บท
ตั้งค่า

3.2 ภพชาติ

แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อผู้เฒ่าอาวุโสก้มศีรษะของตนลง พร้อมกับที่หมิงยู่ยกมือของตนขึ้นคำนับ “ข้าขออภัยที่มาสร้างความวุ่นวาย”

“มิกล้าเอาเรื่ององค์ชายหรอก”

ฟาหยางตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อกี้อาจารย์เรียกเจ้าบ้านั่นว่า...องค์ชายงั้นหรือ?!

ราวถูกสาดด้วยน้ำเย็นถังใหญ่ หนาวเหน็บและชาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ฟาหยางแอบลอบกลืนน้ำเฮือกใหญ่เมื่อสิ่งที่ตนคิดไว้ถูกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าอย่างกะทันหัน สายตาของทุกคนที่จับจ้องมาทำเซียนหนุ่มรู้สึกกระดากอาย จึงได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความขลาดกลัว

“ฟาหยาง!! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงก่อเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ ข้าจะกักบริเวณเจ้า และขอสั่งห้ามเจ้าเข้าสอบใดๆ เป็นเวลาสามพันปี!”

ฟาหยางทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง รีบคำนับขออภัยต่อการกระทำที่ขาดความยั้งคิดของตน

“ลงโทษแค่นี้เองหรือ ความจริงควรเนรเทศออกไปเสียด้วยซ้ำ” หมิงยู่กัดฟันกรอด

ผู้เฒ่าอาวุโสก้มมองศิษย์ของตนที่นั่งแอบอยู่ข้างหลัง ตัวสั่นงันงก สองมือนั้นกำชายเสื้อของผู้เฒ่าแน่น ราวลูกนกที่พลัดตกจากรังในฝนพรำ

“นี่เป็นความผิดแรก ข้าไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นตาแก่ใจร้าย”

“แล้วเจียวซือเล่า เจียวซือจะเป็นอย่างไร”

“องค์ชายอย่าทรงเป็นกังวล สหายของท่านจะต้องปลอดภัยแน่ เท่าที่ข้าเพ่งพินิจดู เจียวซือเป็นผู้มีความสามารถ พลังวิญญาณของเขาช่างสูงส่ง ถึงถูกส่งไปยังโลกมนุษย์ก็ต้องเอาตัวรอดได้แน่”

“ท่านว่าอย่างไรนะ! โลกมนุษย์งั้นหรือ!”

หมิงยู่แสดงอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด จนผู้เฒ่าต้องรีบกล่าวต่อ “เนื่องจากลั่นวาจาไม่ตรงกับใจ จึงทำให้วิญญาณต้องลงไปเกิดเพื่อชดใช้โทษ แต่ก็เป็นเพียงโทษสถานเบา ไม่กี่วันเจียวซือก็จะได้กลับขึ้นมาแล้ว”

เวลาบนโลกเทียบกับเบื้องบน ช่างต่างกันมากนัก สำหรับหมิงยู่เพียงแค่ไม่กี่วันคงได้เจอะเจอกับเจียวซือแล้ว แต่เจียวซือละ! เขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร กว่าจะเติบใหญ่และจบชีวิตก็คงอีกหลายสิบปี เขาต้องลำบากมากเป็นแน่

คิดได้ดังนั้นองค์ชายปีศาจก็อดรนทนไม่ได้ที่จะนั่งรอเฉยๆ จึงรีบจ้ำอ้าวออกไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของผู้เฒ่าอาวุโส “องค์ชายอย่าได้ไปขวางชะตากรรมของเจียวซือเลย ปล่อยให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตด้วยตนเองเถิด”

ไกลออกไปยังหมู่บ้านที่ห่างไกลเมืองหลวง ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเพิ่งให้กำเนิดทารกน้อยร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง

“เด็กผู้ชายเจ้าค่ะ!!!” เสียงโห่ร้องของบรรดาสาวใช้ดังกึกก้องไปทั่วเรือน ตามมาด้วยเสียงตีฆ้องร้องป่าวประกาศให้ชาวบ้านร่วมยินดีกับทายาทคนแรกของหัวหน้าหมู่บ้าน

“ไหนๆ ลูกพ่อ มาให้พ่ออุ้ม...”

แต่แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าพลันเลือนหายในทันที เด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำดูน่าเอ็นดูหากแต่ใบหน้าครึ่งหนึ่งนั้นดูคล้ายถูกไฟไหม้จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม น่าสยดสยองและหวาดกลัวยิ่งนัก

“นะ...นี่มันอะไรกัน ทะ...ทำไมถึง”

“มีอะไรหรือเจ้าคะท่านพี่”

ฮูหยินใหญ่เอ่ยถามอย่างสงสัย ขณะสาวใช้ส่งบุตรชายให้นางดู หญิงสาวก็นิ่งงันด้วยความตกตะลึง พลางมองพิจารณาลูกชายของตน “นะ...นี่”

“เด็กคนนี้ใช่ลูกคนแน่เหรอ นี่เจ้าคงไม่ได้ไปสมสู่กับปีศาจตนใดมาใช่หรือไม่!”

ฮูหยินอ้าปากค้าง ก่อนหันมองผู้เป็นสามีด้วยความเสียใจระคนโกรธเคือง “เหตุใดท่านพี่ถึงกล่าวหาข้าเช่นนี้! ข้ามีเพียงท่านพี่คนเดียว ท่านก็รู้...”

น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองของนางอย่างสุดจะทนไหว สองมือประคองทารกน้อยขึ้นแนบอกของตน พลางสัมผัสไปที่ฝ่ามือเล็กอย่างทะนุถนอม แม้คราแรกจะหวาดกลัว แต่อย่างไรเสียเด็กคนนี้ก็เป็นเลือดเนื้อของนาง ความผูกพันที่ได้อุ้มท้องไม่อาจทำให้นางเฉยชาต่อลูกของตนได้

“น่าขายหน้าเสียจริง ต่อไปนี้เจ้าสองแม่ลูกจงย้ายไปอยู่เรือนทางด้านหลังเสีย หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้าก็อย่าริอาจโผล่มาให้เห็นเชียว” ร่างสูงเค้นเสียงอย่างรังเกียจ ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและเดินออกจากห้องไป

หลังจากผ่านความเป็นความตาย จนให้กำเนิดทายาทสืบสกุลแก่เขา แต่สิ่งที่ได้รับกลับช่างเลวร้ายหนักหนา นี่หรือสิ่งที่ท่านตอบแทนข้า! ความเสียใจพรั่งพรูดั่งสายน้ำที่ไม่มีวันหยุดไหล สองตาเหลือบมองลูกชายที่ส่งเสียงร้องอยู่ในอ้อมแขน

“ไม่ว่าอย่างไร แม่ก็จะปกป้องเจ้า เลี้ยงดูเจ้าให้เติบใหญ่จนได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel