บท
ตั้งค่า

บทที่ 3.2

‘ไปทำงานที่ไร่สักระยะ ผมฝากกวินให้แล้ว’ ชุติมาจับน้ำเสียงร้อนรนผิดปกติของธีระได้ จึงถามด้วยความแปลกใจต่อไปอีกว่า

‘คุณธีจะให้มาไปทำอะไรที่ไร่คะ แล้วใครคือคุณกวิน’ หญิงสาวเพิ่งได้ยินชื่อกวินเป็นครั้งแรก

‘ผมอยากให้น้องมาไปช่วยงานกวินที่ไร่สุขรักษ์ชั่วคราว พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมจะให้น้องมากลับมาทำงานที่บริษัทหรือไม่จะทำอะไรต่อก็ว่ากันอีกที’

พอเอ่ยถึงไร่สุขรักษ์ชุติมาก็ถึงบางอ้อ ไร่ที่ส่งผลผลิตทุกชนิดจากสตรอว์เบอร์รี่ให้กับบริษัท แต่จะให้เธอไปทำอะไรที่ไร่

‘กวินจะบอกน้องมาเองว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ผมขอร้องน้องมาอดทนกับมันหน่อย กวินอาจจะพูดจาไม่เข้าหูแต่รับรองได้ว่าเป็นคนดี ผมฝากน้องมาไว้กับเขาแล้ว ถือว่าทำงานให้บริษัทนะ’

ธีระหวังเพียงแค่ว่าตลอดเวลาที่หญิงสาวไปอยู่ที่ไร่สุขรักษ์ เขาจะสามารถอิบายให้ทุกคนเข้าใจในความบริสุทธิ์ใจของตนกับหญิงสาว และที่สำคัญไปกว่านั้นคือศรีภรรยาสุดที่รักจะเข้าใจตนมากขึ้นด้วย

ชุติมายังไม่ทันจะถามอะไรธีระก็วางโทรศัพท์ไป หญิงสาวไม่มีเวลาคิดอะไรมากได้แต่ทำตามที่เขาสั่งและรอจนเช้าก็มีรถตู้มารับ ทันทีที่ขึ้นรถเธอก็ได้คำตอบเพียงสั้นๆ ว่า ‘ไปสนามบิน’

เพิ่งไม้หลังใหญ่ที่เรียกว่าโรงอาหารอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของชุติมาเท่าไรนัก หญิงสาวเดินตามหลังหญิงคนเดิมที่เดินมาตามเธอให้มาพบ ‘นายกวิน’ ที่นี่ ตลอดทางที่เดินมาเธอเห็นคนงานกำลังทำงานกันคนละไม้คนละมืออย่างขะมักเขม้น ที่สำคัญคนงานของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คน

“คุณชุติมามาแล้วค่ะ”

ชุติมาเพิ่งได้พบหน้าเจ้านายใหม่ของตนเป็นครั้งแรกที่โรงอาหาร ชายหนุ่มผิวสองสีรูปร่างสูงโปร่งผมหยักโศกที่สำคัญดวงตากลมโตหวานราวกับผู้หญิง หญิงสาวพนมมือทำความเคารพอย่างเป็นทางการในการเจอกันครั้งแรก

“นั่งซิ” กวินพูดสั้นๆ แล้วผายมือไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

เพิ่งได้เห็นตัวจริงใกล้ๆ ชุติมาสวยน่ารักปากนิดจมูกหน่อยท่าทางบอบบางน่าทะนุถนอมแบบนี้นี่เอง มิน่าเล่า ธีระถึงได้หวงนักหวงหนากว่าจะกล่อมให้ยอมส่งตัวมาที่นี่ได้ เมื่อคืนก่อนกวินต้องชักแม่น้ำทั้งห้าทั้งขู่ทั้งปลอบจนตกลงได้ในที่สุด

หลังจากที่ตามธีระและชุติมาไม่ทันกวินก็ตัดสินใจย้อนกลับมาหาณัชชาที่เริ่มใจร้อนเพราะความเป็นห่วงลูก ชายหนุ่มขับรถพาเธอกลับบ้านระหว่างทางก็พยายามติดต่อเพื่อนเพื่อบอกให้รู้ว่าอาการของลูกหมีน่าเป็นแค่ไหน แต่โทรศัพท์ไปเท่าไรก็ไม่รับสาย

ลูกหมีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในคืนนั้นเพราะไข้ขึ้นสูงมาก ณัชชาไม่สนใจว่าธีระจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร หญิงสาวเก็บข้าวของจำเป็นวิ่งตามลูกชายไปโรงพยาบาล ที่บ้านจึงเหลือเพียงคุณนายลอรและชายหนุ่มที่รอการกลับมาของธีระด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยคำถาม

กว่าธีระจะกลับบ้านก็ปาเข้าไปวันใหม่ คุณนายลอรอดตาหลับขับตานอนรอลูกชายตัวดีอยู่ที่ห้องโถง กวินเองก็นอนไม่หลับเพราะห่วงอาการป่วยของหลานชายที่ณัชชาโทรศัพท์มาบอกว่าตาลูกหมีเป็นไข้หวัดใหญ่ และอยากจะคุยกับธีระให้รู้เรื่องเกี่ยวกับชุติมา

‘แม่ยังไม่นอนเหรอครับ นายวินหนีกลับมาก่อนทำไม ว่าจะแนะนำให้รู้จักกับผู้ช่วยฉัน’ ธีระเดินยิ้มเข้าบ้านอย่างสบายใจ

‘ไปช่วยกันถึงไหนมาล่ะ ถึงได้กลับเอาป่านนี้’ น้ำเสียงคุณนายลอรโกรธจนรู้สึกได้

‘งานเพิ่งเลิกครับแม่ ผมส่งแขกคนสุดท้ายก็รีบกลับมาทันที โธ่ แม่...’ ธีระอารมณ์ดีจากความสำเร็จในงานคืนนี้จนไม่ได้สนใจอารมณ์ขุ่นเคืองของมารดา

‘สนใจงานมากจนลืมลูกลืมเมีย แกรู้ไหมว่าระหว่างที่แกไประเริงมีความสุขนอกบ้าน ในบ้านมีอะไรเกิดขึ้น ตาลูกหมีจะเป็นตายร้ายดียังไง’ หญิงวัยกลางคนเสียงสั่น

ธีระงงว่าเกิดอะไรขึ้น หันไปมองหน้ากวินที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นเชิงถาม เพื่อนรักเมินหน้าหนีอีกคน กวินเองก็เริ่มจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เหมือนกัน สีหน้าระรื่นของเจ้าเพื่อนตัวดีทำให้เขาหมั่นไส้และสงสารหลานกับน้องในเวลาเดียวกัน

‘ลูกหมีอยู่โรงพยาบาลตอนนี้ น้องณัชไปนอนกับลูก หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่’ กวินเฉลย

‘อะไรนะ ทำไมไม่มีใครบอกฉัน แล้วเป็นมากหรือเปล่า’ ธีระตกใจมาก ทำท่าจะคว้ากุญแจรถวิ่งออกไปโรงพยาบาลอีกคน

‘แกไม่ต้องไปตาธี อยู่ที่นี่พูดกับแม่ให้รู้เรื่อง’ คุณนายลอรตวาดลั่น

‘แม่ครับ ผมจะไปดูลูกก่อน ไว้มีอะไรค่อยพูดกันวันหลัง’ ชายหนุ่มร้อนใจเหลือเกิน

‘แกยังจำได้ว่ามีลูกใช่ไหม เจ้าธี’ นางตวาดถามไปอีกคำ

‘แม่’ ธีระไม่มีเวลามาโต้เถียงกับมารดา เขาควรรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

‘ไอ้ธี แกไม่ต้องไปหรอก ถ้าจะไปก็พรุ่งนี้เช้า’ กวินห้ามอีกคน

‘ทำไม ทำไมฉันไปไม่ได้ ลูกฉันทั้งคนนะโว้ย’ ธีระชักโมโหที่ใครๆ ก็ห้ามไม่ให้ไปดูลูกชายสุดที่รัก

‘น้องณัชขอไว้ คืนนี้ณัชขออยู่กับลูกตามลำพัง แกทำตามที่เมียแกขอเถอะ’

ธีระชะงัก คำขอบ้าอะไรกัน ณัชชาเป็นอะไรขึ้นมาอีก แล้วทำไมเขาถึงไปโรงพยาบาลไม่ได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นสายตาของมารดาและเพื่อนรักที่มองมาตอนนี้ ทำให้ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าที่แท้มีเรื่องอะไรกันแน่

ชุติมารู้สึกอึดอัดกับสายตาที่เจ้านายคนใหม่มองตนในเวลานี้ เขาสำรวจเธอทุกอิริยาบถเรียกว่าทุกลมหายใจเลยดีกว่า ที่สำคัญมันไม่ใช่สายตาของผู้ชายที่มองผู้หญิงในลักษณะชู้สาว แต่มันเป็นสายตาของการจับผิดราวกับเธอทำความผิดใหญ่หลวงอะไรมาสักอย่างและเขากำลังจะพิพากษาให้รับโทษทัณฑ์นั้น

“ทำอะไรเป็นมั่ง” กวินถามขึ้นเป็นคำแรก

เขารู้จากประวัติที่คุณนายลอรให้มาก็คือชุติมาเป็นพนักงานบัญชีในบริษัทที่ไต่เต้าจากพนักงานธรรมดาในแผนก มาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชีในเวลาเพียงสองปี ซึ่งตำแหน่งนี้ธีระเป็นคนแต่งตั้งจะด้วยความสามารถหรือเสน่หาใดๆ ก็แล้วแต่

“ดิฉันทำบัญชีได้ค่ะ” ชุติมารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายคนใหม่ไม่รู้มาก่อนว่าตนทำอะไรได้ แล้วรับเธอมาทำงานที่นี่ทำไมกัน

“บัญชีรับจ่ายธรรมดาใช่ไหม” เขายกแก้วกาแฟขึ้นจิบ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าสวยมองแล้วเพลินตาเพลินใจบอกไม่ถูก

“ได้หมดทุกอย่างค่ะ เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณจะให้ดิฉันมาทำอะไรคะ”

“ก็ทำทุกอย่างที่คุณทำได้ ที่นี่ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ รู้จักไร่สุขรักษ์ไหม”

ทำไมชุติมาจะไม่รู้จักก็ในเมื่อไร่สุขรักษ์คือฝ่ายผลิตที่สำคัญของบริษัท เท่าที่เคยฟังธีระเล่านอกจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีมายาวนานแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวก็แน่นแฟ้นเช่นกัน แต่ให้เธอมาทำอะไรที่นี่

“ผมเพิ่งซื้อที่เพิ่มอยู่ทางด้านหลังห้าไร่ คุณมีหน้าที่ดูแลงานตรงนั้น เดี๋ยวผมจะให้กาหลงสอนงานอีกที”

“บ้านพักพออยู่ได้ไหม” กวินชวนคุยเรื่องอื่นต่อ เขาควรทำความรู้จักกับชุติมาให้มากที่สุดเพื่ออย่างน้อยจะได้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นอย่างไร

ชายหนุ่มได้รับมอบหมายจากคุณนายลอรที่ขอร้องก่อนที่เขาจะกลับมาที่สวนวันก่อนว่า ให้จับตาดูชุติมาอย่าให้คลาดสายตาและถ้ามีโอกาสให้ถามถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงว่าเธอกับธีระอยู่ในสถานะไหนกันแน่ ที่สำคัญกว่านั้นคือ

‘พ่อวินห้ามปล่อยเด็กนั่นกลับมาเด็ดขาด ทางนี้แม่จะพยายามให้สองคนนั่นคืนดีกันให้เร็วที่สุด ถ้าไม่มีมือที่สามมาแทรกแม่ว่าตาธีกับหนูณัชคงไม่ทะเลาะกันอีกแน่’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel