บทที่2
“ทำมารึเปล่า..” ทำอะไร เงินจะประทังชีวิตไปวันๆ ยังไม่มีเลย หญิงสาวคิดก่อนจะเผลอมองค้อนคนที่กำลังดูถูกเธอด้วยวาจา
“โอเค ไม่ทำก็ไม่ทำ” จอมราชไม่ถือสาสายตาต่อว่าที่จ้องมองมา เขากลับรู้สึกสนุกที่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ได้ ‘เป็นเด็กดี’อย่างที่คิด
เธอมีมุมดื้อเงียบให้ได้เห็นอยู่บ้าง
นั่นทำให้รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่แสดงออก
ซึ่งเขาชอบที่ได้เห็น...
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นร่างบอบบาง แต่ทว่ากลับเต็มมือเต็มมือก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นก่อนจะถูกวางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน เขาเริ่มจากจูบอ่อนหวาน แต่ไม่นานก็เปลี่ยนทุกอย่างให้ร้อนแรงตามอารมณ์ที่เริ่มจะควบคุมไม่อยู่ ความต้องการของเขารุนแรงดุจไฟป่า ที่พอได้เริ่มขึ้นแล้วมันจะเผาผลาญจนทุกอย่างหมอบราบเป็นหน้ากอง!
เป็นหล่อนเสียมากกว่าที่มาอยู่ผิดที่ผิดทาง!
“อื้อ เจ็บค่ะ” เพราะของเขา ‘ใหญ่โตโอหัง’ เกินไป และนั่นมันทำให้ไม่ง่ายเลยสำหรับเธอที่ต้องรับเขาเอาไว้ทั้งหมดในคราวเดียว ความเจ็บนี้เองที่ผลักดันให้วาดจันทร์เริ่มขัดขืน แต่ไม่นานก็ต้องยอมแพ้ให้แก่เขาอีกครั้ง เพราะถูกพิษจูบอ่อนหวานเข้าเล่นงาน มันเป็นจูบที่ทำให้เธออ่อนระทวยจนมือไม้สั่น ทำให้หลงลืมความเจ็บไปชั่วขณะหนึ่ง
“ครั้งแรกก็แบบนี้ ครั้งต่อไปก็ไม่เจ็บแล้ว” ช่างเสียดายที่หลังจากคืนนี้เขาอาจไม่ได้เป็นคนพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าครั้งต่อๆ ไปหล่อนจะเจ็บเหมือนครั้งนี้รึเปล่า เพราะข้อตกลงระหว่างกันคือหนึ่งคืน เพราะรู้อย่างนั้นเขาจึงตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่าที่สุด
“ฉันเลียให้เธอก่อนดีกว่า...”
“ทำไมมาส่งไอก่อนละคะ” เสียงของหลานสาวที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังจมดิ่งอยู่กับภาพในค่ำคืนแสนหวานพาตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน เช้าวันต่อมาเขาก็ไม่เจอเจ้าของหยดเลือดบนเตียงแล้ว เรียกคนของตัวเองเข้ามาถาม อีกฝ่ายก็บอกได้แต่ว่าลูกหนี้ตัวจริงเป็นคนงานหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่นาน จึงไม่มีใครคิดจะสอบถามถึงที่อยู่ของอีกฝ่าย และตั้งแต่วันนั้นหมอนั่นก็ไม่เคยโผล่หน้ากลับไปที่บ่อนอีกเลยจึงกลายเป็นเขาเองที่ต้องจ้างนักสืบตามหา
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...
“อามีธุระต่อ บ้านเพื่อนเราต้องเลยไปอีกหน่อยไม่ใช่เหรอ” ไอรดายิ้มรับในคำตอบและไม่ลืมฝากให้อาช่วยดูแลเพื่อนรักต่อให้ หากเป็นคนอื่นเธอคงไม่ไว้ใจ แต่เพราะนี่เป็นอาของตัวเอง และอีกฝ่ายก็ค่อนข้างไว้ใจได้เลยหายห่วง
“ไอฝากเพื่อนด้วยนะคะอาจอม เอาไว้คืนนี้เราโทรหานะวาด” ไอรดาบอกก่อนจะลงจากรถ เพราะไว้ใจว่าผู้เป็นอาจะส่งเพื่อนรักถึงจุดปลายอย่างปลอดภัย อีกทั้งเพื่อนรักของเธอนั้นก็เป็นคนซื่อๆ
ไม่ใช่แม่สาวร้อนแรงอย่างที่อาของเธอนิยมชมชอบ...
จึงไม่น่าเป็นปัญหาที่จะปล่อยให้ทั้งสองคนนั่งรถไปด้วยกัน
ตลอดการเดินทางเป็นไปด้วยความเงียบงัน ต่างฝ่ายต่างกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเอง กระทั่งวาดจันทร์ที่เป็นฝ่ายทนแรงอึดอัดต่อไปไม่ไหว ตัดสินใจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบขึ้นเบาๆ
“จะ...จอดให้ฉันลงที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้าก็ได้ค่ะ” เธอไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขานานไปกว่านี้ ไม่คิดด้วยซ้ำว่า ‘อา’ ของเพื่อนจะกลายเป็นคนๆ เดียวกับผู้ชายคนแรกของตัวเองไปเสียได้
แม้เธอจะรู้จักไอรดามาหลายปีแต่ก็ไม่เคยพบเจอคนในครอบครัวของเพื่อนนอกจากพ่อแม่ของอีกฝ่าย เธอรู้แค่ว่าเพื่อนมีอาอีกคน แต่จังหวะที่จะได้พบหรือทำความรู้จักนั้นก็แทบไม่มีจนวันนี้
“คุณคะ...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกหนเมื่ออีกคนเอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมพูดยอมจาหรือตอบอะไรกลับมาสักคำ
“เงียบก่อน! ฉันกำลังใช้สมาธิ!” เขาไม่เพียงแต่ตวาดใส่ ยังหันมามองเธอด้วยสายตาดุดันราวกับจะเตือนให้รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิด แต่จะด้วยเรื่องอะไรนั้นเธอไม่รู้ และไม่กล้าที่จะปริปากถาม
“อื้อ คะ...คุณทำอะไร” เขาไม่พูด แต่กลับเลือกที่จะทำให้ดูด้วยการเคลื่อนตัวต่ำ ลงไปยังจุดที่ไม่เคยมีชายใดเคยล่วงล้ำมาก่อน
“บอกอยู่ว่าจะเลียให้” เขาทำอย่างที่พูดจริงๆ และนั่นเองที่ทำให้เธอถึงกับดิ้นพล่านราวคนใกล้จะขาดใจ
