Ep.4
โซลดอนรีบถอดกางเกงทั้งสองชิ้นของเขาออก อวดเจ้ามังกรร้ายที่ชูหัวผงาดพร้อมฟาดฟันหญิงสาวทุกวินาที เขาไม่รอช้า ไม่มีการเล้าโลมใดๆ
ร่างใหญ่คลานเข่าเข้าแล้วจับอาวุธร้ายอวบใหญ่ของเขาเบียดแทรกลงตรงกลางสามเหลี่ยมอวบอูมทันที แล้วผลักดันท่อนเอ็นแข็งเข้าไปในความร้อนระอุของหญิงสาวที่กำลังเบ่งบานรับเขาเข้าไปภายใน เขาระบายอารมณ์อย่างร้อนแรง
“โอ๊ย โอยๆ...”
แคนดี้ก็หวีดร้องลั่น เจ็บแต่ก็ทน ทนเพื่อความสุขสุดยอดรุนแรงที่เธอมั่นใจว่าจะไปถึงทันชายหนุ่ม
นาทีต่อมา เสียงโอดโอยก็กลายเป็นเสียงร้องครวญครางดังลั่นห้อง และเสียงดังมากขึ้นตามจังหวะการถาโถมของร่างแกร่ง โซลดอนมีแต่ความร้อนแรงเสมอ เขาไม่เคยอ่อนโยนกับผู้หญิงคนไหนเลย
เสียงร้องจากปากสีแดงสดจึงดังขึ้นเป็นระยะๆแบบไม่ขาดช่วง และเสียงร้องแห่งความหฤหรรษ์นี้ก็ดังลอดเข้ามาถึงห้องข้างๆ ที่เจ้าของห้องยังนอนไม่หลับ
“โอ้วๆ โอ๊ะๆๆๆ... อ๊าซ์ ซี๊ดดดดด...”
ตึกๆๆๆ...
เอวิตาเอาหมอนมาอุดหูทั้งสองข้าง นึกโมโหเจ้าของห้องข้างๆนี้จริงๆ ที่ไม่รู้จักปิดหน้าต่างเวลาที่เขาเอาผู้หญิงมานอนด้วย และคืนนี้เสียงของผู้หญิงคนใหม่ที่เขาพามาดังกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยินเสียอีก ดังยาวนานมากกกกกก... และดังมากจนเธอนอนไม่หลับ
...เมื่อไหร่กิจกามของเขาจะเสร็จสิ้นลงเสียที เธอนอนไม่หลับจนร้อนรุ่มไปหมดแล้ว...
เอวิตาไม่เข้าใจร่างกายของเธอเลย ทั้งที่ไม่ชอบเสียงนั่น แต่ทำไมบางอย่างในร่างกายของเธอถึงได้มีปฏิกิริยา โดยเฉพาะคืนนี้ที่เธอได้ยินเสียงของแคนดี้ร้องตั้งแต่วินาทีแรก จนเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงก็ยังร้องครางลั่นไม่เกรงใจใคร
“โอยเสียวมาก เสียวสุดๆเลยค่ะ อ๊าซ์ ซี๊ด อูวว์ อ่าซ์ แรงอีกค่ะโซลดอน เร็วอีก โอ๊ะวๆๆๆ... อร้างงง อี๊ๆๆ ซี๊ดดด... โอย”
“อ่าส์ อูววว์...”
“แรงๆเลยที่รักขา จะถึงแล้ว โอยๆๆๆ...”
ตึกๆๆๆๆ!
“อ๊าซ์ๆๆๆ... จะถึงแล้ว เร็วค่ะ โอย โอ๊ย โอ้วๆๆๆๆ... กรี๊ดดดดดด...อ๊าซซซซ...”
ตึกๆๆ!
“อ๊ากกกส์”
“........................................”
