บท
ตั้งค่า

เชลยสาวที่เฝ้าคอย

ก่อนออกพ้นจากห้องได้ยินเรื่องที่คิดไว้จนได้ สาวคนหนึ่งเอ่ยว่า “ยายปินคณางค์คนนั้นเส้นสายจากทางไหนกันหรือ ใครรู้บ้าง แถมยังดูหยิ่งพิลึก”

“ไม่รู้เหมือนกัน” ได้ยินเสียงหนึ่งตอบออกมา

“วันทั้งวันทำแต่งานไม่สนุกร่าเริงเลย อมอะไรไว้ในปากป่าวนะเธอ” มีหลายเสียงเห็นด้วย เธอถอยออกมาก้าวเดินต่อ

อาจเป็นเพราะว่าตนไม่เคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานก็เป็นได้ หญิงสาวถอนใจ อดโทษตนเองไม่ได้ที่อยู่กับเรื่องเศร้าของตนเองจนกลายเป็นคนในแบบที่ไม่เคยคิดจะเป็น เห็นทีต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองเสียใหม่หากอยากทำงานที่นี่นานๆ

แต่หากจะสนิทสนมเกินไปไม่แคล้วเรื่องราวที่อยากให้เป็นความลับจะไม่เป็นอย่างที่ต้องการเป็นแน่ ชีวิตทำไมมันยากเย็นยุ่งยากแบบนี้นะ ไม่ชอบแบบนี้เลย อยากอยู่แบบสบายใจก็ลำบากจะได้อย่างที่หวัง...เพราะตอนนี้เธอนั้นไม่ได้เป็นคุณหนูเหมือนเมื่อก่อน บอกตนเองให้อดทนไว้เป็นการดีที่สุด เพราะที่ผ่านมาเธอก็ทำดีแล้ว

ปรินทรกำลังบอกตนเองว่าที่ติดต่อให้เชลยสาวตามมาเพียงเพราะอยากจะกลั่นแกล้งให้เธอไม่มีความสุข หญิงสาวจะต้องรับใช้เขาให้สมกับที่ความแค้นในใจที่ยังไม่ได้ทุเลาลงเลย สั่งการเรียบร้อยปิดมือถือ เดินไปหาเลขาถึงห้อง ลูคัสให้แปลกใจที่เจ้านายมาหาที่ห้อง “เจ้านายมีอะไรด่วนครับ ”

เลขาได้รู้ว่าใครกำลังจะตามมา...ได้แต่งงง กับเรื่องที่ได้ยิน

“นายไม่ต้องไปรับเอง ให้คนอื่นไป” ได้รับฟังเสียงขรึมๆ ก่อนคนพูดจะเดินออกจากหน้าห้องไปอีก

“ครับ” หากลูคัสก็รับคำพร้อมปิดประตู

ทำไมไม่ให้เดินทางมาพร้อมกันซะเลยนะ กลัวเสียฟอร์ม ต้องเหตุผลประมาณนี้ไม่ผิดแน่เพราะตั้งแต่เดินทางออกนอกประเทศด้วยกันไม่เคยสักครั้งจะเห็นเจ้านายพกพาสาวที่ไหนมาด้วย แค่ตนคนเดียวก็บ่นว่าพูดมากน่าเบื่อหน่ายเป็นที่สุด ครั้งหนึ่งลูคัสจำได้เจ้านายเคยพูดแบบนั้นเพราะตนเองล้อหน้าตายว่าสาวๆ ที่เจ้านายควงทุกคนต้องการให้เจ้านายควรให้ความสำคัญด้วยการควงไปไหนมาไหนบ้าง และพูดอีกว่าเจ้านายน่าจะพกมาบ้างเผื่อจะหายจากอาการหน้าบึ้งบ้างเวลาตนเองวอแวรบกวนอารมณ์เรื่องใดๆ ก็ตาม แต่เรื่องที่เผือกไปก็ไม่เคยเกิดขึ้นสักครั้ง

คนสั่งความเรียบร้อยก้าวเดินกลับห้องมุ่งตรงไปสู่มุมระเบียง ใจส่วนลึกไม่อยากยอมรับว่าตนเองรอคอยที่จะได้เจอเชลยสาวจอมเงียบที่ไม่เคยจะยิ้มให้ได้เห็นสักเพียงครั้งเดียวตั้งแต่เจอหน้ากัน เสียงพูด ‘ค่ะ ขา’ ก็ไม่เคยได้ยิน แต่ถึงไม่ยิ้มตัวเขาก็ยอมรับว่า หญิงสาวก็มีดี เพราะตนนั้นโหยหาบทรักที่มีร่วมกันกับเธออยู่ร่ำไป เธอตอบสนองความต้องการดิบเถื่อนที่ปรินทรชอบ ไม่เคยร้องไห้เพื่อให้เขาออมแรงแม้แต่น้อย

ฉุนตนเองนักเมื่อใจไม่แข็งพอกับผู้หญิงซึ่งต้องการจะลงทัณฑ์ให้เจ็บปวด ดูอย่างเมื่อวานตนเกือบจะโทรให้เจ้าหล่อนเตรียมตัวเดินทางมามิลานพร้อมกันเสียเลย แต่หญิงสาวไม่ได้มีความสำคัญขนาดต้องนั่งเคียงข้างกันแบบนั้น อดดีใจไม่ได้ที่มีสติเสียก่อนไม่ทำเรื่องที่คิดให้คนบางคนได้ใจ

ระหว่างนั้นร่างสูงเดินไปนั่งริมสระน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกล นั่งลงตรงเก้าอี้ริมสระ คิดถึงวันนั้น วันที่ตนเองได้เจอเชลยสาว ผู้หญิงที่สั่งใจตนให้เกลียดชัง สั่งตนให้ลงโทษเธอเพื่อให้อีกคนเจ็บปวด

“อีกสามวันครับคุณท่านจะกลับ” เลขารายงานในวันนั้นช่วงวันที่บิดาเดินทางไปพักผ่อนที่เชียงใหม่ ก่อนหน้านั้นปรินทรได้รู้บิดามีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเงาตามตัว ข้อมูลคร่าวๆ ที่ได้รู้ อดคิดไม่ได้ผู้หญิงคนนี้มีอะไรดีนักหนา ทำไมบิดาถึงเปลี่ยนไป ‘หลงใหล’ ปรินทรใช้คำนี้ เพราะการพักผ่อนของบิดายืดยาวออกไปอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นสักครั้ง

ปรินทรแน่ใจล้านเปอร์เซ็นผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางจะรักจริงใจ คงเพราะเงินล่ะสิ แต่ก็ไม่กังวลมากมายคิดว่าเพียงไม่นานบิดาอาจจะไม่จริงจังอย่างที่นึกกลัวก็เป็นได้

ไม่แปลกเลยหากปรินทรจะคิดว่าผู้สาวซึ่งเข้าใกล้บิดานั้นเพียงเพื่อต้องการจะยกระดับตนเองหรืออาจจะตาลุกวาวเพราะเงินตราที่บิดาหยิบยื่นให้ ใครที่อยู่ไกลความคิดตนอาจจะคิดว่าลูกชายมหาเศรษฐีตรัยงกเศษเงินที่บิดาจะปรนเปรอผู้หญิงเหล่านั้น มีเพียงคนสนิทเท่านั้นที่จะรู้ว่าที่ปรินทรต่อต้านการมีสาวข้างกายบิดานั้นเพียงเพื่อหวังให้บิดามีสุขภาพที่ดีร่างกายไม่ทรุดโทรมเพราะผู้หญิงที่วนเวียนอยู่ใกล้ตัวต่างหากเล่า ชายหนุ่มอย่างปรินทรนั้นไม่ใช่ลูกแหง่ที่ติดพ่อหวงพ่อจนไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ดั่งน้องชายตัวดีเคยว่าสักหน่อย อายุของบิดาและโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจนั้นใครก็ทราบมันเลี่ยงเกินไปหากจะต้องหักโหมเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ ชายหนุ่มห่วงใยเรื่องนั้นมากกว่า แต่จนแล้วจนรอดบิดาก็พาผู้หญิงคนนั้นเข้าสู่อัครพิภพ ปรินทรทิ้งเรื่องที่คิดว่าท่านไม่จริงจังหายไป เจอหน้าผู้หญิงของพ่อ ปรินทรแทบไม่อยากมองหน้าหล่อน บอกได้เลยไม่ถูกชะตา ทว่าอีกคนที่ติดตามบิดามาด้วยปรินทรแทบละสายตาไม่ได้ วงหน้าเรียวรูปไข่ เรียวปากอิ่มตึงที่เด่นสะดุดตา ยังจะดวงตาเศร้าสร้อย สะกดสายตาเหลือเกิน แต่นั่นมันก็เป็นเพียงอดีตที่ปรินทรลืมเลือนไปหมดแล้วเมื่อเกิดเรื่องน่าบัดสีขึ้นและเรื่องที่เขาคิดแวบขึ้นมาตอนนั้นจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป...และไม่มีวันที่เขาจะคิดย้อนกลับไปคิดอะไรเหมือนวันนั้นอีก !

ออกจากสนามบินนานาชาติด้วยรถส่วนตัวที่มารอรับ ปิ่นคณางค์เห็นหน้าคนขับรถ จำได้นายคนนี้เคยตามลูคัสแทบเป็นเงาอีกคนหนึ่งเช่นนายหนวดที่นำตั๋วเครื่องบินไปให้ ไม่นานนักถึงโรงแรมหรูหราระดับหกดาวกลางเมืองมิลานซึ่งไม่ต้องบอกก็พอรู้คงมากมายด้วยแขกที่เข้าพัก หญิงสาวมองรอบๆ โรงแรมด้วยความทึ่ง ที่นี่ เลิศ หรู มีระดับ แขกแต่ละคนดูดีมีระดับสมกับสถานที่ ลอบบี้กว้างขวางตกแต่งหรูหราชวนให้เดินชม ทว่าแม้อยากชื่นชมความงามของมันเธอก็ทำได้ไม่เต็มที่เพราะมัวพะวงกับการต้องเจอหน้าคนที่อยากหลบหน้า หลายวันเป็นแรมเดือนที่อยู่ใกล้ชิด หญิงสาวก็ไม่คุ้นชินสักที สายตาเหยียดหยามของปรินทรคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เธออึดอัดเสมอ พนักงานมารยาทงามดูอ่อนน้อมเป็นพิเศษเมื่อเห็นลูคัสเดินมารับเธอหลังจากเข้ามา ลิฟต์นำพาร่างบางขึ้นสู่ห้องที่เจ้าของโรงแรมคอยอยู่ เลขาปรินทรดูเงียบขรึมเช่นเคยแม้ต้อนรับกัน ใบหน้านิ่งๆ นั้นทำให้ปิ่นคณางค์รู้สึกเกรงใจจึงไม่ได้เอ่ยเรื่องที่อยากรู้ออกไป เรื่องที่ว่าจะอยู่ที่มิลานกันสักกี่วัน เข้าห้องหรูกว้างขวาง ใบหน้าซึ่งแต่งแต้มเครื่องสำอางเพียงน้อยนิดหันรีหันขวางมองหาเจ้าของห้อง เพียงไม่นานก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้น “เป็นยังไงบ้าง” แม้เพียงสั้นๆ แต่น้ำเสียงค่อนข้างอ่อนโยน หญิงสาวจึงถามกลับไปบ้าง “ยังไง คุณหมายถึงการเดินทางหรือ” สายตาพยายามไม่มองสบใบหน้าหล่อเหลา เพราะน้อยครั้งน้ำเสียงแบบนี้เขาจะมีให้กัน ฟังแล้วใจหวิวหวั่นยังไงไม่รู้

ปรินทรมองพวงแก้มแดงก่ำ ที่จริงชายหนุ่มอยากถามว่าเหนื่อยเพลียหรือเปล่า แต่ดีใจที่ยังไม่ได้เอ่ยออกมา เพราะตนรึถามดีๆ แต่ได้มะนาวไม่มีน้ำกลับมาเสียนี่ ปิ่นคณางค์กะพริบตาปริบแหงนมองเจ้าของเสียง เสียงแบบนี้เธอไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน “ก็ เหนื่อยและฉัน…แน่นอนอยากพัก”

“แต่ฉันคิดว่าเธอยังมีแรงมากโขอยู่นะ ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ และไม่นานคงได้รู้กันว่าจริงหรือไม่ที่ฉันพูด”

หญิงสาวอ้าปากหวอ ที่ตนเองคิดเป็นจริงแล้วไหมล่ะ เขากำลังจะ...จริงๆ “คุณ กลางวันนะ” จึงพูดเสียงเบาอู้อี้ออกไป หากร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาถึงตัว ปิ่นคณางค์ก็รู้ ป่วยการจะพูดหลีกหลบอีกต่อไป

ร่างสูงดันเธอชิดโซฟาตัวยาว สองมือจับเสื้อโค้ดตัวหนาออกจากตัว ณ ห้วงเวลานั้นแววตาคมดูมีชีวิตชีวาไม่เย็นชาอย่างที่เป็นเสมอปิ่นคณางค์อดร้อนวูบวาบทั่วใบหน้าไม่ได้

“มาพิสูจน์ดูว่าฉันคิดถูกทุกอย่าง” เสียงพร่านั้นได้ทำลายสติสตังที่ไม่คงที่ของปิ่นคณางค์จนหมดสิ้น มีเพียงเสียงครางแผ่วเบาด้วยความรัญจวนใจเมื่อโดนโอ้โล้มจากนักรักชั้นเซียน เสียงครางที่ปรินทรเคยแดกดันว่าทำให้เธอต้อง “หูอื้อ” ไม่ค่อยจะได้ยินเวลาเขาพูดอะไรออกมา แต่เธอก็ห้ามตนเองไม่ได้ที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้น หญิงสาวซ่านหวิวหวั่นไหวกับการรุกเร้า เล้าโลม จนเผลอไผลจับช่วงอกแกร่งให้เข้ามาประชิดแนบอกอวบอิ่มที่เริ่มชูช่อรอสัมผัสคุ้นเคย มือแกร่งประคองกันเบามือเพื่อให้ร่างบอบบางนอนราบกับโซฟาทรงยาวตามใจเขาต้องการ แม้ต้องการอ้าปากบอกว่า อย่าตรงนี้เลยนะ แต่เรียวปากหยักกดหมับลงมาถึงเสียก่อน คนเอาแต่ใจจึงได้สิ่งที่ต้องการในที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel