Ep.2 เซอร์ไพรส์...ใจเต้นกระหน่ำ(2)
“โอเคงั้นนีนั่งอ่านหนังสือรอนะ”
“ตามสบายจ้า” จบคำเจ้าของร้านคนสวยก็หันมาดูแลลูกค้าคนพิเศษในมือต่อ
“เดี๋ยวทำผมเสร็จไปไหนต่อเนี่ย”
“ก็ว่าจะกลับห้องพักเลยจ้ะพี่ นายังจัดของไม่เสร็จเลย แต่ว่าหิวก็เลยออกมาหาอะไรกิน แล้วก็เลยมาทำผมต่อนี่แหละ”
“อืม ว่าแต่พักอยู่ไกลจากร้านพี่มากไหม”
“ไม่ไกลนะพี่ เดินห้านาทีก็ถึง นี่นาก็เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ ก็มาเจอร้านพี่นี่แหละ”
“งั้นว่างๆเราไปกินหมูกระทะกันนะ”
“ได้เลยพี่”
“งั้นเอาเบอร์เรามา”
“บอกเบอร์พี่อรมาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวนายิงไป”
“ได้”
สองสาวแลกเบอร์โทรศัพท์กันเสร็จ อินทุอรก็จัดการไดรีดผมให้สะวันนาจนเงาวับดูมีน้ำหนักเป็นประกาย ซึ่งสร้างรอยยิ้มให้กับทั้งคนถูกทำผมให้สวยและคนทำให้ทั้งสองฝ่าย
“ผมวันนาสวยมากเลยนะ”
“นาไม่ค่อยได้ทำอะไรมันค่ะ นานๆทีถึงเข้าร้าน พี่อรคะ วันนี้นาขอตัวกลับก่อนแล้วนะคะ วันหลังจะแวะมาใหม่ค่ะ”
เพราะเห็นว่าอินทุอรมีลูกค้า สะวันนาเลยไม่อยากอยู่รบกวนเวลาทำงานของเจ้าของร้านคนสวย แต่คิดว่าอีกไม่กี่วัน เธอจะโทรชวนอินทุอรไปกินหมูกระทะด้วยกันเอง
“ได้จ้า”
“อ้อ นาขอนั่งแต่งหน้าแป๊บนะพี่”
“ตามสบายจ้ะ”
สะวันนาสำรวจใบหน้าของตนเอง ก็เติมตรงนี้นิดตรงนั้นหน่อยก็สวยเฉี่ยวแล้ว
หลายเดือนแล้วที่สามีของเธอไม่ได้กลับบ้าน เธอก็แอบไปฟิตหุ่นจนผอมเพรียวน้ำหนักสี่สิบต้นๆเหมือนเดิม
แล้วเธอก็ตั้งใจว่าจะมาตั้งหลักทำงานในจังหวัดบ้านเกิดของตนเอง มาพักอาศัยอยู่ใกล้ๆคนบ้านเดียวกัน ซึ่งไม่มีแค่อินทุอรเท่านั้น
แต่ยังมีเพื่อนๆสมัยเด็กของเธออีกหลายคนที่ทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมที่นี่ นึกภาพดูแล้ว หากได้เจอเพื่อนๆเธอคงหายเหงาขึ้นตั้งเยอะ
หวังว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจที่นี่อาจทำให้เธอโชคดีก็เป็นได้
“พี่อร นากลับก่อนนะ”
“จ้า แล้วเจอกัน”
สะวันนานั่งแท็กซี่สำรวจตลาดสดรอบเมือง สำรวจร้านรวงต่างๆที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก เพื่อวางแผนการทำมาหากินของตนเอง
เธอตั้งใจจะเริ่มต้นทำธุรกิจข้าวกล่องเดลิเวอรี่และของกินกระจุ๊กกระจิ๊กที่สามารถส่งเคอรี่ได้ที่นี่
พ่อแม่ของสามีเคยสบประมาทเธอว่า ผู้หญิงที่ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นแบบอัน ที่คอยแต่จะรอเงินที่ผัวส่งมาให้อย่างเธอจะทำอะไรเลี้ยงตัวเองได้
คำพูดที่ดูถูกกันนี่แหละจะเป็นแรงผลักดันให้เธอทำธุรกิจข้าวกล่องเดลิเวอรี่ของตนเองได้สำเร็จเร็วขึ้น
‘เธอต้องทำได้สิ’
หญิงสาวสำรวจถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่อง ร้านรวงต่างๆไปเรื่อยๆ ก็ไปหยุดพักตรงที่อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เธอกับใครคนหนึ่งเคยพากันมากราบไหว้ขอพรกันที่นี่
แต่วันนี้เธอมาคนเดียว สะวันนาบอกแท็กซี่ว่าเดี๋ยวเธอจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับที่พักเอง
เธออยากจะขอนั่งพักกราบไหว้พระนางจามเทวีสักครู่ จากนั้นก็จะเดินช้อปปิ้งแถวตลาดสดหลังอนุสาวรีย์สักหน่อยจึงค่อยกลับ
หญิงสาวจุดธูปเก้าดอกพร้อมเทียนหนึ่งเล่ม โชคดีที่อากาศโดยรอบสงบๆ ลมไม่แรง เทียนจึงจุดไฟได้ง่ายๆ เธอก้มกราบขอพรเสร็จก็นั่งมองไปรอบๆ
ทว่าภาพที่เห็นกลับเป็นชายหญิงคู่หนึ่งในอดีตที่มานั่งตรงบรรไดทางขึ้นตรงขั้นบนสุด แล้วถ่ายรูปคู่ด้วยกัน
“นา สัญญากับพี่นะ ว่าถ้านาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เมื่อไหร่ นาจะยอมรับให้พี่ไปสู่ขอนากับพ่อแม่ของนา ให้พี่หมั้นนาเอาไว้ก่อน พอนาเรียนจบแล้ว เราสองคนจะแต่งงานกันนะ”
“ไม่สัญญาได้ไหม นายังเด็กอยู่เลย พี่ธันก็อาจไปเจอใครที่ดีกว่านาที่พี่ธันเรียนอยู่ก็ได้ นากลัวความห่างไกล เพราะใครๆต่างก็พูดว่า รักแท้มักแพ้ระยะทาง”
“แต่พี่ไม่มีวันเปลี่ยนไปนะนา”
“อนาคตมันไม่แน่นอนหรอกพี่ธัน”
“แต่เราก็คบกันมาจะสองปีแล้วไม่ใช่เหรอ นายังไม่เชื่อใจพี่อีกเหรอ”
“นาไม่รู้ค่ะ เอาไว้ถ้าถึงเวลาที่นาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกทีนะคะ”