ทั้งที่อยากให้เสียงนั้นเงียบลง แต่เธอกลับเผลอนอนฟังจนเสียงหวีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่านั้นในยกที่สองที่สามจนถึงเที่ยงคืน นอนฟังจนตาใสหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แล้วก็ต้องรู้สึกค้างคาแปลกๆจนนอนไม่หลับไปอีกสองสามชั่วโมงจึงได้ผล็อยหลับไป
เอวิตาตื่นขึ้นมาอีกทีตอนแปดโมงเช้าด้วยอาการงัวเงีย หวังว่าโซลดอนคงจะออกไปส่งนางแบบสาวคนนั้นแล้ว เพราะปกติเวลาที่ชายหนุ่มพาแฟนสาวของเขามานอนค้างที่นี่ เขาจะตื่นเช้ามากเพื่อรีบไปส่งฝ่ายหญิงกลับบ้าน แล้วจึงกลับมาอาบน้ำกินข้าวที่คฤหาสน์ของตนเอง
เจ้าของร่างเล็กลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟัน แล้วมาสวมชุดกระโปรงยาวแค่เข่าสำหรับใส่อยู่บ้าน หมุนตัวที่หน้ากระจกหนึ่งรอบก่อนเดินออกมาจากห้องนอน
สาวน้อยเดินลงบันไดมาจนถึงชั้นล่าง ตั้งใจจะออกไปเดินเล่นรอบบ้านสักหน่อย
“นั่นใครเหรอคะโซล”
โซลดอนหันมองมาทางเอวิตาแล้วก็เหยียดยิ้ม ก่อนจะหันมากอดคู่นอนคนใหม่มาหอมฟอดใหญ่ต่อหน้าต่อตาคนที่ยืนอึ้งอยู่กับที่
“ลูกของคนใช้ในบ้านน่ะ”
“ลูกคนใช้?... แล้วทำไมถึงลงมาจากชั้นบนล่ะคะ แล้วดูการแต่งตัวก็เหมือนไม่ได้ขึ้นไปทำงาน น่าจะเพิ่งออกมาจากห้องนอนของตนเองด้วยซ้ำ”
นางแบบสาวตั้งข้อสังเกต เซ้นส์ของผู้หญิงแรงเสมอในเรื่องรักๆใคร่ๆ แคนดี้จึงอดไม่ได้ที่จะมองสาวน้อยที่เพิ่งเดินลงมาจากบันไดด้วยสายตาพินิจพิจารณา อย่างจับผิด
“คุณอย่าไปสนใจเลย แกเป็นใบ้”
เอวิตาอึ้งเป็นคำรบสองเมื่อได้ยินโซลดอนบอกกับแฟนสาวของเขาว่าเธอเป็นลูกคนใช้หนึ่งละ และสองเธอเป็นใบ้ เขาช่างเอ็นดูเธอจริงๆ แต่ก็ดีแล้วในเมื่อเธอไม่มีอะไรจะต้องพูดกับสองคนนั้นอยู่แล้ว
“เป็นใบ้?... จริงหรือเปล่าคะโซล”
“สามปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้แกไม่คุยกับผมเลย คุณคิดว่าแกเป็นใบ้หรือเปล่าล่ะ”
แคนดี้ชักงงกับคำอธิบายของแฟนหนุ่มจนคิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปม ตกลงว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เป็นใบ้จริงๆหรอกใช่ไหม ก็แค่ไม่อยากพูดเลยไม่พูดแค่นั้นกระมัง หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้น
ขณะที่แคนดี้กำลังสงสัยในตัวเอวิตาอยู่นั้น โซลดอนก็จงใจรวบร่างนางแบบสาวเข้ามากอดแล้วจูบหล่อนต่อหน้าน้องสาวนอกไส้อีกครั้ง จนเอวิตาต้องรีบเดินหนีจากภาพนั้นไปแทบไม่ทัน
พอเห็นว่าเอวิตาเดินลับหายไปแล้ว โซลดอนก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วผละอ้อมกอดจากนางแบบสาวทันที การที่ได้แกล้งให้เอวิตาให้หล่อนหน้าแดงได้ มันทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทุกครั้ง
เดือนหน้าบิดาของเขาบอกว่า จะส่งเอวิตาไปช่วยงานเขาที่บริษัท แต่เขาไม่รู้ว่าเด็กใบ้นั่นจะตกลงไหม แต่ถ้าเอวิตายอมไปทำงานละก็ เขาก็มีแผนจะทำให้เด็กนั่น ขอลาออกจากงานตั้งแต่อาทิตย์แรกที่เข้าทำงานเลยทีเดียว
‘ใครอยากจะทนทำงานอยู่กับเด็กใบ้ที่แสนจะจืดชืด วันๆเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง น่าเบื่อจะตาย’
