2.งานใหม่ที่ได้รับ
*** ทักทายคร้า ***
เสียงเคาะประตูห้องทำงานทำให้หัวข้อการสนทนาของโรมและรัชชาหยุดลง ก่อนจะหันไปมองร่างระหงของนางฟ้าประจำบ้านเดินเข้ามา ชีวาวลัยเข้าไปโอบเอวหนาบิดาแล้วหอมแก้มเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ โรมยกมือลูบศีรษะเล็กและมองบุตรสาวด้วยสายตาอบอุ่น
“มีอะไรกับพ่อหรือเปล่าชิว”
“ชิวจะมาบอกพ่อกับพี่รัชว่าชิวพร้อมจะทำงานแล้วค่ะ”
รัชชาสบตาบิดายิ้มๆ ก่อนจะหันไปหาน้องสาว
“ดีเลย พี่กับพ่อกำลังปรึกษากันเรื่องเปิดบริษัทพอดี”
รัชชาบอกพลางส่งเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้าให้น้องสาว มือเรียวสวยหยิบขึ้นไปอ่านอย่างสนใจ ก่อนจะเงยหน้าสบตาบิดา
“บริษัทอัญมณีเหรอคะ” คิ้วโก่งสวยดุจคันศรขมวดเข้าหากันเป็นปมอย่างแปลกใจ เพราะวาเนอร์กรุ๊ปมีเครือข่ายเป็นบริษัทเกี่ยวกับการสื่อสารแทบทั้งสิ้น
“ชิวจำหุบเขาที่อยู่เมืองทัวร์เน (Tournai) ที่อัลบาโร่สัมปทานได้ใช่ไหม”
หญิงสาวพยักหน้า สายตาจ้องมองพี่ชายเพื่อรอฟังคำอธิบาย
“พอรัฐบาลรู้ว่าอัลบาโร่ใช้การสัมปทานสายแร่บังหน้า ก็ยกเลิกสัญญาทั้งหมดแล้วเปิดสัมปทานใหม่ พี่กับพ่อก็เลยตกลงกันไปยื่นซองด้วยและเราก็ได้มา”
“แล้วมันเกี่ยวกับบริษัทที่เราจะเปิดยังไงคะพี่”
“สายแร่ที่สำรวจพบเป็นเพชรและพลอยที่สวยมาก พี่กับพ่อเห็นตรงกันว่าเราจะทำเครื่องประดับส่งออก ตอนนี้เพชรและพลอยที่เราขุดเจอมีมากพอที่เราจะนำมาเจียระไน และแบบเครื่องประดับบางชิ้น จันทร์ลองทำไปเสนอลูกค้าดูเขาก็ออร์เดอร์มาแล้วด้วย และต่อไปพี่ว่าเราต้องจัดงานแสดงเครื่องประดับเพื่อโปรโมตอีกครั้ง”
“พ่อก็เลยอยากให้ชิวลองทำดู แรกๆ พี่เราคงต้องไปช่วยงานก่อน พอทุกอย่างอยู่ตัวชิวต้องทำเอง ไหวใช่ไหม” โรมยิ้มให้ ชีวาวลัยขยับไปโอบเอวบิดาและหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างขอบคุณ
“ไหวสิคะ ลูกพ่อยังไงต้องไหวอยู่แล้ว แล้วจะให้ชิวเริ่มงานเมื่อไหร่คะ”
“ทันทีเลยน้องรัก แล้วนี่เป็นรายละเอียดทั้งหมด อ่านแล้วก็ลองดูว่างานโปรโมตเครื่องประดับของวาเนอร์ไดมอนจะโชว์ได้เมื่อไหร่” รัชชาหยิบแฟ้มยื่นให้ ชีวาวลัยหยิบไปอ่านอย่างกระตือรือร้น
“ขอบคุณนะคะพ่อ พี่รัช ที่ไว้ใจ ชิวจะทำให้เต็มที่ค่ะ”
“ตอนนี้มีหลายบริษัทยื่นขอร่วมธุรกิจกับเรา ยังไงเดี๋ยวพี่จะพาเราไปคุยกับลูกค้าด้วย เตรียมตัวไว้ก็แล้วกัน”
“พร้อมทุกเมื่อค่ะท่านรอง” หญิงสาวลุกขึ้นยืดตัวตรงรับคำสั่ง ทำเอาพ่อกับพี่ชายมองอย่างเอ็นดู จากนั้นชีวาวลัยก็ขอตัวไปอ่านรายละเอียดที่ห้อง
“งานนี้พวกโลภคงวิ่งเข้ามาหาเรา” รัชชาเอ่ยเสียงเรียบ
โรมยิ้มบางพลางขยับตัวแล้วยกชาขึ้นจิบ ก่อนจะตอบออกไป
“คนที่อันตรายน่าจะเป็นนายพลพาเวล เพราะพ่อได้ยินมาว่าเป็นนายใหญ่ที่บัญชาการอยู่เบื้องหลังอัลบาโร่ และคนที่ดับลมหายใจของมันคงจะเป็นคนมีสีกลุ่มนี้”
“ผมจะระวังครับพ่อ”
“ดี อย่าประมาท เพราะนั่นหมายถึงน้องก็จะไม่ปลอดภัยด้วย ดูแลกันให้ดี อย่าเสี่ยงถ้าไม่คุ้ม” โรมเตือนสติบุตรชาย
รัชชาพยักหน้ารับคำ งานนี้นักฆ่าไร้เงาคงรวมตัวกันอีกแล้ว เพราะมีคำสั่งจากนายใหญ่ให้ตามดูแลความปลอดภัยให้ทายาทวาเนอร์และคนในครอบครัว
ตึกวาเนอร์เทเลคอมสูงระฟ้าตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงบรัสเซลส์ บนชั้นเก้าของตัวตึกถูกใช้เป็นที่ทำการชั่วคราวของวาเนอร์ไดมอนด์ ผู้บริหารสาวสวยกำลังง่วนอยู่กับเอกสารกองโตที่วางอยู่บนโต๊ะ จนกระทั่งเสียงเลขาฯ ดังขึ้น
“คุณชิวคะ มีคนมาขอพบค่ะ”
“ใครเหรอจ๊ะ” ใบหน้าหวานละสายตาจากเอกสาร เงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับเลขาฯ วัยกลางคนที่พี่ชายส่งมาช่วยงาน
“เธอบอกชื่อปานวาด แจ๊สซี่ แล้วก็ชื่อทิวลิปค่ะ”
ชีวาวลัยตาโตอย่างดีใจ เพราะชื่อที่เลขาฯ เอ่ยมาเป็นเพื่อนสนิทของเธอที่เป็นคนไทยและเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันจนจบ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานตามที่ถนัด และทั้งสามก็เป็นคนไทยที่ครอบครัวมาตั้งรกรากในเบลเยียม ร่างระหงจึงเดินไปเปิดประตูให้ด้วยตัวเอง สองสาวกับอีกหนึ่งสาวที่ตัวเป็นชายแต่หัวใจเป็นหญิงยืนโพสต์ท่ารอผู้บริหารสาวหน้าห้อง
“สวัสดีค่าท่านผู้บริหารสาว ไม่ทราบว่าจำพวกเดี๊ยนได้ไหมฮะ” แจ๊สซี่โพสต์ท่าแล้วเดินนวยนาดสะบัดผมยาวประบ่า ก่อนจะวนไปรอบตัวหญิงสาว
“วาด แจ๊ส ทิว คิดถึงจังเลย” ชีวาวลัยโถมตัวเข้าไปกอดเพื่อนๆ ทำเอาสาวประเภทสองถึงกับเซรับร่างบางแทบไม่ทัน
“เบาๆ สิคุณหนูชิว เดี๋ยวก็ล้มกันพอดี” ปานวาดตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเอ่ยออกมา จากนั้นสี่สาวก็พากันเดินเข้าไปในห้อง
“ว้าว! ห้องทำงานสวยจังเลยชิว” ทิวลิปมองไปรอบๆ ห้อง
ชีวาวลัยยิ้มให้กับทุกคน แล้วนกกระจอกก็แตกรังเมื่อต่างคนต่างแย่งกันพูด จนปานวาดต้องยกมือห้าม
“เดี๋ยวนะจ๊ะ เพื่อนๆ ที่น่าเกลียดน่าชังกรุณาพูดทีละคนค่ะ เริ่มจากยัยแจ๊สก่อน” เมื่อถูกจัดคิวจากเจ้าแม่ระเบียบอย่างปานวาด ทำให้สามสาวส่งค้อนให้แต่ก็ยอมรับแต่โดยดี
“นิสัยเจ้าระเบียบยังไม่เลิกอีกนะยัยวาด” ชีวาวลัยแซวแววตาเป็นประกาย
“แม่คนนี้เอกลักษณ์เขาล่ะ ว่าแต่ชิวกลับมาเมื่อไหร่ เราสามคนเพิ่งรู้ข่าวเมื่อวานนี้เอง วันนี้ก็เลยนัดกันมาหา”
“มาได้สองอาทิตย์แล้ว ตั้งใจจะไปหาเธอสามคนอยู่เหมือนกัน แต่พอดีงานยุ่งๆ เลยไม่มีเวลา ต้องขอโทษจริงๆ นะทุกคน” หญิงสาวบอกเสียงอ้อนในตอนท้าย ทำเอาเพื่อนๆ ต้องยอมใจอ่อน
“ไม่ต้องอ้อนเลยยัยชิว ยังไงพรุ่งนี้เธอต้องเป็นเจ้าภาพวันเกิดฉันด้วย”
“ว้าว! จริงสิ พรุ่งนี้วันเกิดคุณหมอทิวลิปนี่ ฉันจำได้” ชีวาวลัยตาโตมองใบหน้าสวยใสแล้วยิ้มให้ “เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ว่าแต่เราจะไปฉลองที่ไหนดี”
“ก็ผับพ่อยัยวาดไง ดีไหม เผื่อว่าพ่อจะลดให้ในราคาพิเศษ” แจ๊สซี่จีบปากจีบคอบอก ทำให้สามสาวพยักหน้าเห็นด้วย
“คิดๆ แล้วก็คิดถึงสมัยเรียนเนอะแก” แจ๊สซี่ยกมือประสาน ตาหวานเยิ้มคิดถึงวันรับน้องของมหาวิทยาลัยที่ทำให้พวกเธอทั้งสี่รู้จักกันและจับสลากได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ถึงแม้จะมาจากคณะละสาขาวิชาแต่ความลำบากในช่วงรับน้องที่มหาวิทยาลัยด้วยกัน ทำให้ทั้งสี่สัญญาจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป แม้จะแยกย้ายกันไปทำงานตามสาขาที่เรียนมา แต่ทั้งสี่ยังติดต่อและไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ ปานวาดเรียนการโรงแรมพอจบก็ช่วยธุรกิจของครอบครัว ทิวลิปพอจบแพทย์ก็ได้ทำงานในโรงพยาบาลในกรุงบรัสเซลส์ ส่วนแจ๊สซี่เป็นหลานสาวของโซเฟีย พอจบก็ไปช่วยงานที่ห้องเสื้อ
“งั้นตกลงตามนี้นะจ๊ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันว่าเราไปหาอะไรๆ กินก่อนดีกว่า ฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย” ร่างโปร่งระหงเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนโต๊ะ
“เอางี้ วันนี้ฉันสามคนลงขันเลี้ยงต้อนรับ แกอยากกินอะไรเต็มที่” แจ็สซี่บอกอย่างใจป้ำ ทำเอาสามสาวหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างมีความสุข ก่อนจะพากันเดินไปที่ประตู
*****
