ข้าอยากตาย 2
นับตั้งแต่ถอนหมั้น ความจริงเมิ่งจื่อก็เสียใจอยู่แล้ว แต่นางยังคงเป็นเพียงเด็กสาวแรกแย้ม ไหนเลยรู้จักคำว่าน้ำลายฆ่าคนได้ จนกระทั่งนางนำเสื้อผ้าไปซักที่แม่น้ำตามปกติ หลังจากนั้นนางถึงได้รู้ ว่าคำพูดเสียดแทงสามารถฆ่าคนได้จริงๆ
ตอนแรกเมิ่งจื่อแม้เสียใจ แต่นางยังมิได้ถึงขั้นร่ำไห้ฟูมฟาย หากแต่วันรุ่งขึ้น นางนำผ้าไปซัก หญิงสาวในหมู่บ้านสิบกว่าคนก็อยู่ที่นั่น พวกนางถึงกับรุมถากถางรังแกนางไปทั่ว ซ้ำยังมีพี่สาวผู้หนึ่งกล่าวว่า เห็นนางจูบกับพี่เสิ่นบนเนินเขา แล้วพูดเยาะเย้ยว่า ต้องเป็นเพราะนางเป็นหญิงใจง่ายแน่ๆ คุณชายเสิ่นพอทราบว่านางไม่บริสุทธิ์ถึงได้ถอนหมั้น หรือไม่ก็เป็นเพราะเขาเล่นนางจนเบื่อแล้ว
นี่เป็นความลับ เป็นความลับของเมิ่งจื่อ!!!
ทั้งๆที่มั่นใจว่าไม่มีผู้คนอยู่แถวนั้นแท้ๆ เมิ่งจื่อจึงเผลอปล่อยตัวมอบจูบแรกให้เขา แต่กับคิดไม่ถึงว่ามีผู้พบเห็น ซ้ำยังนำมาเป็นเรื่องถมถุยใสนาง จากคราแรกเพียงเสียใจเล็กน้อยเท่านั้น พอถูกเปิดโปงความลับ เมิ่งจื่อพลันร้องไห้โฮออกมา
ที่ริมแม่น้ำ หญิงสาวชาวบ้านหัวเราะคิกคัก พวกนางสะใจมาก ปกติเมิ่งจื่อก็เป็นที่ขัดตาอยู่แล้ว ยิ่งช่วงเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา นางถึงกับหมั้นหมายคุณชายเสิ่น แต่ละคนก็ยิ่งอิจฉาจนแทบอกแตกตาย!
หมู่บ้านหลิวชิ่งเล็กแค่ไหน ชายหนุ่มรุ่นเล็กมีใครบ้างอ่านออกเขียนได้ ทั้งเขายังสอบชิวไฉได้ตั้งแต่อายุน้อย ดังนั้นจึงเป็นที่หมายปองของเหล่าสาวๆในหมู่บ้าน และริษยาเมิ่งจื่อที่วาสนาดี
หลังจากถูกรังแกตอนไปซักผ้าหนึ่งรอบ เมิ่งจื่อยังมีเรื่องให้ทุกข์ใจเพิ่มขึ้น วันต่อมาข่าวของนางก็ดังไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนต่างกล่าวว่านางมิใช่หญิงบริสุทธิ์ เป็นนางแพศยาน้อยที่ใครๆก็ขึ้นขี่ได้!
เมิ่งจื่อยังมิถึงวัยปักปิ่นเสียด้วยซ้ำ นางอายุเท่าไรกันเชียว มีหรือจะรับคำกล่าวหาร้ายแรงเช่นนี้ได้ ต่อจากนั้นอีกสามวันก็มีแม่สื่อมาหานางที่บ้าน บอกว่าต้องการสู่ขอไปให้ลูกชายพ่อค้าหมูคนหนึ่ง
วันนั้นบิดานางข่มความโกรธแค้น ไล่แม่สื่อกลับไปอย่างสุภาพ แต่วันรุ่งขึ้นก็มีมาอีก ถึงกับทาบทามนางให้แต่งกับชายแก่กว่าพ่อ ทั้งยังเสนอสินสอดเพียงแค่แป้งสาลีกระสอบเดียว!
แต่ละวันของเมิ่งจื่อผ่านไปด้วยคราบน้ำตา ในที่สุดความอดทนของนางขาดสะบั้น เมื่อเศรษฐีในอำเภอส่งพ่อบ้านมาหาท่านพ่อ บอกว่าต้องการแต่งนางให้บุตรชายของเขา ทั้งๆที่ใครๆต่างก็ทราบ ว่าเจ้าคนผู้นั้นอายุสามสิบกว่าแล้ว แต่เพราะปัญญาอ่อนจึงยังไม่แต่งเมีย
ค่ำคืนนั้น เมิ่งจื่อคิดสั้นเป็นครั้งแรก นางผูกคอตนเองกับขื่อกระท่อม เพราะนางทนถูกคนใจร้ายพวกนั้นรังแกไม่ไหวแล้วจริงๆ
ชื่อเสียงของนางป่นปี้ นางมิกล้าแม้แต่จะออกจากบ้าน ไม่กล้าเผชิญหน้าผู้คน เพราะว่าพวกเขาใจร้ายกับนางเหลือเกิน
เพียงแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดพลันเกิดขึ้น ขื่อกระท่อมของนางกับหักลงมา “…”
นี่คือแม่น้ำไท่ซุย ชาวบ้านหลิวชิ่งกว่าพันชีวิตอาศัยแม่น้ำสายนี้ ไม่ว่าจะหาบไปใช้สอยหรือซักผ้า ล้วนตักมาจากสายน้ำแห่งนี้เอง
ความกว้างสิบกว่าวา หากข้ามสะพานก็จะไปยังอำเภอภูไถ เมิ่งจื่อกลัวถูกผู้คนพบเห็นจึงเดินเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ หวังจะไปกระโดดฆ่าตัวตายตรงชะง่อนหิน ตรงที่นางเคยมานั่งตกปลากับน้องชายเป็นประจำ
“ฮือ! ฮือ! ข้าไม่ผูกคอตายแล้ว ดูว่าพวกท่านยังจะรังแกข้าได้อีกหรือไม่!”“…”
เมิ่งจื่อเดินร่ำไห้พึมพำ พวกท่านที่ว่าย่อมหมายถึงเทวดานางฟ้า ในความเข้าใจของสาวน้อย นางคิดว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง แม้แต่เทพเซียนสวรรค์ยังรังแกนาง
น่าเวทนาเมิ่งจื่อยิ่งนัก ในวัยไม่เต็มสิบห้า นางกับหัวใจแตกสลายสิ้นหวัง แม้แต่ตนเองก็ไม่เข้าใจไฉนสิ้นหวังเช่นนี้ เป็นเพราะถูกยกเลิกการหมั้นหมาย หรือถูกข่มเหงเหยียดหยามรังแก
“ฮือ! ฮือ! ฮือ!”!!!
บนชะง่อนหิน เมิ่งจื่อพอมาถึงก็ต้องทรุดตัวลงกอดเข่าร้องไห้โฮ นี่มันสวรรค์กลั่นแกล้งชัดๆ ขนาดเปลี่ยนมาเป็นโดดน้ำ ยังรังแกนางอีกหรือ
ห่างไปราวสิบกว่าวา กลางแม่น้ำตอนบน เมิ่งจื่อแทบไม่อยากจะเชื่อ ตรงนั้นมีศพลอยอยู่ในน้ำ เป็นศพคนไม่ผิดอย่างแน่นอน!
เสียงร้องโหยหวนของเมิ่งจื่อดังลั่น นางไม่อยากตายแล้ว นางไม่อยากตายแล้ว!
เมื่อเห็นศพลอยขึ้นอืด จู่ๆเมิ่งจื่อที่โง่งม พลันไม่อยากตายแล้วจริงๆ
ตรงหน้าสาวน้อยเป็นศพไร้ญาติ เมิ่งจื่อพอคิดถึงสภาพของตน หากโดดลงไปก็คงเป็นเช่นนี้ อุบาทจนทนดูไม่ได้เลย “…”
