บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7

หลังจากอาหารเช้ากันตะพาปรินดากลับมาที่แพปลาอีกครั้ง หญิงสาวยอมเปลี่ยนชุดเพื่อให้เป็นคนเกาะกลทีป์เต็มตัว ผ้าถุงลายดอกและเสื้อผ้าฝ้ายสีเข้มไม่ได้ทำให้ความสวยที่โดดเด่นของเชลยสาวลดลงเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งทำให้กลายเป็นที่สนใจของชาวบ้านและทุกคนที่อยู่โดยรอบ โดยเฉพาะแวววิไลที่สงสัยเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร

“ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม แวว” กันตะเอ่ยถามแวววิไลที่ยืนเช็กการขนของอยู่ที่ริมหาด

“เรียบร้อยค่ะ คุณต๊ะ นี่เป็นรายงานสรุปทั้งหมดของวันนี้” แวววิไลยื่นเอกสารให้พร้อมกับมองไปด้านหลังของชายหนุ่ม เห็นปรินดาเปลี่ยนชุดและมองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ

กันตะแนะนำให้ปรินดารู้จักกับแวววิไลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง พร้อมทั้งบอกให้ผู้ช่วยสาวรู้ว่าอีกฝ่ายจะมาทำอะไรที่นี่

“สวัสดีค่ะ คุณแวววิไล” ปรินดาทักทายด้วยรอยยิ้ม

“นี่คุณปรินดา จะมาช่วยงานเราที่เกาะ”

“มาช่วยงาน” แวววิไลมองหน้าเจ้านายหนุ่มด้วยความแปลกใจ

แวววิไลเก็บความสงสัยไว้ในใจโดยไม่เอ่ยปากถาม ปรินดาเป็นใครกัน แล้วทำไมกันตะถึงได้นำตัวเธอมาทำงานที่นี่ ตอนนี้เกาะกลทีป์ไม่เปิดให้คนนอกหรือคนที่ไม่เคยค้าขายเข้าออก แต่เจ้าของเกาะกลับมาสาวน้อยหน้าหวานคนนี้เข้ามาอยู่ใกล้

ถึงแวววิไลจะไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดแต่ก็มองออกว่าปรินดาไม่ใช่ลูกหลานของคนที่นี่แน่ อีกทั้งท่าทีเก้กังเมื่อเช้าด้วยแล้วยิ่งชัดเจนว่า เธอคือคนที่อื่นไม่ใช่ลูกหลานของเกาะกลทีป์อย่างแน่นอน

"ใช่ ให้เป็นผู้ช่วยแววแล้วกัน สอนงานได้เต็มที่" กันตะปล่อยให้สองสาวอยู่กันเพียงลำพัง ส่วนตนเองไปตรวจดูสินค้าที่กำลังจะขึ้นฝั่งอีกด้าน

"คุณแววเป็นคนที่นี่เหรอคะ" ปรินดาชวนคุยเพื่อสร้างความสนิทสนม

"ค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่นักหรอกค่ะ พอดีว่าเรียนจบด้านบัญชีมาท่านเจริญวิทย์ก็เลยให้ไปช่วยงานบนฝั่ง แต่ว่าตอนนี้ที่เกาะกำลังมีเรื่องฉันก็เลยต้องกลับมาช่วยคุณต๊ะก่อน" แวววิไลแนะนำตัวเองเล็กน้อย

"มิน่าล่ะ มาคราวที่แล้วดาถึงได้ไม่เคยเห็นคุณแววเลย"

"คุณเคยมาที่นี่แล้วเหรอคะ" แวววิไลย้อนถามด้วยความสงสัย

ชักเริ่มรู้สึกแปลกๆ ปรินดาเคยมาทำอะไรที่นี่ และดูเหมือนว่าท่าทีที่กันตะมีต่อหญิงสาวจะพิเศษกว่าคนอื่นเป็นไหนๆ ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าของเกาะหนุ่มไม่มีข่าวคราวกับผู้หญิงบ้านไหนหรือใครทั้งสิ้นมาก่อน กันตะบ้างานจนลืมคำว่าผู้หญิงเสียด้วยซ้ำ หรือว่าเจ้าหล่อนคือคนพิเศษของชายหนุ่มกันแน่

"เคยมาค่ะ แต่ช่างมันเถอะค่ะ ว่าแต่คุณแววจะให้ดาทำอะไรคะ" ปรินดาเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะไม่อยากตอบคำถามให้มากไปกว่านี้

“คุณแวว จะให้ดาทำอะไรคะ” ปรินดาเรียกแทนตัวเองอย่างสนิทสนม

“เรียกแววเฉยๆ ก็ได้ค่ะ เราไปทำงานกันเลยดีกว่า"

งานที่แวววิไลสอนให้ปรินดาทำในวันนี้คือ การพาไปนับจำนวนไหน้ำปลาที่จะส่งขึ้นฝั่งในวันพรุ่งนี้ อาชีพของชาวบ้านบนเกาะทำประมงเกือบทุกหลังคาเรือน คุณเจริญวิทย์และกันตะจึงหาช่องทางให้ชาวบ้านสามารถมีรายได้จากการประมงในทุกด้าน เขาสอนชาวบ้านหมักน้ำปลาที่มีคุณภาพเพื่อเป็นน้ำปลาแท้ชั้นหนึ่ง เมื่อได้เวลาที่สมควรก็จะนำขึ้นไปส่งขายให้กับโรงงานใหญ่ที่มารอรับซื้อประจำ

ทุกคนที่เกาะกลทีป์ให้ความไว้วางใจและความเคารพคุณเจริญวิทย์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะเมื่อสมัยก่อนที่บิดาของชายหนุ่มมาจับจองเป็นเจ้าของเกาะนั้น ได้ให้คำมั่นสัญญากับชาวบ้านจะทำให้ความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้น และจะไม่ทำลายธรรมชาติที่สวยงามและมีมานานคู่เกาะให้หายไปเด็ดขาด

ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านจนกระทั่งกันตะมาดูแลเกาะนี้ต่อจากคุณเจริญวิทย์ วิถีชีวิตของชาวบ้านจึงไม่เปลี่ยนไปเท่าไรแต่มีกลับมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามลำดับ เพราะกันตะช่วยชาวบ้านให้ขายของได้ราคาสมกับความเหนื่อยยากที่เสี่ยงชีวิตอดหลับอดนอนออกทะเลไปทั้งคืน โดยการทำแพปลาขึ้นมาเป็นผู้เพื่อรับซื้อจากชาวบ้านในราคายุติธรรมและส่งขึ้นฝั่งไปขาย หรือการหารายได้เสริมต่างๆ ให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นนอกจากการทำประมงอย่างเดียว

“คุณดาเช็กจำนวนไหและชั่งน้ำหนักด้วยค่ะ” แวววิไลสอน

“ต้องชั่งน้ำหนักด้วยเหรอ”

“ค่ะ เพราะว่าบางทีคุณต๊ะขายเป็นน้ำหนักไม่ได้เหมาที่ราคาไห ถ้าไม่ชั่งไว้เราจะไม่รู้ว่าบ้านนี้เท่าไรใครมากใครน้อย เวลาเคลียร์เงินจะลำบากค่ะ”

“แล้วต้องถือตาชั่งไปทุกบ้านเหรอคะ”

“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวจะมีคนมายกน้ำปลาที่เราจดแล้วเอาไปชั่งแล้วบันทึกมาส่งอีกที”

แวววิไลพาปรินดามาที่หมู่บ้าน หญิงสาวจึงได้เห็นว่าวิธีการนับไหน้ำปลาทำอย่างไร ชาวบ้านจะเอาน้ำปลาที่หมักแล้วในไหมากองตั้งไว้ที่บ้านใครบ้านมัน จากนั้นก็จะมีผู้ชายที่รูปร่างแข็งแรงมาช่วยยกไหไปกองรวมกัน จำนวนไหที่กองรวมกันไม่ใช่น้อยๆ แต่ละไหก็มีขนาดและความใหญ่ไม่เท่ากัน บางบ้านก็ใช้ไหเล็กแต่จำนวนมาก บางบ้านก็ใช้โอ่งมังกรใหญ่ที่ปิดฝาอย่างดี

“น้ำปลาพวกนี้คือที่เรากินเหรอคะ” ปรินดาถามด้วยความสงสัย

“ค่ะ เป็นน้ำปลาแท้ชั้นหนึ่ง เราใช้เวลาหมักเกือบปีนะคะถึงจะได้น้ำปลา พวกนี้ส่งเข้าโรงงานไปให้เขาผลิตต่อ”

“เกือบปีเหรอคะ ทำไมนานจัง”

“ค่ะ น้ำปลาที่ดีจะหมักประมาณแปดถึงสิบสองเดือน มีขั้นตอนการทำที่ไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไรแต่ก็ต้องอดทนกว่าจะได้ออกมาแบบนี้ เราต้องตากต้องฝึ่งแดดทำหลายอย่างค่ะ หมดรุ่นนี้แล้วอีกสักพักชาวบ้านก็คงทำรุ่นใหม่ ไว้ถ้าชาวบ้านทำฉันจะมาคุณมาดู ว่าแต่จะทนกลิ่นได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง”

“มันเหม็นมากเหรอคะ”

“ไม่หรอกค่ะ มันคาวมากกว่า อ้อ กลิ่นเกลือด้วย”

“น้ำปลาแท้มันสีอะไรคะ ที่ดาเห็นมันออกแดงๆ”

“สังเกตง่ายๆ สีน้ำตาลแดงใสค่ะ แต่เดี๋ยวนี้โรงงานใส่สีก็มี วิธีดูคือเราต้องแยกกลิ่นหรือดูที่ข้างฉลาก อีกอย่างถ้าเป็นน้ำปลาแท้ราคามันค่อนข้างสูงเพราะกว่าจะได้ก็ที่คุณดาเห็นนะคะ”

“แล้วคุณแววต้องมาดูแลเรื่องนี้ทุกวันเลยเหรอคะ” ปรินดาถามด้วยความสงสัย คราวที่แล้วเธอไม่เห็นปูนิ่มทำงานแบบนี้

“ไม่ค่ะ พอดีพรุ่งนี้คุณต๊ะจะให้ส่งน้ำปลาพวกนี้ไปให้ลูกค้าตามกำหนดที่เคยซื้อขายกันคุณดาเลยได้เห็น นี่ยังไม่หมดนะคะยังมีอีกแต่คงรอบหน้าแต่หลายเดือนกว่าจะขายได้ โชคดีที่คราวที่แล้วเกาะเกิดเรื่องพวกโจรคงไม่รู้ว่าชาวบ้านหมักน้ำปลาไว้ไม่งั้นคงแย่”

“พรุ่งนี้จะส่งน้ำปลาเหรอคะ” ปรินดานึกอะไรออกขึ้นมาบางอย่าง บาทีไหน้ำปลาพวกนี้อาจจะช่วยเธอได้

จัดการเรื่องน้ำปลาเรียบร้อยแล้ว แวววิไลจึงเดินกลับมาที่แพปลาพร้อมปรินดาอีกครั้ง สองสาวดูจะถูกชะตาคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น ปรินดาทึ่งในความรู้ความสามารถที่แวววิไลมีอยู่รอบตัวเกี่ยวกับทะเลมากมาย รวมถึงเกาะกลทีป์ที่เรียกว่ารู้จักทุกซอกทุกมุมเลยก็ว่าได้

“ฉันเกิดและโตที่นี่นี่ค่ะ ลมบกลมทะเลหรือแม้แต่จะเกิดพายุตอนไหนฉันก็พอจะรู้ เมื่อก่อนบ้านฉันก็ทำประมงเหมือนกันแต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว” แวววิไลเอ่ยถึงความหลังของครอบครัวตนเองให้หญิงสาวฟัง

“บ้านคุณแววอยู่ตรงไหนคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel