บทที่ 2 ออกตามหา (3)
และในตอนนี้เหรียญกุหลาบได้ตกอยู่ในมือของเธอเรียบร้อยแล้ว...
สลิลโรสรับเหรียญนั้นมาอย่างงง ๆ เธอไม่เข้าใจกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจของคาเธียร์ และที่มึนหนักกว่านั้นก็คือ ทำไมเจ้าหน้าที่กองประกวดถึงไม่ส่งหลักฐานชิ้นสำคัญนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คนพวกนี้กลับเลือกที่จะเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญไว้กับตัว หรือคนพวกนี้ต้องการเก็บเหรียญโลหะนี้ไว้เป็นที่ระลึกกับเรื่องระทึกขวัญที่เกิดขึ้นเท่านั้น!
นี่มันเรื่องบ้ามาก ๆ โดยแท้!
“โรส ถ้าเจอเจนแล้ว อย่าลืมบอกให้พี่สาวของเราติดต่อแม่ด้วยนะ แม่รู้สึกห่วงยัยโรสมาก ๆ” คุณหทัยพันธ์ที่มาส่งลูกสาวขึ้นเครื่องบินบอกด้วยความห่วงใย
“ได้ค่ะ รับรองพี่เจนต้องเซอร์ไพรซ์กับการมาของโรสแน่” สลิลโรสปรับน้ำเสียงให้สดใส ทั้งที่ความจริงน้ำตาแทบร่วงจากเบ้าตา แน่นอนว่าการเดินทางในครั้งนี้สำคัญมาก ถ้าเธอตามหาตัวพี่สาวไม่พบ นั่นก็หมายความว่า ทุกสิ่งที่ทำลงไปจะสูญเปล่า...
“พระเจ้าทรงคุ้มครองลูกสาวที่น่ารักของแม่อยู่แล้ว”
สลิลโรสสวมกอดมารดาทันที “ดูแลสุขภาพนะคะ แล้วโรสจะหิ้วหนุ่มหล่อมาฝากคุณแม่”
คุณหทัยพันธ์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี “แม่อยากได้ลูกเขยหล่อ ๆ มากกว่า เอาล่ะ ไปขึ้นเครื่องเถอะลูก”
สลิลโรสบรรจงหอมแก้มแม่อีกครั้ง “โรสรักคุณแม่นะคะ”
คุณหทัยพันธ์ลูบศีรษะลูกสาวอย่างเอ็นดู ส่วนแมมมอธกับหนุงหนิงที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ยิ้มแหย ๆ ให้คุณหทัยพันธ์พ้อมกับประนมมือไหว้
“ไปก่อนนะคะคุณแม่” แมมมอธจีบปากจีบคอบอก
“โชคดี เที่ยวให้สนุก ฝากลูกสาวแม่ด้วยนะจ๊ะ”
“ค่ะ” หนึ่งสาวแท้กับหนึ่งหนุ่มไม่แท้ตอบรับเป็นเสียงเดียว กันก่อนหอบกระเป๋าสัมภาระไปขึ้นเครื่อง...
พอเช็คอินขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทุกคนมีเรื่องให้กังวลใจต่างกันออกไป แต่สลิลโรสกลับดูเครียดมากที่สุดในกลุ่ม หญิงสาวลูบเหรียญโลหะรูปกุหลาบซึ่งสลักอักษรยึกยือที่เธออ่านไม่ออก ตัวเหรียญโลหะค่อนข้างเก่าอีกทั้งสึกกร่อนอยู่พอสมควร
ดู ๆ ไปสิ่งนี้เหมือนของที่ระลึก หรือไม่ก็พวกเครื่องรางด้วยซ้ำ!!
เธอกำลังคิดว่าเหรียญโลหะนี้จะนำทางไปพบพี่สาวได้อย่างไร? ซึ่งคำตอบที่สลิลโรสได้รับก็คือ มืดแปดด้าน...
“ยัยโรส ถึงที่หมายแล้ว แกจะทำยังไงต่อ?”
สลิลโรสย้ายสายตาจากกรอบหน้าต่างซึ่งเห็นเพียงสีน้ำเงินกรมท่าของท้องฟ้ารัตติกาลมายังเพื่อสาว “หาที่พักก่อน แล้วฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง ส่วนเธอสองคนก็พากันไปเที่ยวในที่ที่อยากไป ทริปนี้ฉันจ่ายไม่อั้น”
ถึงจะมีของรางวัลล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้า แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หนุงหนิงและแมมมอธรู้สึกไม่มีความสุขกับสิ่งที่ได้มา ทั้งนี้เป็นเพราะสีหน้าที่จริงจังและดูเครียดตลอดเวลาของสลิลโรสนั่นเอง ทั้งสองมองหน้ากัน แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
เวลาเคลื่อนผ่านไปหลายชั่วโมง จากกลางคืนจึงกลายเป็นเช้า จนกระทั่งเครื่องบินลงจอดที่สนามบินของคาเธียร์ การผจญภัยจึงเริ่มต้นขึ้นทันที เช็คเอาท์ลงจากเครื่องและกำลังจะไปเอากระเป๋าสัมภาระเท่านั้น ทั้งสามคนกลับเจอความวุ่นวายบางอย่างเข้า!
มีคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดในสนามบิน และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นก็คือ ระเบิดลูกแรกทำงาน!!!
ผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ ฝุ่นควันจากสิ่งก่อสร้างที่ถล่มลงมาเพราะแรงระเบิดตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ผู้คนต่างหนีตายเอาชีวิตรอดกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้สลิลโรสพลัดจากแมมมอธและหนุงหนิงที่วิ่งเตลิดไปอีกทาง
“ยัยหนิง ยัยช้าง ฉันอยู่นี่!!” สลิลโรสพยายามตะโกนเรียกเพื่อนด้วยการชูผ้าเช็ดหน้าขึ้นสูง อีกทั้งพยายามฝ่าด่านผู้คนไปหาเพื่อนทั้งสอง แต่สิ่งที่ทำก็ไม่ง่ายนัก ทั้งนี้เป็นเพราะผู้คนที่วิ่งขวักไขว่ไม่รู้ทิศทางนั่นเอง
ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือเพื่อนทั้งสองของเธอวิ่งหายไปในฝูงชน!
เพียงพักเดียวหลังจากเกิดเหตุวางระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ สุนัขตำรวจ ชุดรักษาความปลอดภัยของสนามบินได้เข้ามากันผู้โดยสารให้ออกจากสนามบินอย่างเร่งด่วน
