ตอนที่ 3 ได้ลงจากห้องสักที
“โอ๊ย” แพรววนิตอุทานพร้อมกับกุมท้องอยู่บนเตียง ก้มมองร่างตัวเองที่อยู่ในเสื้อยืดตัวใหญ่ของผู้ชาย
หญิงสาวกัดฟันทน ค่อย ๆ เดินลงจากเตียงไปยังห้องน้ำ ทุกการขยับตัวทำให้เธอรู้สึกเจ็บร้าวและเสียวแปลบที่ท้องน้อย
ร่างบางมองสำรวจสภาพตัวเองในกระจกเงาแล้วก็ต้องตกตะลึง ยังกับโดนข่มขืนมา
รอยจ้ำสีแดงทั่วซอกคอระหง หน้าอก ลามไปถึงแผ่นหลังของเธอด้วย ยิ่งเห็นก็ยิ่งอายเพราะมันทำให้นึกถึงคนที่ทำร่องรอยพวกนี้เมื่อคืน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเองก็รู้สึกดีเหมือนกัน เพียงแต่เขาหักโหมไปหน่อยจนร่างกายเธอปรับตัวไม่ทัน
ร่างบางใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าปกติเพราะมัวแต่ยืนเหม่อลอยคิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมา เวลานี้สามีของเธอคงออกไปทำงานแล้ว ไม่รู้ว่าตอนที่เขากลับมาบ้านตอนเย็นเธอจะกล้าสู้หน้าได้อย่างไร ไม่รู้จะต้องทักทายแบบไหน แค่คิดก็อายจะแย่แล้ว
เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกมาเธอก็แทบช็อค เพราะคนที่กำลังคิดถึงกำลังยืนอยู่ตรงหน้า
“นึกว่าหลับในห้องน้ำแล้วซะอีก ลงไปกินข้าวได้แล้ว”
“เอ่อ พี่วินไม่ไปทำงานเหรอคะ” เธอเห็นเขาอยู่ในชุดไพรเวต
“ฉันโทรไปลางานกับเลขาแล้ว เพราะคุณพ่ออยากให้เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันหลังแต่งงาน”
“ค่ะ งั้นแพรวขอไปแต่งตัวแป๊บนึงนะคะ” แพรววนิตแอบเขินกับสายตาคมที่จ้องมองมาในขณะที่เธออยู่ในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบกาย
ร่างบางเดินเลี่ยงเข้าไปในวอล์คอินคลอเซ็ตแล้วจัดการหาเสื้อผ้าง่าย ๆ มาสวมใส่ ก่อนจะมายืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองดูรอยเจ้าปัญหาที่คนตัวโตสร้างไว้เต็มลำคอ ต่อให้เอาผมลงยังไงก็ปิดร่องรอยพวกนี้ไม่มิดอยู่ดี แพรววนิตจึงต้องให้รองพื้นกลบ
“เดี๋ยวฉันช่วยทาด้านข้างให้ เก็บผมขึ้นสิ” ธาวินเดินเข้ามาประชิดจากทางด้านหลังแล้วแย่งขวดรองพื้นจากมือเธอไปถือไว้
พอเห็นรอยจ้ำแดง ๆ เด่นชัดบนผิวขาวเต็มไปหมดก็ทำให้เขาแอบรู้สึกผิดที่เอาเปรียบเธอตลอดทั้งคืน
“อ๊ะ ขอบคุณค่ะ” ความใกล้ชิดทำให้เธอหวั่นไหว ยิ่งเวลาที่ปลายนิ้วหนาสัมผัสกับลำคอระหงยิ่งทำให้ร่างเล็กขนลุกซู่
เธอลอบมองเสี้ยวหน้าคมที่ทารองพื้นให้เธออย่างตั้งอกตั้งใจผ่านทางกระจกแล้วกลั้นยิ้มกับความน่ารักของเขา
“เสร็จแล้ว” ธาวินขโมยหอมแก้มเธอเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเหม่อมองเขาค้างด้วยความหลงใหลอย่างปิดไม่มิด
ทุกคนในบ้านไม่เว้นแม้กระทั่งสาวใช้ก็รับรู้ได้จากอาการของเธอมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าแพรววนิตหลงรักพี่ชายตัวเอง พ่อกับแม่เลี้ยงของเขาจึงต้องมาช่วยจัดการให้เธอสมหวัง
เมื่อคิดถึงพ่อตัวเองกลับทำให้ธาวินเลิกเห็นใจคนตรงหน้า เพราะทุกคนรวมหัวกันให้ผู้หญิงคนนี้ใช้มารยาจับเขา ซึ่งเขาเองจะแกล้งเล่นไปตามน้ำให้ทุกคนตายใจ ด้วยการทำให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำแล้วค่อยไล่สองแม่ลูกออกจากบ้านให้เนียนที่สุด
แพรววนิตหน้าแดงซ่านเมื่อผู้เป็นสามีประคองเอวเธอเดินออกจากห้องผ่านหน้าแม่บ้านหลายคนที่มองมายิ้ม ๆ อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเขามาทำดีกับเธอทั้งที่เมื่อคืนรังแกเธอไม่พักเลย
เมื่อมาถึงห้องอาหารทุกคนก็หันมองมายังพวกเขาทั้งคู่เป็นตาเดียว ทำให้ร่างบางรีบขยับออกจากการเกาะกุมของเขาเพราะทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่
“กำลังจะส่งคนให้ขึ้นไปตามอยู่พอดี วินกับแพรวรีบมานั่งสิลูก” ธนากรผู้เป็นประมุขของบ้านเอ่ยทักทาย ไม่ถือสาที่ทั้งคู่มาสาย
แพรววนิตนั่งลงที่ประจำตรงข้ามกับแม่ของเธอ ธาวินจึงเดินไปนั่งที่ว่างข้างเธอตรงข้ามพ่อของเขา
“เมื่อคืนเป็นไงบ้างนอนหลับสบายดีมั้ย” พราวลดาเอ่ยถามลูกสาว
“เอ่อ” เธอแทบไม่ได้นอนเลยต่างหาก
“แพรวคงเหนื่อยจากงานแต่งเมื่อวานอยู่น่ะครับ” เมื่อเห็นภรรยาสาวอ้ำอึ้ง ธาวินจึงตอบแทน
“งั้นกินเยอะ ๆ นะลูก” พราวลดาพอจะมองอาการเขินอายของลูกสาวออกเลยไม่อยากซักไซ้เพิ่ม
“ค่ะแม่” หญิงสาวก้มหน้าก้มตากินข้าวโดยไม่ได้พูดกับใครอีก คอยฟังเวลาที่คนอื่น ๆ คุยกันบนโต๊ะอาหารก่อนจะสำลักเมื่อหัวข้อสนทนาวกกลับมาที่ตัวเธออีกครั้ง
“พ่อว่าวินลางานสักสองสามวันแล้วพาหนูแพรวไปฮันนีมูนดีมั้ยลูก”
“ดีเลยครับ ผมไม่ติดอะไรอยู่แล้ว”
“แพรวล่ะ ว่ายังไงลูก ยังไม่ทันเริ่มงานเลยไม่ใช่เหรอ คงไม่ติดอะไรใช่มั้ย” ธนากรหันไปถามลูกบุญธรรมที่พ่วงตำแหน่งลูกสะใภ้มาหมาด ๆ
“แพรวเองก็ไม่ติดอะไรค่ะ”
“งั้นดีเลย ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ จะได้มีหลานให้พ่ออุ้มไว ๆ”
“งั้นแพรวคงต้องลำบากแน่เลยครับ ฮ่า ๆ” ธาวินหันไปมองคนข้างตัวด้วยสายตามีเลศนัย จนทำให้คนตัวเล็กก้มหน้างุดด้วยความอับอาย เธออุตส่าห์ลืมเรื่องเมื่อคืนไปได้แล้วเชียว
เมื่อมื้อเช้าสิ้นสุดลงร่างสูงก็ขอตัวพาเธอขึ้นไปพักผ่อน ธาวินเดินจูงมือเล็กกลับมายังห้องนอน
“ถอดกางเกง” เขาสั่งเสียงเรียบเมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว
“พะ พี่วินคะ จะทำอะไร นี่ยังกลางวันแสก ๆ นะคะ” ธาวินไม่สนใจฟังคำท้วง อุ้มร่างบางลอยหวือขึ้นพาดบ่าก่อนจะจับเธอวางบนเตียง
“ขอฉันดูหน่อย เห็นเดินขาถ่างนี่” เขาดึงกางเกงขาสั้นเธอพร้อมกับชั้นในตัวจิ๋วลงแล้วโยนทิ้งไปข้างเตียง
“อย่าจ้องนะคะ แพรวอาย” แม้เมื่อคืนจะเข้าห้องหอกันมาแล้วแต่ตอนนี้แสงสว่างจ้าจนเห็นทุกซอกทุกมุมชัดเจน ทำให้เธออดที่จะเอามือลงมาปิดจุดอ่อนไหวของตัวเองไม่ได้
ธาวินรวบข้อมือเล็กทั้งสองออกด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว อีกข้างจับขาเรียวสวยให้กางออกจากกัน พร้อมกับใช้ศีรษะหนาแทรกเข้ามาก่อนที่เธอจะหุบขาทัน
เขาจ้องมองความบวมแดงตรงหน้าแล้วค่อย ๆ ใช้ปลายลิ้นสัมผัสแตะกลีบกุหลาบอย่างแผ่วเบา
“อุ๊ย” แพรววนิตสะดุ้งเล็กน้อย
“เจ็บเหรอ” ร่างหนาเงยหน้าขึ้นถามเสียงพร่า
“นิดหน่อยค่ะ” เธอหันหน้าไปมองทางอื่นด้วยความอับอาย
“งั้นเดี๋ยวฉันจะรักษาให้นะ” เขาพูดพร้อมกับก้มลงไปจุมพิตกลีบกุหลาบสวย ก่อนจะไล้ลิ้นแตะตรงกลางกลีบสีชมพูอ่อนนุ่ม
ลิ้นสากออกแรงกดเล็กน้อยไปตามรอยแยกคับแคบ ปัดป่ายแหวกกลีบสวย สำรวจชอนไชจนทั่วกลีบเล็กทั้งสองข้างจนร่างบางสั่นสะท้าน ขาสั่นเทาด้วยความเสียวซ่าน เสียงครางดังขึ้นไม่ขาดสาย
น้ำหวานที่เริ่มไหลซึมออกมาถูกเขาตวัดชิมอย่างกระหาย ธาวินเกร็งลิ้นชำแรกเข้าไปในช่องทางรักแล้วรัวขึ้นลงถี่ ๆ ข้างใน
มือบางที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระขยุ้มเส้นผมเขาแน่นเพื่อระบายความเสียดเสียว สันจมูกโด่งที่ถูไถเข้ากับปุ่มกระสันไปมาส่งผลให้ร่างบางบิดเร่าด้วยความรัญจวน
เขาแยกขาเรียวออกจนกางกว้างแนบไปกับเตียง ลิ้นสากละเลงเลียสลับกับแทงเข้าออกถี่รัว ใช้นิ้วโป้งหนาช่วยบดบี้ปุ่มกระสันจนทำให้น้ำหวานไหลออกมามากขึ้น
แพรววนิตรู้สึกเสียวจนยกสะโพกลอยขึ้นจากที่นอน มือเล็กกำผมอีกฝ่ายเข้าหาจุดอ่อนไหวแน่นขึ้น เพื่อให้ใบหน้าคมแนบชิดจนไม่มีช่องว่าง เธอส่ายสะโพกวนไปมาเรียกร้องให้เขาปรนเปรอหนักขึ้นอีก
ร่างเล็กก้มมองชายคนรักที่อยู่ระหว่างขาเรียว ภาพที่เห็นตรงหน้าและเสียงดูดกินน้ำหวานอย่างเอร็ดอร่อยยิ่งเร้าอารมณ์ของเธอให้พุ่งทะยานจนถึงขีดสุด ปากหนาทั้งดูดทั้งเลียไม่ยั้งจนเธอทนไม่ไหว
“อ๊าา” สะโพกกลมมนกระตุกรุนแรง ปลดปล่อยน้ำสีใสออกมาเต็มปากเขา ก่อนที่เธอจะหล่นลงมาก้นสัมผัสกับพื้นเตียงอีกครั้ง
ธาวินตามมาประกบดื่มอย่างไม่รังเกียจและไล้เลียทำความสะอาดให้จนหมดจรด
หญิงสาวได้แต่นอนหอบมองเขาผ่านม่านน้ำตาด้วยความลุ่มหลง วิธีการรักษาของเขาช่างแปลกใหม่จนทำให้เธอหัวใจสั่นรัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
