4.เตรียมใจ (ต่อ)
*** ทักทายคร้า ***
รถวิ่งออกจากสนามบินด้วยความเร็วปกติ ดวงตาคมเข้มมองออกไปนอกตัวรถเพื่อดูทิวทัศน์ข้างทาง เกือบสิบปีหลังมารดาที่เป็นคนเบลเยียมเสียชีวิตเดนิชก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย กระทั่งชีคหนุ่มต้องการขยายฐานธุรกิจและเขาก็ต้องการขยายงานมาที่บ้านเกิดมารดาเป็นอันดับแรก
“มีอะไรหรือเปล่าดามัส” ชีคหนุ่มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิท หากสายตายังมองผู้คนที่เดินอยู่ด้านนอก
ดามัสหันหลังไปมองเจ้านายหนุ่ม
“ชีคจะร่วมทุนกับนายพลพาเวลจริงๆ เหรอครับ”
ชีคเดนิชยิ้มบางๆ ที่ริมฝีปากและดึงแว่นกันแดดออกจากใบหน้า
“ทำไม”
“ดูท่าทางไม่ค่อยหน้าไว้ใจ เหมือนมีบางอย่างปิดบังเราอยู่”
ชีคเดนิชใช้ความเงียบในการตอบคำถามลูกน้องคนสนิท เขาเองก็พอจะรู้ประวัติคร่าวๆ ของนายพลนอกราชการคนนี้มาพอสมควร แม้เบื้องหน้าจะเป็นนักบุญบริจาคเงินเพื่อการกุศลหลายล้านบาท แต่เบื้องหลังเน่าเฟะค้าของผิดกฎหมายทุกอย่าง แต่หลักๆ จะเป็นวัตถุโบราณและอาวุธสงคราม
“การยืนอยู่ข้างคนชั่วจะทำให้เรารู้ว่าใครเป็นคนดีและน่าคบไม่ใช่เหรอดามัส”
“แสดงว่าชีคมีบริษัทที่จะร่วมลงทุนแล้วสิครับ”
เดนิชยังไม่ทันได้ตอบคำถามเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน มือหนากดรับสายทันทีที่เห็นเบอร์ที่หน้าจอ
“ครับนายพลพาเวล”
“วันนี้ชีคมีนัดที่ไหนหรือยังครับ ถ้าไม่มีผมของเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับชีคอย่างเป็นทางการ”
ชีคหนุ่มเหยียดยิ้มมองออกไปนอกตัวรถ จริงๆ วันนี้เขาอยากพักผ่อนมากกว่าที่จะไปนั่งปั้นหน้าอยู่กับนายพลนอกรีต แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะต้องการรู้จักนายพลคนนี้มากกว่าเดิม
“ยินดีครับ ยังไงขอเป็นคืนพรุ่งนี้ดีกว่านะครับ วันนี้ผมอยากพักผ่อนมากกว่า” ไม่รู้ว่าปลายสายจะตอบว่ายังไง ปลายนิ้วแข็งแรงก็กดตัดสายทันทีที่พูดจบ ไม่นานรถขบวนรถลีมูซีนสีดำมันวาวสามคันก็วิ่งไปจอดหน้าโรงแรมหรูที่มีห้องพักแพงที่สุดในกรุงบรัสเซลส์ เจ้าของโรงแรมและพนักงานต้อนรับต่างมายืนต้อนรับมหาเศรษฐีแห่งรัฐเซการ์ ซึ่งเป็นรัฐขนาดกลางแถบทะเลทรายโบกี
“ยินดีต้อนรับครับชีค” เบนซ์ เบการี่ เจ้าของโรงแรมกล่าวต้อนรับอย่างนอบน้อม ร่างสูงเดินเข้าไปสวมกอดญาติมารดาที่เหลือเพียงคนเดียวอย่างคุ้นเคย
“หวัดดีครับน้าเบนซ์ สบายดีนะครับ”
“สบายดีครับ ยินดีมากที่ชีคกลับที่นี่อีก”
“กลับมาสิครับ เพราะที่นี่ก็บ้านผมเหมือนกัน”
เดนิชเอ่ยอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินตามเบนซ์ไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม ขณะที่ยืนรอ ลิฟต์ด้านข้างก็เปิดออก ตามด้วยร่างโปร่งระหงของชีวาวลัยในชุดเดรสสีน้ำทะเลเปลือยไหล่ขาวนวลเนียนเดินควงแขนโรม วาเนอร์บิดาออกจากลิฟต์ ความโดดเด่นของดวงหน้าหวาน บวกกับรูปร่างสมส่วนทำให้ดวงตาคมชำเลืองมอง แล้วริมฝีปากได้รูปก็เหยียดยิ้ม ก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟต์ แต่เดนิชก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังร่างโปร่งระหงอีกครั้ง
ดามัสมองตามสายตาเจ้านายหนุ่มและก้มหน้าซ่อนยิ้มเอาไว้
แสงสีทองของอาทิตย์อัสดงลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว แต่ร่างสูงใหญ่บึกบึนของชีคเดนิชยังคงอยู่ในชุดเดิม ดวงตาคมเข้มยังคงทอดมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงบรัสเซลส์อยู่นาน จนกระทั่งประตูเปิดออก ตามด้วยร่างของดามัสเดินเข้ามา
“ประวัติของนายพลพาเวลครับชีค” ดามัสยื่นเอกสารให้ผู้เป็นนาย
“นายเล่าให้ฟังดีกว่า ฉันขี้เกียจอ่าน”
ดามัสยิ้มแล้วเดินไปวางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเริ่มเล่ารายละเอียดเกี่ยวนายพลนอกรีต
“นายพลพาเวลถูกให้ออกจากราชการเมื่อห้าปีก่อน ข้อหามีส่วนพัวพันกับการค้าวัตถุโบราณชิ้นสำคัญของเบลเยียมครับ เมื่อสองปีที่แล้วได้สั่งฆ่าอัลบาโร่แต่หลักฐานอ่อนจึงรอดคุกมาได้ และตอนนี้กำลังระดมทุนเพื่อเจรจาเข้าร่วมทุนกับวาเนอร์ไดมอนด์ เพื่อหาทางเข้าไปในหุบเขาทางตอนใต้ของบรัสเซลส์ ซึ่งเป็นเขตสัมปทานของตระกูลวาเนอร์ เพราะที่นั่นมีสายแร่มูลค่ามหาศาล”
“ตระกูลวาเนอร์เหรอ” เดนิชพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยิบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่านอย่างสนใจ หูก็คอยฟังเสียงของลูกน้องคนสนิท
“วาเนอร์เป็นเจ้าของดาวเทียมสื่อสารสำคัญในแถบยุโรปและเอเชีย เจ้าของชื่อโรม วาเนอร์ครับ แต่ตอนนี้ได้ถ่ายโอนอำนาจให้ลูกชายคนโตบริหาร เมื่อปีที่แล้วได้ยื่นประมูลสัมปทานต่อจากอัลบาโร่ที่เสียชีวิตจากการลอบสังหาร จึงทำให้วาเนอร์หันมาจับธุรกิจเครื่องประดับด้วยครับ” ดามัสหาข้อมูลละเอียดเหมือนเช่นทุกครั้ง
เดนิชยังคงมองกระดาษในมือด้วยแววตาเรียบเฉย
“จากรายละเอียดที่นายได้มา วาเนอร์เป็นบริษัทที่มีมาเฟียหลายกลุ่มหนุนหลังอยู่ แสดงว่าธุรกิจด้านมืดคงมีอยู่บ้างใช่ไหม
“ไม่นะครับชีค เพราะเท่าที่รู้ วาเนอร์จะทำธุรกิจด้านมืดก็ต่อเมื่อมีคนเล่นสกปรกเท่านั้น”
“ในเวลาแค่วันเดียวเราได้รู้แล้วว่าใครดีใครเลว พรุ่งนี้ก็คงจะมีละครฉากใหญ่ของนายพลพาเวลให้ดูอีกตามเคย”
ชีคเดนิชบอกพลางเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเหลือบมองแสงไฟหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ มือใหญ่หยิบขึ้นมาแล้วกดลึกที่มุมปาก
“หวัดดีครับนายพล” เดนิชเอ่ยทักทายไปตามสายด้วยน้ำเสียงสุภาพ ร่างสูงเดินไปรับลมที่ระเบียงหน้าห้องทำงาน
“รบกวนหรือเปล่าครับชีค”
“ไม่ครับ ไม่ทราบมีอะไรพิเศษหรือเปล่า”
“ผมอยากชวนชีคออกมาเปิดหูเปิดตายามค่ำคืนเท่านั้นเองครับ ไม่ทราบว่าชีคจะสะดวกหรือเปล่า”
เดนิชเหยียดยิ้มกับแผนเอาใจของนายพลชรา
“สะดวกครับ ยังไงอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ”
ดามัสได้ยินเท่านั้นก็เดินไปสั่งองครักษ์ที่ยืนหน้าประตูให้โทรไปบอกพลขับเตรียมรถทันที
“ไปไหนครับชีค” ดามัสขยับตัวตามร่างสูงที่เดินผ่านไป
“มีคนใจดีพาท่องราตรี” ชีคเดนิชตอบขณะเดินไปที่ลิฟต์ องครักษ์สี่คนที่ยืนอยู่หน้าห้องรีบตามอารักขาเจ้านาย
*******
