บท
ตั้งค่า

บทที่ 1.3

ดึกแล้วแต่คุณนายลอรยังไม่อาจข่มตาหลับได้ ตลอดทั้งวันนางเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่าจะจัดการกับผู้หญิงที่เข้ามาทำให้ครอบครัวของบุตรชายมีปัญหาได้อย่างไร แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกเพราะจากข้อมูลที่ได้มานั่น ชุติมาเป็นพนักงานดีเด่นของบริษัทถึงสองปีซ้อนและไม่มีพฤติกรรมอะไรที่จะเอาผิดให้ออกจากงานได้

“แม่ยังไม่นอนเหรอครับ” ธีระเปิดประตูเข้ามาที่เรือนเล็ก เขาเพิ่งมาถึงและเห็นไฟยังเปิดอยู่แสดงว่ามารดายังไม่เข้านอนจึงแวะมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามปกติ

“ยังลูก เพิ่งกลับเหรอ” นางยิ้มให้บุตรชายเหมือนเช่นทุกครั้ง

“ครับ วันนี้ผมพาลูกค้าไปออกรอบมาแล้วก็พาไปกินข้าว อากาศร้อนมากตอนแรกนึกว่าจะไม่ไหวซะแล้ว” ชายหนุ่มนั่งลงกับพื้นเหยียดขายาวอย่างสบายอารมณ์เอนตัวมาพิงข้างกายของมารดาเหมือนเช่นเคย

“พักซะบ้าง จะได้ไม่เหนื่อยเกินไป”

“ไม่เหนื่อยหรอกครับ เมื่อก่อนแม่เหนื่อยกว่านี้อีก” ธีระประจบด้วยการซบหน้าลงบนตักของมารดา

สองแม่ลูกไม่พูดอะไรใช้ความรู้สึกถ่ายทอดความห่วงใยที่มีต่อกันเสมอมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้ นับตั้งแต่บิดาของชายหนุ่มเสียชีวิตไปคุณนายลอรก็ทุ่มเททุกอย่างให้กับกิจการของครอบครัว

คุณนายลอรได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแม้จะขาดสามีคู่คิดคอยเคียงข้าง แต่ก็สามารถจัดการให้บริษัทดีเอสขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ ซึ่งธีระก็สานต่อตามเส้นทางที่มารดาปูไว้ให้จนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป

“ตาธี” คุณนายลอรสะกิดบุตรชายเบาๆ

“ครับ แม่” ชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาถึงได้รู้ว่าตนเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน

“ไปนอนเถอะ ป่านนี้หนูณัชรอแล้ว” มารดายิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“ครับ” ธีระลุกขึ้นหอมแก้มคุณนายลอรก่อนจะลาไปพักผ่อน

“ธี”

“ครับ แม่” ชายหนุ่มชะงักหันหน้ามารอฟังว่ามารดาจะพูดอะไรต่อ

“หนูณัชเป็นแม่ตาลูกหมีที่ดีที่สุด เป็นสะใภ้ที่แม่รักและภูมิใจมาก ชีวิตแม่คงไม่ต้องการอะไรนอกจากเห็นครอบครัวธีกับหนูณัชมีความสุข ตาลูกหมีก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย แม่...”

“ผมจะพยายามครับ แม่ไม่ต้องห่วงยังไงผมก็ยอมไม่เสียเมียกับลูกไปแน่” ธีระรับคำหนักแน่น

คุณนายลอรมองตามหลังบุตรชายไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ได้ฟังธีระรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วก็สบายใจ ในขณะที่อีกใจก็ครุ่นคิดว่าเรื่องนี้นางควรจะออกหน้าหรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสองสามีภรรยาจัดการกันเองดี

ธีระค่อยๆ เปิดประตูห้องนอนเข้าไปช้าๆ กลัวว่าจะไปรบกวนการนอนของคนที่หลับอยู่ด้านใน แสงไฟจากโต๊ะทำงานที่มุมห้องยังเปิดอยู่ศรีภรรยาสุดที่รักยังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างขะมักเขม้น

“ยังไม่นอนเหรอ ณัช” ธีระทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

ณัชชาเงยหน้าจากกองเอกสารชำเลืองมองนาฬิกาที่โต๊ะทำงาน สามทุ่มกว่าสามีเพิ่งจะกลับบ้านทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดที่ควรจะมีเวลาให้กับครอบครัวมากกว่าการออกไปตะลอนนอกบ้าน

“จะไปไหน” สามีหนุ่มถามเมื่อเห็นณัชชาปิดไฟแล้วทำท่าจะเดินออกไปนอกห้อง

“ณัชจะไปนอนกับลูกค่ะ” ณัชชาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ลูกเป็นอะไร ทำไมต้องไปนอนห้องลูก”

“เปล่าค่ะ ตาลูกหมีไม่ได้เป็นอะไร ณัชแค่อยากนอนกับลูกเท่านั้น”

ท่าทีหมางเมินที่ณัชชาแสดงออก ธีระรู้ว่าหญิงสาวคงจะโกรธที่เขากลับบ้านดึกในวันที่ควรเป็นของครอบครัว

“พี่พาลูกค้าไปตีกอล์ฟแล้วก็กินข้าว ตอนแรกคิดว่าจะไม่ดึกพรุ่งนี้พี่พาไปดูหนังนะ” ชายหนุ่มพยายามจะเอาใจ

“พรุ่งนี้ณัชไม่ว่างค่ะ ต้องไปพบอาจารย์ที่ปรึกษา”

ธีระถอนหายใจเบาๆ ตั้งแต่ณัชชามุ่งมั่นเรียนปริญญาเอก เวลาที่เคยมีให้เขากับลูกหมีก็น้อยลงไป ไหนจะงานอาจารย์ประจำวิชาที่มหาวิทยาลัยที่หญิงสาวทำงานอยู่ก็แทบจะไม่มีเวลาให้กับงานอื่นอยู่แล้ว ลูกหมียังโชคดีกว่าชายหนุ่มที่อย่างน้อยศรีภรรยาก็ยังแวะเวียนไปเล่นกับลูกหรือมีเวลาให้ ในขณะที่เขากลับมีเวลาสวนทางกับสุดที่รัก

“ไปพบอาจารย์เสร็จกี่โมง พี่รอก็ได้” ธีระยังพยายามจะหาเวลาให้

“ไม่ทราบค่ะ แล้วแต่อาจารย์จะเสร็จกี่โมง พี่ธีพักผ่อนดีกว่าไหมคะ ทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์” แม้จะน้อยใจหรือโกรธแต่ณัชชาก็ไม่เคยละเลยดูแลสุขภาพของคนที่เธอรัก

ณัชชาคลางแคลงใจเรื่องธีระมีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาวุ่นวายจากการสันนิษฐานของตัวเอง โดยที่เคยเห็นคู่กรณีของตนเพียงแค่ครั้งเดียวจากวันที่มีงานเลี้ยงบริษัท แต่ความสนิทสนมของสามีสุดที่รักและผู้หญิงที่เธอรู้ชื่อเพียงแค่สั้นๆ ว่าน้องมา

ตลอดจนการที่ลูกหมีพูดถึงผู้หญิงคนนี้บ่อยจนทำให้เธอเกิดความระแวงมากกว่าความชื่นชม และยิ่งธีระมักกลับบ้านดึกหรือออกไปข้างนอกในวันหยุดครอบครัวก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลพอที่จะตกมาที่เรื่องนี้ได้

“งั้น พี่รอที่บ้านพอณัชเสร็จธุระโทร.มาบอกดีไหม พี่จะออกไปหา”

“แล้วแต่พี่ธีค่ะ ณัชยังไงก็ได้” ณัชชาค่อยรู้สึกดีขึ้นที่ธีระแสดงท่าทีสนใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

“อปล่อยนะคะ พี่ธีตัวเหม็นยังไม่ได้อาบน้ำเลย” หญิงสาวสะดุ้งเมื่ออ้อมแขนแกร่งตวัดรัดร่างเข้ามาหาแนบอก

“งั้นก็อาบให้พี่ซิ วันนี้เหงื่อออกมากพี่ยังเหม็นตัวเองเลย” ธีระโน้มใบหน้าเข้ามาบรรจงจูบข้างแก้ม

สายตาของธีระแสดงความชื่นชมในตัวศรีภรรยาอย่างเห็นได้ชัด ณัชชาในวันนี้ยังน่ารักน่าเอ็นดูไม่แตกต่างจากวันวานที่เคยได้รู้จัก แก้มนิ่มปากนิดจมูกหน่อยที่เชิดรั้นบอกให้รู้ถึงความเจ้าแง่แสนงอนที่ไม่เปลี่ยน แต่แม้จะงอนมากแค่ไหนเขาก็พร้อมจะง้อยอดดวงใจไปตลอดชีวิต

ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเมื่อเห็นสายตาของสามีที่จ้องมองในเวลานี้ ณัชชาพยายามจะดิ้นให้หลุดจากการกอดรัดของคนยังไม่อาบน้ำ แต่ยิ่งดิ้นธีระก็ยิ่งรัดจนสองร่างแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

“ปล่อยณัชค่ะ ณัชจะไปดูตาลูกหมี” เธอประท้วงเบาๆ เมื่อถูกเขาอุ้มลอยเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมๆ กัน

“ตาลูกหมีมีคนดูแล้ว พ่อตาลูกหมีซิไม่มีคนสนใจ” เขากระซิบเสียงแหบพร่า

“ใครบอกว่าพี่ธีไม่มีคนสนใจ มีแต่คนแย่งกันจะดูแลไม่รู้เหรอคะ” ภรรยาสาวประชดค้อนขวับเข้าให้เมื่อชายหนุ่มยอมปล่อยเธอให้ยืนตรงหน้า

“ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าพี่กำลังจะถูกเมียทิ้ง น่าสงสารไหม” ชายหนุ่มส่งสายตาอ้อนวอนประหนึ่งว่าหัวใจกำลังต้องการคนมาดูแล

“ใครกันแน่ที่ทิ้งใคร ยังจะมีหน้ามาพูดอีก” ปลายเล็บหยิกเบาๆ ที่ต้นแขน ธีระร้องลั่นราวกับเจ็บจนทนไม่ไหว

“โอ๊ย พี่เจ็บนะ” ปากก็ร้องโอ๊ย แต่มือพ่อเจ้าประคุณกลับรั้งเอวบางเข้ามาหา

“ปล่อยนะคะ พี่ธียังมีคดีติดตัวเรื่องนั้นอยู่” ณัชชาทำหน้าบึ้งใส่

“งั้นให้จำเลยแก้ต่างหน่อยได้ไหม ศาลจะเมตตาหรือเปล่า” ธีระวอนทั้งน้ำเสียงและสายตา

“ปล่อยค่ะ ณัชไม่อยากฟังคำแก้ตัว” หญิงสาวสะบัดหน้าหนี

“ไม่ฟังคำแก้งั้นพี่แก้ให้นะ”

ณัชชาสะดุ้งเมื่อชุดนอนสีหวานถูกรั้งขึ้นมาเหนือศีรษะแล้วหลุดลอยหายไปอย่างรวดเร็ว ธีระไม่รั้งรออะไรต่อไปอีกแล้ว เขาจะทำให้ศาลยอมเมตตารับฟังคำร้องและพิพากษายกโทษให้ในที่สุดให้จงได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel