บทที่ 2 ออกตามหา (2)
“แกก็จริงจังไปยัยช้าง ฉันพูดเล่น ๆ เข้าใจมั้ย ใครจะไปบ้าทำอย่างนั้นเล่า”
พอสลิลโรสเอ่ยปากออกมา แมมมอธจึงยิ้มอย่างโล่งใจ เพราะแมมมอธรู้ดีว่าผู้หญิงอย่างสลิลโรสคาดเดาอารมณ์ได้ยาก และที่สำคัญ แมมมอธรู้ดีว่าสลิลโรสเจ้าเล่ห์ขนาดไหน ขนาดสลิลโรสตัดผมสั้นเต่อเหมือนทอมบอย ใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ ดูแก่นกะโหลกะลายังมีผู้ชายมาจีบไม่เคยขาด เสียดายก็ตรงที่ว่าสลิลโรสไม่จริงจังกับใครเท่านั้น
“ว่าแต่เธอจะทำยังไงกับเรื่องพี่สาว?” หนุงหนิงป้อนคำถามให้สลิลโรสด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันว่าจะชวนพวกแกเดินทางไปคาเธียร์ด้วยกันว่ะ”
“เฮ้ย!!”
ทั้งแมมมอธและหนุงหนิงอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกันเลยทีเดียว
“ทำเป็นเล่นไปยัยโรส คาเธียร์ไม่ใช่ประเทศไทยนะ ที่เธอจะเข้า ๆ ออก ๆ ไปเดินตามหาคนหายได้ง่าย ๆ ขนาดประเทศไทยของเราเอง คนหายยังจับมือใครดมไม่ได้เลย แล้วเธอจะไปตามหาพี่เจนยังไง?” หนุงหนิงเป็นคนแย้ง
สลิลโรสทำหน้าคิดหนัก “ฉันรู้... แต่ฉันอยู่เฉยกับเรื่องนี้ไม่ได้ อีกอย่างฉันจะเดินทางเข้าประเทศนั้นในฐานะนักท่องเที่ยว และพวกเธอจะไปกับฉัน” ดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองเพื่อนรักทั้งสองด้วยความหวังทันที
“ถามความเห็นฉันก่อนมั้ยยะ ไม่เอาด้วยหรอก เกิดโดนท่านรัฐมนตรีจับตัวเข้าไปอยู่ในฮาเร็ม ฉันจะทำยังไง” แมมมอธทำท่าสะดีดสะดิ้ง ส่วนหนุงหนิงหรี่ตามองเพื่อนหนุ่มหัวใจสาวอย่างหมั่นไส้
“แหม พูดเหมือนท่านรัฐมนตรีจะปลื้มไม้ป่าเดียวกันเลยนะยะ ที่ประเทศคาเธียร์เป็นทะเลทรายไม่มีป่าไม้ย่ะนังแมมมอธ”
พอถูกขัดคอแมมมอธจึงค้อนคมใส่หนุงหนิง อีกทั้งทำท่าสะบัดสะบิ้ง
“อย่าดับฝันของฉันจะได้มั้ย ก็แค่มโนเอาเฉย ๆ หากฉันต้องอยู่ในฮาเร็มกับท่านรัฐมนตรีสองต่อสอง ฉันจะต้องทำยังไง ท่านรัฐมนตรีจะใช้น้ำมันหอมระเหยชโลมเรือนร่างของฉันมั้ย แล้วเขาจะทำอย่างไรกับเส้นขนบนร่างกายของฉัน กรี๊ด... แค่คิดก็สยิวจั๊กจี้หัวใจซะแล้ว”
หนุงหนิงหัวเราะแหะ ๆ กับความเพ้อเจ้อของเพื่อนชายหัวใจหญิง
ส่วนสลิลโรสได้แต่ถอนหายใจกับความคิดของแมมมอธ แล้วเธอก็อดเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาไม่ได้
จริงอยู่ว่าคาเธียร์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ชาวเมืองของเขาค่อนข้างมีคุณภาพ อีกทั้งประเทศนี้ถูกชาวโลกเรียกว่าประเทศที่เป็นอารยะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ชาวโลกยกย่องจะเป็นตัวชี้ชัดว่าพี่สาวของเธอจะปลอดภัย!!!
ที่สำคัญ นี่ไม่ใช่การลักขโมยตัวเพียงอย่างเดียว แต่นี่คือภัยคุกคาม แล้วจะให้เธอเฝ้าดูอยู่เฉย ๆ โดยไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างล่ะก็ ไม่มีทาง!!!
“ยังจะทำเป็นเล่นอีกยัยช้าง ตกลงพวกเธอจะไปกับฉันมั้ย?”
ทั้งหนุงหนิงและแมมมอธมองหน้ากันทันทีราวกับนัดหมาย
“ขอเวลานอนคิดสักคืนได้มั้ย ฉันยังมีงานต้องทำ” หนุงหนิงบอกเสียงอ่อย
“ฉันด้วย ขอเวลาทำใจหน่อย ไม่อยากโดนลากเข้าฮาเร็ม” แมมมอธเสริมขึ้นมาอีกคน
“ได้ ยังไงฉันจะจองตั๋วเครื่องบินไว้ก่อนสามที่ ตัดสินใจได้แล้วบอกฉันด้วยล่ะ”
“นี่มันมัดมือชกกันชัด ๆ นะแก” แมมมอธไม่วายบ่นอุบ ค้อนคมใส่สลิลโรส
สลิลโรสปรายตาไปยังเพื่อนชายหัวใจหญิง “ไม่ไปด้วย ฉันก็ไม่ว่าอะไร ทริปนี้ฉันจะบอกคุณแม่ว่าไปเที่ยว ไปดูพี่เจนทำงาน กินฟรี เที่ยวฟรี พวกเธอตัดสินใจได้แล้วก็บอกฉันด้วยละกัน”
“เออ แล้วจะโทรไปบอก” หนุงหนิงรับคำเสียงอ่อย
สลิลโรสปรายตามองเพื่อนรักทั้งสองอีกครั้ง ก่อนแยกย้ายจากเพื่อนทั้งสองเพื่อกลับมาเตรียมตัวออกเดินทาง...
โปรแกรมการเดินทางไปยังประเทศคาเธียร์คลาดเคลื่อนจากแผนการที่วางไว้เล็กน้อย ทั้งนี้เป็นเพราะเรื่องหนังสือเดินทางของหนุงหนิงและแมมมอธนั่นเอง แต่เมื่อสลิลโรสเป็นตัวตั้งตัวตี ลุกขึ้นมาจัดการเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ ด้วยตัวเอง เธอจึงก้าวผ่านอุปสรรค์ด่านแรกไปได้อย่างง่ายดาย
ทว่าปัญหาใหม่สำหรับสลิลโรสในตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเดินทางไปประเทศคาเธียร์อย่างเดียวแล้ว แต่สิ่งที่เธอต้องเริ่มต้นทำทันที นั่นคือการตามหาเบาะแสของพี่สาว ซึ่งข้อมูลที่เธอได้รับจากกองประกวดที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ถึงคาเธียร์ มีเพียงชื่อสถานที่และเหรียญโลหะรูปกุหลาบซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุเท่านั้น
