บท
ตั้งค่า

หอมเมีย

“ถ้าคิดว่าหนีฉันพ้นก็ลองดูสิ!”

นับดาวเลือกที่จะไม่ตอบโต้แล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ก้าวขาได้ไม่ทันไรก็ถูกชายหนุ่มกระชากแขนเอาไว้เสียก่อน

“อื้ออ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อถูกเขาโน้มริมฝีปากลงมาประกบจูบแบบไม่ทันตั้งตัว โดยที่ไม่สนใจว่าใครจะผ่านมาเห็น

เธอพยายามใช้มือทั้งสองข้างผลักอกคนตัวโตให้ถอยห่าง แต่ดูเหมือนว่าแรงที่มีอยู่น้อยนิดจะไม่สามารถต้านทานเขาได้เลย

“อื้ออ” นับดาวได้แต่ร้องประท้วงอยู่ในลำคอเมื่อเรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างเอาแต่ใจพร้อมดูดดึงริมฝีปากบางอย่างมูมมาม ส่วนมือหนาก็ล้วงเข้าในกางชั้นในพลางลูบไล้ไปยังจุดอ่อนไหว

“พะ…พอแล้วพี่คินน์” เธอพ่นลมหายใจหอบถี่เมื่อคำขอไม่เป็นผล เขายังพยายามสอดนิ้วเรียวเข้ามาในร่องสวาทแล้วขยับอย่างเอาแต่ใจ

“ฮึกก อื้ออ” ริมฝีปากบางสั่นระริกเมื่อร่างกายไม่รักดี เริ่มปลดปล่อยสารล่อลื่นออกมาจนเปื้อนฝ่ามือหนา เธอไม่สามารถควบคุมความรู้สึกนี้ได้เลย

“อยากให้เอาตรงนี้ไหมล่ะ ฉันทำให้ได้นะ”

“ไม่ค่ะ นับไม่อยากให้พี่ทำ”

“คินน์คะ คินน์” เสียงของลดาดังขึ้นไม่ไกล นับดาวรีบอาศัยจังหวะที่เขาเผลอวิ่งออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะเห็นว่าลดากำลังเดินตรงมาทางที่เธออยู่พอดี

“คุณนับเห็นพี่คินน์ผ่านมาแถวนี้หรือเปล่าคะ?” ลดาเอ่ยถามอย่างไม่สงสัยอะไร

ร่างบางเม้มปากเงียบเพื่อคิดคำตอบ ยิ่งได้เห็นหน้าลดา เธอยิ่งรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นได้ เพราะลดาดูรักคินน์มาก และลดาคงเสียใจไม่น้อยถ้ารู้เรื่องของเธอกับชายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน

“เมื่อกี้นับเพิ่งเห็นพี่คินน์เดินผ่านไปทางด้านหลัง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” สิ้นประโยคนั้น คนตัวเล็กจึงรีบออกวิ่งออกมา โดยที่ไม่ทันรอฟังว่าลดาจะพูดหรือถามอะไรต่อ

“คินน์หายไปไหนมา ลดาเดินตามหาตั้งนาน” ลดาเอ่ยถามแหนหนุ่มเมื่อเห็นเขากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ในมุมมืดที่หลังบ้าน

“ตามหาฉันทำไม มีอะไรหรือเปล่า?”

“ลดาเห็นพี่คินน์หายไปนาน เลยมาตามค่ะ”

“แค่ออกมาสูบบุหรี่”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เรารีบเข้าบ้านกันเถอะค่ะ” ลดาเดินเข้าไปเกาะแขนแฟนหนุ่มเหมือนที่ชอบทำ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของผู้หญิงที่ติดอยู่บนตัวของเขา มันเหมือนกับกลิ่นของนับดาวที่เพิ่งเดินผ่านไปเมื่อกี้

“เป็นอะไรไป?”

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”

วันต่อมา

“คุณนับ” เสียงหวานของลดาร้องเรียกนับดาวที่กำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่ในห้องรับแขก วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ทุกคนในบ้านเลยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

“เรียกว่านับดาวเฉยๆ ก็ได้ค่ะ เรียกคุณนับแล้วฉันรู้สึกไม่ค่อยชิน” คนตัวเล็กรู้สึกเกร็งเพราะเธอกับลดามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

“ก็ได้ค่ะ ต่อไปนี้ลดาจะเรียกว่านับดาวเฉยๆ โอเคไหม”

“โอเคค่ะ” นับดาวยิ้มให้อย่างจริงใจ

“ลดากับพี่คินน์กำลังจะไปเดินห้างอยู่พอดี เลยอยากชวนนับไปเที่ยวด้วยกัน”

“ไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณลดาตามสบาย”

“ไปด้วยกันเถอะนะ เห็นคุณแม่บอกว่านับไม่ค่อยได้ออกไปไหน ถือว่าออกไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน”

“เธอไปด้วยก็ดีนะ ฉันกำลังขาดคนถือของอยู่พอดี อยู่บ้านว่างๆ ก็หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งกินนอนกิน” เสียงชายหนุ่มดังแทรกขึ้น จากทางด้านหลัง พร้อมกับสายตาบางอย่างที่มองมาทางเธออย่างกดดัน

“แต่นับไม่อยากไป”

“เธอไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะอยากหรือไม่อยาก”

“…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่อย่างชั่งใจ เธอรู้สึกอึดอัดถ้าเกิดว่าต้องอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งสามคน

“ไปขึ้นรถ”

“ทำไมพี่คินน์ดุจังเลยล่ะค่ะ คุณนับหน้าซีดหมดแล้ว” ลดาพูดขึ้นพลาง มองไปยังนับดาวด้วยความรู้สึกสงสาร เพราะท่าทางของร่างบางแสดงออกมาชัดเจนว่ากลัวคินน์ไม่ใช่น้อย

“รีบไปสิ! มัวยืนรออะไร!?”

“ไปกันเถอะนับ เดี๋ยวจะโดนพี่คินน์ดุอีก” เมื่อเห็นว่านับดาวยืนนิ่ง ลดาจึง ถือวิสาสะจับมือหญิงสาวให้รีบเดินออกมาจากตรงนั้น

“…..”

ห้างสรรพสินค้า

“ลดาอยากได้รองเท้ากับเสื้อผ้าใหม่ พี่คินน์ซื้อให้หน่อยได้ไหม?”

“ก็เอาสิ”

ฉันยืนมองลดาที่กำลังยืนเกาะแขนพี่คินน์พลางทำสีหน้าออดอ้อนเพื่อขอในสิ่งที่ต้องการ คนทั้งสองเดินนำอยู่ด้านหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด

มือทั้งสองข้างของฉันในตอนนี้เต็มไปด้วยถุงกระดาษแบรนด์เนมมาก มายที่พี่คินน์เอามาให้ฉันถือ ไม่ว่าลดาอยากได้อะไรหรือราคาแพงแค่ไหน พี่คินน์ก็ตามใจและยินดีจ่าย

“ชุดนั้นสวยมากเลยนับ ลดาว่ามันเหมาะกับนับมากเลยนะ” ลดาเดินมาหาฉัน ก่อนจะชี้นิ้วให้มองไปยังชุดเดรสสีขาวตัวยาวที่อยู่ในหุ่นโชว์

เป็นเหมือนที่เธอบอก ชุดนั้นดูสวยมากจริงๆ แล้วราคาก็คงแพงไม่ใช่เล่น แล้วฉันก็คงไม่มีปัญญาซื้อมันได้แน่ๆ

“พี่คินน์คิดเหมือนกันไหม ถ้านับดาวได้ใส่ต้องสวยมากแน่ๆ”

“เธออยากได้หรือเปล่า?” พี่คินน์หันมาถามฉันที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง

“ไม่ค่ะ นับไม่อยากได้” ฉันรีบตอบกลับพลางส่ายหน้าปฏิเสธในทันที เพราะรู้ตัวดีว่าคงไม่มีปัญญาซื้อมันได้

“งั้นพวกเธอสองคนไปรอที่รถก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอแวะสูบบุหรี่แป๊บนึง แล้วจะตามไป”

ลดาพยักหน้ารับ พร้อมกับจูงแขนฉันไห้เดินตามออกมายังลานจอดรถ เมื่อซื้อของกันเสร็จสรรพ

ระหว่างที่อยู่บนรถ ฉันที่นั่งอยู่เบาะหลังเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไร ส่วนมากจะเป็นลดาที่ชวนคุยเสียมากกว่า เธอค่อนข้างน่ารักและอัธยาศัยดี ไม่ได้แสดงว่ารังเกียจฉันเลยแม้แต่นิด

รถเบนท์ลี่ย์สีดำคันหรูของพี่คินน์เคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ ถ้าฉันเดาไม่ผิดน่าจะเป็นบ้านของลดา

“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง เอาไว้เจอกันที่มหา’ลัยนะ” ลดาพูดขึ้น ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหาพี่คินน์ที่นั่งข้างๆ แล้วหอมแก้มฟ่อดใหญ่

“ถ้าถึงบ้านแล้วจะโทรหา”

“ลดาไปก่อนนะนับ แล้วเจอกันคราวหน้า” ครั้งนี้ลดาเป็นฝ่ายหันมาบอกฉันแล้วยิ้มให้

พอลดาเดินลงจากรถไป บรรยากาศภายรอบเริ่มมาตึงเครียดอีกครั้ง มันเริ่มรู้สึกกดดันเมื่อเห็นสายตาของพี่คินน์ที่กำลังจ้องมองมาทางฉันผ่านกระจกหลัง

“ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอ ย้ายมานั่งข้างหน้า!”

“ค่ะ” พอได้ยินดังนั้น ฉันจึงลุกลี้ลุกลนรีบเปิดประตูเข้ามานั่งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ

“ฉันให้”

“…..” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปมด้วยความสงสัยเมื่อเขายื่นถุงกระดาษบางสิ่งบางอย่างมาให้ฉัน

“รับไปสิ มัวนั่งมองอยู่ได้” ฉันรับสิ่งของนั้นมา ก่อนจะพบว่ามันคือชุดเดรสสีขาวที่อยากได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปซื้อมันมาตั้งแต่ตอนไหน

“ซื้อให้นับจริงๆ เหรอคะ?” ที่ฉันต้องถามแบบนี้เพราะเห็นป้ายราคาสามหมื่นกว่าบาทที่ติดอยู่ ซึ่งมันแพงกว่าที่ฉันคิดไว้หลายเท่า

“ฉันบอกว่าให้ก็คือให้”

“…..” ฉันเลือกที่จะเงียบไม่ถามเซ้าซี้อะไรต่อ

“แล้วไหนล่ะคำขอบคุณ?”

“ขอบคุณค่ะ”

ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเขาริมฝีปากลงมาหอมแก้มฉันฟ่อดใหญ่ ทั้งๆ ที่อยู่หน้าบ้านของลดาแต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel