Ep.2 ไม่คาดฝัน(2)
‘ขอโทษเขา’ แล้วขอให้เขายกโทษให้กับฉันจะได้ไหม ในสิ่งที่แล้วๆมา
แต่ฉันก็ไม่กล้าหันไปมอง
ฉันเดินมานั่งรอรถประจำทางที่ถนนหน้าเมือง แต่กลับนึกไม่ออกว่าจะไปไหน
รถโดยสารประจำทางคันแล้วคันเล่า วิ่งผ่านหน้าฉันไปนานร่วมยี่สิบนาทีแล้ว จนเหลือฉันเพียงคนเดียวที่นั่งรอรถอยู่ที่เดิม ฉันจึงยืนขึ้นเพื่อจะโบกรถที่จะผ่านห้างใหญ่สักคันที่วิ่งมา
แล้วประมาณสิบห้านาทีต่ออมา ฉันก็นั่งรถออกไปจากบริเวณนั้น ในที่สุด
ฉันเริ่มหายใจในจังหวะที่ปกติแล้วในตอนนี้ และคิดเสียว่าประมาณครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา มันเป็นเพียงแค่ความฝัน ฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว ก่อนจะกดกริ่งเพื่อให้รถจอด
ฉันจ่ายค่ารถโดยสารแล้วก็เดินเข้าห้างใหญ่ เพื่อไปซื้อของ โดยที่ในหัวของฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าจะซื้ออะไรบ้าง เพียงแค่เห็นร้านเครื่องดื่ม ฉันก็ตรงไปซื้อน้ำส้มคั้นเย็นๆมานั่งดื่มตรงที่โต๊ะที่ว่างเพียงลำพังคนเดียว
มองไปทางไหน เขาก็มากันเป็นคู่ๆหรือเป็นกลุ่มเป็นก้อนทั้งนั้น มีโต๊ะที่ฉันนั่งเพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น ที่มีคนเดียวโดดๆ ซึ่งก็ทำให้ฉันรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย แต่ก็ยังขัดเขินน้อยกว่าที่ต้องอยู่ต่อหน้าเขาเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา
แล้วสักพักก็มีคนนั่งลงตรงข้าม แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะกำลังก้มดูดน้ำส้มในมือตนเอง ตั้งใจว่าดูดน้ำส้มจนหมดแก้วก็จะเดินช้อปปิ้งต่อ จึงไม่ได้คิดที่จะมองหน้าคนที่มานั่งลงตรงข้ามกัน
กระทั่งดูดน้ำส้มจนหมด ฉันก็เงยหน้าขึ้น แต่ไม่ได้เงยหน้าจะมองหน้าคนที่นั่งตรงหน้านะ ทว่า...
“ขอนั่งด้วยคนนะ พอดีพี่หาที่ว่างไม่ได้”
เสียงนั้นฟังดูคุ้นหูมาก มากจนฉันต้องค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาและสบตาเขา แล้วฉันก็ต้องอ้าปากค้าง หัวใจเต้นผิดจังวะอีกครั้งทันที
ฉันได้แต่กะพริบตามองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ
‘นี่เขาแค่บังเอิญมาเที่ยวห้างเหมือนกับฉันเหรอ อะไรจะบังเอิญขนาดนี้’
ฉันรีบลุกจากเก้าอี้ เอาแก้วน้ำส้มไปเก็บ แล้วรีบเดินจากเขาไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เมือนกลัวว่าเขาจะตามฉันมา
และฉันก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน ว่าทำไมฉันจะต้องหนีหน้าเขาด้วย
‘หนีความผิดงั้นหรือ แต่มันนานแล้วนี่ เขาอาจลืมเรื่องนั้นไปแล้วก็ได้’
เขาอาจไม่ได้คิดอะไรแล้วก็ได้ หรือไม่...เขาอาจจะรู้สึกขอบคุณเธอด้วยซ้ำ ที่ทำให้เขาพบเจอคนที่เหมาะสมกับเขามากกว่าฉัน จนมีลูกด้วยกันถึงสองคน และเป็นครอบครัวที่อบอุ่น
ฉันแอบมาหลบในห้องน้ำนานสองนาน หวังว่าถ้าเดินออกไปจากห้องน้ำแล้ว เขาก็คงไปจากตรงนั้นแล้ว
และเมื่อฉันออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ไปจากตรงนั้นแล้วจริงๆ เพราะมีหลายคนมานั่งจนเต็มโต๊ะนั้น แต่ไร้ซึ่งเงาของเขา
‘คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ’
“เฮ้อ”
ฉันนึกออกแล้ว ที่ฉันเข้ามาในเมือง ก็เพื่อที่จะไปหาซื้อยาอมกับยาแก้ไข้นั่นเอง
ฉันเดินเข้าร้านเภสัช แล้วก็เดินดูพวกยาและอาหารเสริมที่วางบนชั้นทั้งสี่ทิศ แล้วก็หยิบสิ่งที่ตนเองต้องการซื้อมาไว้ในมือ แล้วก็เตรียมจะถามเภสัชกรว่า ยาแก้ไขที่ฉันต้องการมีไหม แต่ก็ไม่เห็นใครออกมาขายสักคน
“มีใครอยู่ไหมคะ ขอซื้อยาหน่อยค่ะ”
แต่ว่ารอนานหลายนาทีแล้ว ก็ไม่มีใครเดินออกมาขายยาให้กับเธอ
ไม่เป็นไร ฉันรอได้
ผ่านไปราวๆสิบห้านาที ก็มีพนักงานในชุดขาวเป็นหญิงสาวหน้าตาดีมาขายยาให้
ฉันได้ยาทั้งสองอย่างตามที่ต้องการ จากนั้นฉันก็เดินออกจากร้านขายยามา โดยไม่มีโอกาสได้เห็นว่า พอคล้อยหลังฉันไม่ถึงนาที ‘เขาคนนั้น’ ก็เดินมาพูดคุยกับพนักงานหญิงคนนั้น ที่ขายยาให้กับฉัน
วันนี้ฉันกลับมาถึงที่พักด้วยความรู้สึกที่โหวงเหวงในใจมาก และรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและหัวใจ
ฉันยืนมองตนเองในกระจก นึกอยากจะย้อนเวลาไปหาอดีตเมื่อเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมาจริงๆ ช่วงเวลานั้นฉันมีความสุขมาก ในวัยสิบหกสิบเจ็ดปี ที่ฉันอยู่แบบเหงาๆ แต่ข้างกายฉันก็ยังมี
‘เขาคนนั้นอยู่เคียงข้าง’
