
บทย่อ
เขาคิดเสมอว่านรกส่ง ‘หล่อน’ มาให้เขา แต่เขาจะพาหล่อนขึ้นสวรรค์ในฐานะ ‘ทาสสวาท’เขาไม่สนหรอกว่าหล่อนจะดิ้นมากแค่ไหน เพราะตอนนี้เขาก็เหมือนเจ้าชีวิตของหล่อน เขามีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวหล่อน จะฉุดหล่อนขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นเงื่อนไขที่เอวิตาเต็มใจยอมรับมันเอง หล่อนก็ต้องยอมเขาได้... ทุกอย่างเอวิตาสั่นสะท้านเมื่อตกอยู่ใต้ร่างแกร่งเกือบเปลือยของเขา โซลดอนจะรู้หรือเปล่าว่าเธอหวาดกลัวเขามากแค่ไหนเรื่องที่คุณน่าจะสนใจ
Ep.1
“นั่นมันเสื้อตัวโปรดของฉันนี่!”
เสียงตวาดก้องด้วยความโกรธจัดของคนที่เดินเข้ามา ทำให้เจ้าของร่างเล็กที่กำลังยืนรีดผ้าสะดุ้งโหยง พร้อมหันมามองเจ้าของร่างสูงเกือบสองฟุตในวัยสิบเก้าปี กำลังย่างสามขุมเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าท่าทางเอาเรื่อง ส่งผลให้เด็กสาวรูปร่างผอมบาง ต้องรีบผละออกจากงานที่กำลังทำแล้วถอยร่นหนีด้วยความตกใจกลัว
ไม่กี่วินาทีต่อมา กลิ่นไหม้ก็ลอยเข้าแตะจมูกของทั้งสองคน เด็กสาวนึกได้จึงรีบก้าวไปที่โต๊ะรีดผ้าหมายจะจับเตารีดออกจากเสื้อ แต่เด็กหนุ่มก็กระชากเสื้อของเขามาไว้ในมือเสียก่อนด้วยความโมโห เตารีดหล่นตุ้บเสียงดังสนั่น ยิ่งทำให้เอวิตาอกสั่นขวัญแขวนเข้าไปใหญ่ กลัวเหลือเกินว่าเจ้าของเสื้อราคาแพงตัวนั้นจะโกรธเอา และเขาก็โกรธเธอจริงๆ
ดวงตาสีเทาเข้มคมกล้าคู่นั้นที่ตวัดมามองหน้าสาวน้อย ดั่งมีเปลวเพลิงนรกคุโชนอยู่ในนั้น ก่อนที่เรียวปากบางเฉียบสีสดจะขยับเพียงเล็กน้อย แต่คำที่เอ่ยออกมานั้น ไม่ต่างจากมัจจุราชที่หมายจะเอาชีวิตเธอเลย
“เธอทำเสื้อของฉันไหม้! เธอต้องชดใช้!”
เอวิตาเบิกตากว้างเมื่อเห็นโซลดอนก้มลงหยิบเตารีดแล้วก้าวตรงรี่เข้ามาหาเธอ ในมือถือเตารีดที่ขีดความร้อนยังไม่ได้หมุนมาอยู่ในตำแหน่งปิด กำลังจะโฉบมานาบที่มือข้างขวาของเธออยู่รอมร่อ
“กรี๊ด! อย่าค่ะ! พี่โซลดอนอย่า! โอ๊ย! ร้อนๆๆ กรี๊ดดดดด!...”
“โซลดอน! หยุด!!! แกทำอะไรน้อง!”
เด็กหนุ่มถูกผู้เป็นบิดาตวาดใส่เสียงดังก้อง ก่อนจะถูกลากแขนไปทำโทษอีกห้อง ขณะที่มารดาของสาวน้อยรีบวิ่งมาหาลูกสาวที่กำลังกุมมือตัวเองสั่นๆ
“เอวี่ลูกแม่!!”
“ฮือๆ แม่ขามือหนู มือของหนูแสบร้อนเหลือเกิน” สาวน้อยเอามือข้างหนึ่งจับประคองมือข้างที่โดนเตารีดนาบขึ้นมาดูมือไม้สั่น คนเป็นแม่น้ำตาไหลพรากๆ เมื่อเห็นมือของลูกสาวพุพอง
ดวงตาคู่สวยตวัดลงต่ำก้มมองหลังมือของตนเอง พลางใช้มืออีกข้างลูบคลำไปมา ความเจ็บปวดและแสบร้อนเมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว ยังฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเธอเสมอมา
เอวิตายกมือข้างขวาขึ้นมาดูใกล้ๆ มันยังคงเห็นรอยแผลเป็นจางๆบนหลังมือ ทว่าความรู้สึกเจ็บแสบในคราวนั้นยังคงแจ่มชัดในความรู้สึกของหญิงสาวอย่างไม่มีวันลบเลือน
และเมื่อตวัดสายตามองตรงไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่สะท้อนภาพอยู่ในกระจกเงา เธอก็เหลือบไปเห็นรอยแผลเป็นเส้นเล็กๆเหนือคิ้วด้านซ้าย แล้วความทรงจำเมื่อแปดปีก่อนก็หวนกลับมาอีกครั้ง
วันนั้นนอกจากเธอกับแม่บ้านแล้วไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน เธอเพิ่งกลับมาจากโรงเรียน และเดินเข้าไปในห้อง กำลังเปลี่ยนชุดนักเรียน แต่จู่ๆประตูห้องก็เปิดผางออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เมื่อหันไปมองทางประตู ใจของสาวน้อยก็กระตุกวูบ
“พี่โซลดอน!”
เอวิตาตกใจจนหน้าซีดเป็นกระดาษขาว รีบยกมือสองข้างขึ้นมาปกปิดหน้าอกของตนเองที่มีเพียงบราเซียไซส์มินิผืนเดียวที่ปลดตะขอแล้วอย่างสั่นๆ ขณะที่เจ้าของร่างสูงเดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้อย่างคุกคาม
สายตาคมวาวจ้องมองไปที่หน้าอกของหญิงสาวราวกับจะเปลื้องผ้า มันเป็นสายตาที่หยาบโลน และโลมเลียจนใบหน้าของสาวน้อยเห่อร้อนขึ้นมา เธอทั้งอายและทั้งกลัว
“เอวี่ เธอรู้ไหมว่าฉันเกลียดเธอกับแม่ของเธอมากแค่ไหน โดยเฉพาะแม่ของเธอที่หว่านเสน่ห์มอมเมาแด๊ดของฉันแทบทุกคืน ฉันได้ยินนะเวลาที่พวกเขาร่วมรักกัน เธออาจจะไม่ได้ยินเพราะเธอนอนกับพี่เลี้ยงข้างล่าง แต่ฉันได้ยินเต็มสองหู... บ่อยๆ เพราะฉันนอนติดกับห้องของแด๊ด”
เอวิตายังไม่รู้ว่าที่โซลดอนพล่ามมาทั้งหมด เขาต้องการจะสื่ออะไรนอกจากจะบอกว่าเขาเกลียดเธอกับแม่ของเธอมาก
“และตอนนี้แด๊ดกำลังพาแม่ของเธอไปช้อปปิ้ง เพื่อซื้อของขวัญวันเกิดให้กับเธอ”
เด็กสาวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบเก้าปีเต็มของเธอ จากนั้นก็ฟังเขาพูดต่อ
“และฉัน ในฐานะพี่ชายที่แสนดี”
คำว่าแสนดีของเขามาพร้อมกับแววตาเหยียดหยันที่แฝงความชั่วร้ายไว้ภายในจนส่องประกายวาววับออกมาอย่างน่ากลัว โดยที่เอวิตาเองก็ยังรู้สึกครั่นคร้ามไม่กล้าสบตาคมกล้านั่น แต่ก็ยังฟังชายหนุ่มพูดต่อด้วยใจที่หวาดหวั่น
“ฉันก็มีของขวัญจะให้เธอเช่นกัน”
บอกเสียงเย็นยะเยือกแล้วเดินเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนเด็กสาวต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วพยายามจะเบี่ยงตัวหลีกหนี แต่ก็ถูกมือใหญ่จับล็อกข้อมือเล็กทั้งสองข้างของเธอเอาไว้กับผนังห้องแน่น ก่อนจะโน้มใบหน้าคมสันลงมาเป่าลมหายใจรินรดพวงแก้มที่แดงเรื่อสลับกับขาวซีดนั้นอย่างนึกสนุก
“พี่โซลดอนจะทำอะไรเอวี่คะ”
“ก็ทำอย่างที่แด๊ดทำกับแม่ของเธอยังไงล่ะ” จบคำที่ชวนผวานั้น ปากบางเฉียบสีสด ก็โฉบลงมาบดขยี้เรียวปากนุ่มอย่างป่าเถื่อน เอาแต่ใจ
“อื้อ...”
คนโดนรังแกพยายามสะบัดหน้าหนีแต่ก็ถูกคนที่มีกำลังเหนือกว่าล็อกท้ายทอยเธอเอาไว้ และใช้ลำตัวของเขาล็อกตัวเธออีกทีจนร่างเล็กไร้ทางหลีกหนี
