว่าที่ภรรยาเขาอีก ความแค้นเพิ่มขึ้นสูงปรี๊ด

ณัฐณิชาต้องยอมตามใจเขา และตามกวินภพกลับห้องไป ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวแล้วเดินผ่านกลุ่มชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลายโต๊ะ กลุ่มคนพวกนั้นได้แต่อิจฉาหญิงของเขาทั้งนั้น

เมื่อเธอพาเขากลับเข้าห้อง ทันทีที่ประตูห้องพักถูกปิดลงพร้อมกับลงกลอน กวินภพก็รีบสวมกอดณัฐณิชา จากด้านหลังทันทีเขาเหมือนคนที่หิวกระหายและพลางกระซิบเสียงดุ

“ทำไมต้องไปให้ความหวังกับมันด้วย” ณัฐณิชา สะดุ้ง เมื่อกายเธอแนบชิดกับร่างแกร่ง

“ให้ความหวังอะไรกันคะ..ณิชา ไม่รู้เรื่อง” ณัฐณิชา ทำหน้าซื่อ เธอพยายามบิดกายออกห่าง แต่บางครั้งเธอกลับชอบในสัมผัสของเขาเหลือเกิน

ยิ่งเธอดิ้นเรือนร่างงดงามก็ยิ่งเบียดเสียดแนบกายเขาไปทุกที กวินภพครางน้อย ๆ ในลำคอ

“นี่คุณ..ประชดผมเหรอ จะแกล้งเอาคืนผมใช่ไหม..หึ” ริมฝีปากแดงของกวินภพกระซิบเข้าใกล้ใบหูพลางขบกัดแผ่วเบา ณัฐณิชาขนลุกซู่

“ก็เปล่านี่คะ ณิชา..ไม่ได้แกล้งคุณเลยสักนิด” ร่างกายของเธอร้อนผ่าว ศีรษะของเธอพิงไปกับแผงอกกว้าง ลมหายใจอุ่นเป่ารดต้นคอไม่ห่าง

หญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มกับรสสัมผัสของเขาเสียแล้ว นัยน์ตาปรือลงเมื่อเรียวแขนถูกมือหนาลากผ่าน

กวินภพมองเห็นเนินอกอวบอิ่มชัดเจน ตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ไม่ไกลจากมือสักเท่าไหร่ ถ้าเอื้อมไปสัมผัสตอนนี้เธอจะว่าอะไรเขาไหมนะ?

ณัฐณิชารู้สึกได้ว่ากวินภพกำลังลังเล เธอจึงแกล้งเอนกายไปแนบชิดอีกหน่อย ขยับสะโพกเล็กน้อยให้พอเสียดสีกับจุดที่ไวต่อความรู้สึก

เพียงแค่นั้นกวินภพก็อารมณ์แตกกระเจิง กวินภพลากมือผ่านลำคอลงเรื่อยมายังเนินอก แล้วลงมากอบกุมทรวงอกจนเต็มมือ

“คุณกวินภพ” ณัฐณิชา ครางเสียแผ่วเธอแกล้งผลักเขาออกเบา ๆ ด้วยเกรงว่า เขาจะเห็นเธอเป็นผู้หญิงใจง่าย แต่ทั้งที่จริงแล้วเธอกลับต้องการเขาเสียเหลือเกิน

“ณิชา คุณรู้ไหมว่าวันนี้คุณสวยมาก” น้ำเสียงหวานฉ่ำชวนฟังนั้นทำให้ณัฐณิชขนลุกซู่

หญิงสาวอมยิ้มในใจ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่พูดเขาก็ยิ่งได้ใจ พลิกร่างบางให้หันหน้ามาเผชิญกับตัวเอง สายตาคมไล่มองเรือนร่างทุกตารางนิ้ว ริมฝีปากประกบเรียวปากบางทันที

ณัฐณิชาสะดุ้งเล็กน้อย แต่เธอยอมปล่อยให้กวินภพทำตามใจชอบ ชายหนุ่มจูบหญิงสาวไปมา เขาบดคลึงครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งยามเธอเผยอเรียวปากขึ้นมาเพื่อเรียกอากาศหายใจ

กวินภพได้โอกาสจึงสอดใส่เรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากอย่างลึกซึ้ง คนน้อยประสบการณ์อย่างณัฐณิชาถึงกับยืนไม่อยู่

เมื่อสัมผัสที่เขานั้นมอบให้เธอนั้นช่างเร่าร้อน หญิงสาวเรียกร้องให้มือหนาสัมผัสไปที่เอวบางแล้วลูบไล้แผ่วเบา

“ณิชา...คุณชอบมั้ย”

“ฉันไม่เคยปฏิเสธคุณได้สักครั้ง”

“อื้อ!.”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel