บท
ตั้งค่า

ไม่ใช่ผัว

-หลายเดือนผ่านไป-

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น หลังจากลดาเริ่มสงสัยระแคะระคาย ดูเหมือนว่าพี่คินน์จะเว้นระยะห่างกับฉันมากขึ้น แต่ความสัมพันธ์ของฉันและเขายังคงเหมือนเดิม ทุกอย่างยังเป็นความลับโดยที่ไม่มีใครรู้ และดูเหมือนว่าเขาจะระวังตัวเองมากขึ้น

เราสองคนยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาโดยตลอด แต่อาจจะไม่บ่อยเท่าช่วงแรก สัปดาห์ละสามถึงสี่ครั้ง

“เสร็จหรือยังนับ” เสียงของพี่ครามดังขึ้น ปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ในขณะที่กำลังยืนมองตัวเองที่อยู่ในชุดนักศึกษาอยู่หน้ากระจก

ฉันสมัครเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนที่เดียวกับพี่ครามและพี่คินน์ตามความประสงค์ของป้าลี โดยมีป้าเป็นคนจ่ายค่าเทอมให้ทั้งหมด ฉันเลือกสมัครเรียนคณะอักษรศาสตร์เพราะมีความฝันว่าอยากเป็นครูซึ่งคนในบ้านก็เห็นดีด้วยและไม่ได้ขัดอะไร

“เสร็จแล้วค่ะ” สิ้นประโยคตอบกลับ ฉันจึงรีบคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาคล้องบ่า ก่อนจะเปิดประตูห้องออกไปหาพี่ครามที่ยืนรออยู่ เวลาไปมหา’ลัย ฉันจะอาศัยติดรถพี่ครามไปซะส่วนใหญ่ ถ้าวันไหนเลิกเรียนไม่ตรงกัน ฉันก็จะนั่งรถเมล์หรือไม่ก็แท็กซี่กลับ

“รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวรถติด”

ฉันเดินตามหลังพี่ครามออกมาขึ้นรถคันหรูที่จอดอยู่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่คินน์เดินออกมาจากบ้านพอดี

ดวงตาคู่คมหันมามองหน้าฉันแค่เสี้ยววินาที ก่อนที่เขาจะเดินไปขึ้นรถของตัวเองโดยไม่พูดอะไร ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะบางทีเขาอาจจะเบื่อฉันแล้วก็ได้

“เป็นอะไรหรือเปล่า?” พี่ครามเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฉันเงียบไปตั้งแต่ขึ้นรถมา

“เปล่าคะ”

“กินข้าวเยอะๆ หน่อยนะเราอ่ะ พี่ว่าช่วงนี้นับดูผอมลงไปเยอะเลย” มือหนาเลื่อนมาลูบหัวฉันเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “มีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า?”

“นับแค่คิดเรื่องเรียนนิดหน่อย”

“ไม่ต้องคิดมาก ค่อยๆ ปรับตัวไป อีกไม่นานเดี๋ยวก็ชินเอง”

“ค่ะ”

“แล้วไอ้คินน์มันได้มาแกล้งอะไรเราอีกไหม?”

“เปล่าค่ะ เขาไม่ได้แกล้งอะไรนับ”

“มีอะไรให้พูดกับพี่ตรงๆ นะ ถ้ามันทำอะไรนับ พี่จะเป็นคนจัดการมันเอง” ครั้งนี้พี่ครามพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดุดัน ที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง

น้อยครั้งที่ฉันจะเห็นพี่ครามในโหมดจริงจังแบบนี้ เพราะปกติเขาดูเป็นคนใจเย็นและใจดีกับฉันเสมอ

-มหาวิทยาลัย-

“นับดาว ยู้ฮู้ววว”

ฉันหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นว่าเป็นยัยเพลิน ยัยวาวา และกวินที่ยืนรออยู่หน้าตึกคณะ เขาสามคนคือเพื่อนใหม่ฉันเอง พวกเราสี่คนค่อนข้างเข้ากันได้ดีทีเดียว

เพลินและวาวาเป็นลูกสาวข้าราชการระดับชั้นสูง ส่วนกวินเป็นลูกชายทายาทเจ้าของโรงแรมดัง พวกเขาสามคนมีฐานะดีแต่ก็ยังเลือกที่จะมาคบกับคนธรรมดาแบบฉัน โดยไม่ได้รังเกียจหรือดูถูกฉันเลยสักนิด

“ขอลอกการบ้านหน่อยสิที่รัก” กวินเปิดประเด็นพลางเลื่อนใบหน้าเข้ามาถูไถที่ไหล่ฉันเพื่อเป็นการออดอ้อน

“สมองก็มี หัดคิดเองบ้างสิ”

“ก็สมองของฉันมันไม่ดีเท่าเธอนิ ฉะนั้นอย่าพูดมาก เอาการบ้านมาให้ฉันลอกซะดีๆ”

ฉันถอนหายใจออกมายกใหญ่ แต่ก็ยอมใจอ่อนให้กวินลอกการบ้านแต่โดยดี

“เมื่อเช้าพี่ชายสุดหล่อของแกมาส่งใช่ไหม?” วาวาหันมาถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น

“ใช่ พี่ครามเป็นคนมาส่งฉันเอง”

“คนอะไรหล่อชะมัดญาติเลย ขนาดนั่งอยู่ในรถแต่ความหล่อนี่ฟุ้งกระจายกระแทกตาฉันแบบเต็มๆ”

“ที่แกพูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่เคยเห็นพี่คินน์น้องพี่ครามใช่ไหม” ครั้งนี้เป็นยัยเพลินที่พูดแทรกขึ้นบ้าง “พี่คินน์นี่หล่อสุดๆ ทรงอย่างแบดโดนใจฉันสุดๆ แต่น่าเสียดายที่มีแฟนแล้ว แถมแฟนเขายังสวยมากด้วยนะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อลดา เป็นดาวคณะบริหารด้วย”

“…..” ฉันได้แต่นั่งก้มหน้าเม้มปากเงียบ ฟังในสิ่งที่เพลินกับวาวากำลังพูดถึงผู้ชายคนนั้น

“แกรู้สึกยังไงที่มีพี่ชายทั้งหล่อทั้งรวยถึงสองคน” วาวาหันมาถามฉันที่นั่งอ่านหนังสืออยู่

“พวกเขาน่ะรวย แต่ฉันยังจนเหมือนเดิม”

“เอาน่า อย่างน้อยแกก็ยังได้อยู่ใกล้ผู้ชายหล่อตั้งสองคน ไม่ต้องไปคิดมาก” ยัยเพลินพูดแทรกขึ้นพลางตบบ่าฉันเบาๆ จะถือว่ามันกำลังปลอบใจฉันอยู่แล้วกัน

-ตอนเย็น-

“ไปขึ้นรถสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง” กวินเดินเข้ามาหาในระหว่างที่ฉันกำลังยืนรอรถโดยสารอยู่หน้ามหา’ลัย วันนี้พี่ครามเลิกค่ำ ฉันเลยต้องกลับก่อน

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวนั่งรถเมล์กลับ” ฉันปฏิเสธเพราะเกรงใจกวิน เพราะเขาค่อนข้างไปส่งฉันบ่อยแล้ว

“จะเกรงใจอะไรนักหนา ถือซะว่าเป็นการตอบแทนที่เธอชอบให้ฉันลอกการบ้านแล้วกัน ไปขึ้นรถ”

ยังไม่ทันได้พูดหรือปฏิเสธอะไร กวินก็จับมือฉันให้เดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล

ผ่านไปราวๆ เกือบสามสิบนาที กวินก็มาส่งฉันถึงหน้าบ้านโดยสวัสดิภาพ

“บ้านนายกับบ้านฉันอยู่ห่างกันตั้งไกล คราวหลังไม่ต้องมาส่งก็ได้”

“ฉันมีเวลาว่างเยอะ ไปส่งเธอแค่นี้สบายมาก” กวินพูดอย่างไม่คิดอะไร

“เอาไว้พรุ่งนี้จะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนนะ”

“ครั้งนี้ขอเป็นสเต๊กเนื้อแล้วกัน ส่วนข้าวมันไก่ฉันเบื่อแล้ว” กวินตีหน้าเศร้าเพราะทุกครั้งที่ฉันเป็นเจ้ามือจะเลี้ยงได้แค่ข้าวมันไก่หรือไม่ก็ก๋วยเตี๋ยว ถ้าจะกินอาหารหรูๆ แบบภัตตาคารฉันคงไม่มีเงินมากขนาดนั้น

“งบฉันมีให้แค่ข้าวมันไก่ ถ้านายอยากกินสเต๊กคงต้องจ่ายเงินเอง”

“ขี้งกชะมัดเลย ถ้างั้นข้าวมันไก่เหมือนเดิมก็ได้”

“รีบไปได้แล้ว มัวแต่เล่นอยู่นั่นแหละ”

“งั้นฉันไปก่อนนะที่รัก เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้”

ฉันยิ้มกว้างยืนมองรถของกวินที่ขับออกไป โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครบางคนที่ยืนมองอยู่ก่อนหน้านั้น

“ห่างค…ฉันแค่ไม่กี่วัน รู้สึกว่าเธอจะคันจังเลยนะ”

“…..” ฉันทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจในประโยคหยาบคายที่เขาพูด สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือรีบเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ดูเหมือนว่าพี่คินน์จะไม่ยอมจบง่ายๆ เพราะเขารีบตามมาขวางหน้าฉันไว้ไม่ให้เดินหนี

“วันก่อนเพิ่งโดนฉันเอา พอเช้ามาก็เป็นไอ้คราม ส่วนตอนเย็นก็เป็นไอ้เวรนี่อีก เมียฉันนี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ”

“พี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ?”

“ฉันเข้าใจผิดอะไร!?”

“เมียพี่คือลดาไม่ใช่นับ”

“แต่ฉันเอากับเธอบ่อยกว่าเอากับลดานะ แถมยังปล่อย…ใส่เธอทุกรอบ”ดวงตาคู่คมไล่สายตามองสำรวจเรือนร่างฉันอย่างคุกคาม พลางแสยะยิ้มมุมปาก แล้วเดินเข้ามาใกล้ “แล้วแบบไหนสมควรเรียกเมียมากกว่ากัน!”

“แต่สำหรับนับ นับไม่เคยคิดว่าพี่เป็นผัวค่ะ”

เขาหยุดชะงักเพียงเสี้ยววินาทีเมื่อได้ยินในสิ่งที่ฉันตอบกลับมา

“ปากดี! คงต้องโดนฉันอบรมสั่งสอนบ้างแล้วล่ะ”

“…..”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel