บทที่ 3
บทที่ 3
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง นั่งอยู่ในรถเฟอร์รารี่คันหรู ภายใต้แว่นตาดำอันใหญ่ สายตาคมกริบเหลือบมองหญิงสาวไม่วางตา ในมือถือโทรศัพท์ที่เช็คสัญญาณกล้องวงจรปิดภายในห้าง ซึ่งเขาเป็นหุ้นส่วน
"โยดะ มึงแน่ใจใช่ไหมว่ามันมาแค่คนเดียว" เสียงทุ้มเอ่ยถามท่ามกลางความเงียบภายในรถ เขาติดตามหล่อนตั้งแต่ออกจากบ้านมา โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลย
"แน่ใจครับ สายสืบรายงานมาว่า เธอนัดกับเพื่อนเธอที่นี่และสั่งคนห้ามติดตาม แต่....." โยดะเงียบไป ก่อนจะหันไปมองทางด้านหลัง ที่มีชายฉกรรก์สองคนยืนมองที่หญิงสาวอยู่
"หึ พี่มันคงให้คนแอบตามมาละสิ" เขาเอ่ยอย่างรู้เท่าทัน
"ครับ"
"งั้นมึงทำยังไงก็ได้ ล่อมันไปทางอื่น แล้วไปรับกูทางหนีไฟ" เตชิเอ่ยบอกลูกน้องเสียงเข้ม ก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากรถไป ส่วนโยดะก็คิดหาทาง เขาแตะคันเร่งพลางมองที่กระจกหลังอย่างแน่วแน่ ก่อนจะถอยหลังอย่างรวดเร็ว
โคร้มมม!!!
"เฮ้ยยย!!" ชายฉกรรก์ทั้งสองคนร้องออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะเดินลงมาจากรถ พร้อมกับโยดะพอดี
"ขอโทษครับพี่ ผมเหยียบผิด ขอโทษจริงๆครับพี่" โยดะเอ่ยขอโทษขอโพย พร้อมกับกันทั้งสองคนไว้ เมื่อเขาทำท่าจะเข้าไปตามหญิงสาวที่เดินหายไปด้านใน
"ขับรถเหี้ยอะไรของมึงวะ!!" ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น พร้อมกับชักสีหน้าหงุดหงิด
"ไอ้ที มึงเคลียร์ตรงนี้ เดี๋ยวกูไปดูคุณหนู" เขาทำท่าจะเดินเลี่ยงไป แต่โยดะดักไว้เสียก่อน
"เอ้ยยพี่ อย่าเพิ่งไป อยู่เคลียร์กันก่อน" โยดะขวางทางเพื่อไม่ให้เขาตามไปได้ทัน
"อะไรของมึงวะ!! มึงก็เคลียร์ไปสิ"
"ไม่ได้หรอกพี่ พี่ต้องอยู่เป็นพยานก่อน เดี๋ยวผมโทรเรียกประกันแป็ปนะพี่" โยดะแสร้งกดโทรศัพท์และพูดคุยคนเดียว แสร้งพูดนานๆ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
ด้านพ่อเลี้ยงหนุ่ม เขาเดินตามหญิงสาวมาห่างๆ มาหนาล้วงกระเป๋าอย่างสบายอารมณ์ มองเธอเลือกซื้อของกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัวเลย ว่ากำลังไม่ปลอดภัย
"หึ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่มึงจะมีความสุข!" เขาพูดเสียงลอดไรฟัน แทบข่มอารมณ์ที่พุ่งพล่านไว้ไม่อยู่
"อันนี้สวยไหม" แพทริคเอ่ยถามเปียวและผึ้งเพื่อนสนิทของเธอ ใบหน้าสวยหวานระบายยิ้มสดใส เธอหยิบกำไรข้อมือหนังที่ถักด้วยมือ เหมือนสินค้าโอท็อปของชาวบ้านที่เอามาขาย
"ก็น่ารักดีนะ" เปียวเอ่ยพร้อมกับหยิบกำไลอีกอันขึ้นมาดู
"ใส่เป็นแก๊งดีปะ อีกไม่นานแกก็ต้องไปเรียนต่างประเทศแล้ว" ผึ้งเอ่ยขึ้น นึกคิดถึงเพื่อนๆ หากต้องจากกัน เปียวอาสาจ่ายเงินให้กับผึ้งและแพทริค
"ของฉันยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปเรียนต่อที่จีนหรือเปล่า แต่แนวโน้มไปจีน 70% เลย" แพทริคเอ่ยเสียงเศร้า ไปอยู่กับปู่ย่าก็ดีอยู่หรอกนะ แต่เธออยากอยู่กับพ่อแม่ที่ไทยมากกว่า
"คิดถึงแย่เลย"
"งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงพวกแกแล้วกันนะ ไม่รู้จะมีโอกาสเจอกันอีกเมื่อไหร่" แพทริคเอ่ยเสนอ ทั้งสามคนตกลงกันจะกินชาบูเลี้ยงอำลา "พวกแกไปก่อนเลยนะ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน"
"ได้ๆ"
แพทริคเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อน เธอตรงไปยังห้องน้ำทันที มือบางควาญหากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋า สะพาย แต่กลับไม่พบ
"เอ๋? หายไปไหน" แพทริคย่นหน้าเล็กน้อย เมื่อไม่พบกระเป๋าสตางค์ ร่างบางหมุนตัวไปยังลานจอดรถ ที่คิดว่าเธอลืมไว้ในรถแน่ๆ
"อ๊ะ! อยู่นี่เอง" แพทริคเปิดประตูก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่คอลโซลรถ แต่เมื่อหันกลับมาเธอก็ต้องตกใจ เมื่อร่างสูงของชายหนุ่มยืนประจันหน้าอย่างใกล้ชิด
"อื้อ!!" มือหนาเอื้อมปิดปากเธออย่างรวดเร็ว สายตาเธอเริ่มพร่ามัวก่อนจะสลบไปในที่สุด เขาจัดการอุ้มร่างบางขึ้นพาดบ่า เป็นจังหวะเดียวกับที่โยดะขับรถมารับ
"เขิญครับ" มือหนาเอื้อมเปิดประตู ก่อนจะยัดร่างบางเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดไม่ต้องห่วง เพื่อนเขาเป็นเจ้าของห้างซะอย่าง แค่นี้จัดการไม่ยาก
"หึ กูนึกว่าจัดการยาก ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยอีก" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างเหยียดหยัน มองร่างบางที่นอนสลบที่เบาะหลัง ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเรียบไร้ความรู้สึก สิ่งที่เขารอคอยมาตลอดหลายปี ใกล้ถึงเวลาชำระแค้นแล้ว!
รถคันหรูแล่นเข้าไปในไร่ชาที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ในเวลาหลายชั่วโมงต่อมา ที่เขาไม่เลือกขึ้นเครื่องเพราะยุ่งยาก ขับรถกลับง่ายสุด ไม่มีใครตามเจอได้ง่าย
"จะเอาไงกับผู้หญิงคนนี้ครับ" โยดะเอ่ยถามนายหนุ่ม แววตาเขาทอดมองไปยังไร่ชาที่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด พื้นที่นี้ไม่ต่ำกว่าพันไร่ เรียกว่ากว้างที่สุดในภาคเหนือก็ว่าได้
"ไปที่หอคอย" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาจากลำคอแกร่ง
"ครับ" แม้จะอยากค้าน แต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อนายต้องการแบบนี้ เขาก็ขัดคำสั่งไม่ได้ รถคันหรูมุ่งหน้าไปยังหอคอย ที่ซึ่งรกร้างมานานหลายปี เรียกว่าไกลจากบ้านคนหลายกิโลเมตร
"ตอนนี้กี่โมงแล้ว" เขาเอ่ยถามเมื่อรถมาจอดที่หอคอยเรียบร้อยแล้ว
"สองทุ่มแล้วครับพ่อเลี้ยง"
"อืม มึงกลับไปเถอะ ค่อยมารับกูพรุ่งนี้"
"พ่อเลี้ยงจะทานอะไรไหมครับ" โยดะถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่เที่ยงนายหนุ่มยังไม่ได้กินอะไรสักคำ
"ไม่ต้อง" เตชิอุ้มร่างบางลงจากรถ ก่อนจะตรงไปยังหอคอยที่มืดสนิท มีเพียงไฟฉายหนึ่งกระบอกที่เขาพกไปด้วยเท่านั้น หอคอยที่สูงนับสิบชั้น ทำเอาเขาเหนื่อยล้าไปมากเลยทีเดียว
ตุบ!
เตชิทิ้งร่างบางลงที่พื้นทันทีที่มาถึง เขายืนเท้าเอวอย่างเหนื่อยหอบ
"กูจะรอดู ว่าถ้ามึงตื่นมา แล้วจะเป็นยังไง" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน แทบอยากเขย่าเธอให้ตื่นซะเดียวนี้ แต่ตอนนี้เขาหมดแรงที่จะต่อสู้กับเธอ
ชายหนุ่มหมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำไป เพราะไม่ได้ใช้งานมานานหลายปี ทำให้ทุกอย่างเหมือนบ้านร้าง เขาเดินกลับออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะกดโทรออกให้โยดะมารับ
