บท
ตั้งค่า

บทที่ 1.2

‘คุณพ่อพาไปครับ ไปกับพี่มาด้วย นี่ไง พี่มายังซื้อตุ๊กตาหมีให้ลูกหมีเลย บอกว่าเป็นของขวัญที่เรารู้จักกัน’ เด็กชายตัวน้อยชูตุ๊กตาที่เล่นอยู่ให้หญิงสาวดู

ณัชชาอึ้งไปทันทีพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดว่าธีระจะพาลูกไปทานไอศกรีมแทนเพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาหญิงสาววุ่นวายกับการสอบครั้งที่หนักหน่วงของการเรียนปริญญาเอก

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการที่ลูกหมีบอกว่าธีระพาไปรู้จักกับผู้หญิงคนอื่น ผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตแต่งงานในระยะหลังของเธอกับธีระมีความหวาดระแวงเกิดขึ้น ณัชชารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปในท่าทีของสามีที่มีต่อผู้หญิงที่รู้เพียงแค่ชื่อชุติมาเท่านั้น

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ตาธีไปรู้จักที่ไหน” คุณนายลอรซักด้วยความอยากรู้ หลังจากที่ฟังเหตุการณ์คร่าวๆ จากปากของสะใภ้

“ไม่ทราบค่ะ พี่ธีไม่ยอมบอกอะไร ณัชรู้แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อชุติมาทำงานที่บริษัท”

ณัชชาเองก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะหน้าที่การงานความรับผิดชอบในฐานะอาจารย์สอนในระดับมหาวิทยาลัย และยังจะงานวิจัยปริญญาเอกที่เธอทุ่มเทจนใกล้จะสำเร็จ กับภาระในฐานะความเป็นแม่ให้กับลูกหมีลูกชายสุดที่รัก เท่านี้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอก็แทบจะหมดแรงแล้ว ยังจะต้องมาเจอเรื่องที่บั่นทอนสุขภาพจิตใจของสามีสุดที่รักอีก คุณนายลอรจึงเข้าใจแล้วว่าทำสะใภ้จึงต้องย้ายกลับไปอยู่บ้าน

“ณัชทนไม่ไหวค่ะ คุณแม่ ให้ณัชกลับไปพักใจที่บ้านสักพัก บางทีทุกอย่างอาจดีขึ้นหรือถ้าไม่...” เธอเว้นวรรคกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากเย็น

“ก็ให้ณัชทำใจบ้างค่ะ”

เห็นทีว่าเรื่องนี้คงต้องจัดการให้เร็วที่สุดเสียแล้ว คุณนายลอรไม่มีวันยอมให้หลานและสะใภ้ต้องออกจากบ้านไปไหนเด็ดขาด ธีระต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยถ้าไม่ นางจะเป็นคนออกหน้าเอง

ธีระถอนหายใจออกมาดังๆ เมื่อฟังมารดาพูดจบ เมื่อครู่เขาเห็นสาวใช้ช่วยกันยกกระเป๋าของณัชชาและลูกหมีกลับขึ้นไปด้านบนอย่างเดิม นึกว่าคุณนายลอรช่วยแก้ต่างเรื่องที่ทำให้ณัชชาไม่สบายใจได้เรียบร้อยแล้ว ที่ไหนได้ตอนนี้มารดากำลังทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาไต่สวนจำเลยอย่างเขาอยู่ที่เรือนเล็กข้างตึกใหญ่

“บอกแม่มาตามตรงที่หนูณัชพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” คุณนายลอรเอ่ยเสียงเรียบ

ชายหนุ่มรู้ดีว่าปกติแล้วมารดาจะไม่วุ่นวายก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใครทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อตอนที่เขาจะแต่งงานกับณัชชา คุณนายลอรจึงให้ช่างมาสร้างเรือนเล็กไว้เป็นที่อาศัยเพียงลำพัง และยกตึกหลังใหญ่ที่อยู่มานานให้เป็นเรือนหอสร้างครอบครัวแทน

ธีระไม่รู้ว่าณัชชาพูดอะไรกับคุณนายลอรบ้าง เขาเองก็เพิ่งรู้เมื่อเช้าว่าศรีภรรยาขอกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่โดยจะเอาบุตรชายสุดที่รักไปด้วย โดยให้เหตุผลที่ชายหนุ่มพูดไม่ออกว่าขอทบทวนความรู้สึกที่มีต่อ กัน ดีที่มีมารดามาช่วยห้ามทัพทำให้ไม่เกิดเรื่องยุ่งยากตามมา

“ณัชพูดเรื่องอะไรบ้างล่ะครับ” ธีระถามเสียงเนือย

เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้ยอดดวงใจขุ่นเคืองมากมายจน ต้องหอบผ้าหอบผ่อนกลับบ้าน ตั้งแต่แต่งงานกันมาและได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการทุกอย่างของครอบครัว ธีระทุ่มเททำงานไม่กลัวเหน็ดเหนื่อยหวังแค่ให้แม่และเมียได้อยู่อย่างสบาย แม้พักหลังจะรู้สึกว่าไม่ ค่อยได้มีเวลาพูดคุยกันเหมือนแต่ก่อน แต่ก็คิดว่าณัชชาน่าจะเข้าใจว่าทั้งหมดที่ทำก็เพื่อครอบครัวไม่ใช่สิ่งอื่น

“อย่ามายอกย้อน เรื่องอื่นแม่ไม่ว่าแต่เรื่องผู้หญิงคนนั้นแม่ยอม ไม่ได้” นางเสียงแข็งขึ้นมาทันที

“ผู้หญิงคนไหนครับแม่ แม่ก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง” ธีระเดาว่าภรรยาคงพูดเรื่องที่ทำให้ทั้งคู่มีปากมีเสียงกันบ่อยในพักหลัง แม้เขาจะยืนยันว่าไม่มีอะไรแต่ณัชชาก็ไม่เชื่อ

“แม่รู้ว่าลูกเป็นยังไง แม่ถึงถามว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี พ่อธีถึงได้ยอมมีปัญหากับเมียเพราะแม่นั่น” สายตาของคุณนายลอรจับจ้องมาที่บุตรชายราวกับจะคาดคั้นเอาความจริงจากปากให้ได้

“แม่ครับ ผมยืนยันว่าผมกับน้องมาไม่มีอะไรจริงๆ เราเป็นแค่ เจ้านายลูกน้องเท่านั้น” ธีระยืนยันหนักแน่น

“น้องมางั้นเหรอ” นางทวนคำช้าๆ

“นี่สนิทกันถึงขั้นเป็นพี่เป็นน้องตั้งแต่เมื่อไร แล้วจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อแม่น้องนอกไส้มาทำให้เมียตัวเองเสียใจ”

ธีระถอนหายใจเบาๆ มารดาก็พลอยเป็นไปกับเขาด้วย พูดแบบนี้แสดงว่าเชื่อณัชชามากกว่าเชื่อตน ป่วยการที่จะอธิบายเรื่องนี้เพราะพูดอย่างไรก็ไม่มีวันเข้าใจ

“ผมไม่ทำอะไรทั้งนั้นครับ ณัชเองก็ไม่ควรทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าคิดว่าผมไม่เหมือนเดิมงั้นณัชก็ควรทบทวนตัวเองเหมือนกันว่าตอนนี้กับเมื่อก่อนต่างกันแค่ไหน” ธีระพูดเหมือนมีอะไรค้างคาในใจ

“ตาธี” คุณนายลอรปรามบุตรชายเสียงแข็ง

“ผมฝากบอกณัชด้วยว่าเมื่อก่อนเคยรักยังไงตอนนี้ผมก็ไม่เปลี่ยน ที่เปลี่ยนก็เพราะอยากให้ครอบครัวสบาย” บุตรชายลุกขึ้นยืนขอตัวกลับไปที่ห้องทำงานโดยไม่พูดอะไรต่อทั้งสิ้น

คุณนายลอรมองตามอย่างหนักใจ เห็นทีนางต้องจัดการให้ทุกอย่างเป็นปกติโดยเร็วที่สุดเสียแล้ว แม้ธีระไม่ได้พูดอะไรมากแต่เท่าที่ฟังก็รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อน้องมามีความสำคัญกับบุตรชายเหลือเกิน หรือว่าสิ่งที่ณัชชาสงสัยจะเป็นเรื่องจริง

คุณนายลอรมองหลานชายวัยน่ารักน่าชังที่กำลังเล่นอยู่กับพี่เลี้ยงอย่างสนุกสนานแล้วนึกสงสารหากลูกหมีต้องมาประสบชะตากรรมที่พ่อแม่แยกทางกัน หลายวันมานี้นางจัดการให้คนไปหาข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นมาให้ ตลอดจนคิดทบทวนว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี

“ตาธีไปไหนหนูณัช อยู่ที่ห้องทำงานหรือเปล่า” นางถามศรีสะใภ้ที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจงานนักศึกษาอย่างคร่ำเคร่ง

“พี่ธีไม่อยู่ค่ะ คุณแม่ ออกไปแต่เช้า” ณัชชาตอบเสียงเบา

หญิงสาวพยายามอดทนกับพฤติกรรมของสามีที่เริ่มไม่มีเวลาให้กับตนเองและลูกมากขึ้น ตามคำขอร้องของคุณนายลอรที่รับปากว่าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้

‘ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น หนูณัชเป็นสะใภ้ที่แม่ยอมรับใครก็ไม่มีสิทธิ์มาแทรกได้ ตาธีก็เหมือนกันถ้าเป็นอย่างที่เราคิดจริง แม่จะจัดการขั้นเด็ดขาด’ น้ำเสียงแม่สามีแข็งกร้าวขึ้นมาทันที

‘อดทนอยู่ที่นี่ แม่รับรองว่าจะไม่มีใครหน้าไหนกล้ามายุ่งกับหนูณัชแน่’

“ออกไปไหน” นางแปลกใจเล็กน้อย เพราะนี่เป็นวันเสาร์ธีระไม่น่าทำงานในวันหยุดเช่นนี้

“ไปบริษัทค่ะ”

คราวนี้คุณนายลอรต้องเป็นฝ่ายถอนหายใจกับพฤติกรรมของบุตรชายตนเอง ไปบริษัทก็ต้องเจอผู้หญิงคนนั้นและงานที่บริษัทก็ไม่ได้ยุ่งอะไรมากมายจนต้องทำงานในวันหยุดที่ควรอยู่กับครอบครัวแบบนี้

“อดทนไว้นะลูก นึกว่าทำเพื่อตาลูกหมี แม่จะจัดการให้เร็วที่สุด” หญิงวัยกลางคนพูดปลอบใจ

“ค่ะ ณัชจะพยายาม” ณัชชากลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้หลุดออกมา บอกตัวเองว่าให้เข้มแข็งเพื่อลูกสักครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel