บทที่ 6 ความจริงที่ไม่อยากเชื่อ
“พี่ส่งเราแค่ตรงนี้นะครับ” อนาวิลกล่าวขึ้นหลังจากรถคันหรูแล่นจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ โดยตนเองไม่ได้เข้าไปส่งข้างใน เนื่องจากยังไม่อยากเจอหน้าฟีนิกซ์ตอนนี้ เพราะเกรงว่าจะยืดยาว
“ขอบคุณพี่ธันย์มากนะคะ”
“ครับ” ส่งยิ้มหวานแก่น้องสาว ซึ่งเขาแทบไม่รู้จักนิสัยของนลินญาเลย แต่พอคาดเดาได้ว่าเป็นคนอย่างไร ไม่อย่างนั้นคนอย่างฟีนิกซ์ไม่ยอมแต่งงานด้วยหรอก
“พี่ธันย์คะ เรื่องของครอบครัวเรา น้ำหนึ่งจะเป็นคนบอกพี่เซนเองนะคะ”
“ได้ครับ พี่แล้วแต่น้ำหนึ่งเลย” ว่าพลางยื่นมือใหญ่ลูบศีรษะนลินญา เธอน่ารักและน่าเอ็นดูเหลือเกิน มิน่าฟีนิกซ์ถึงขั้นยอมสละโสดและแต่งงานด้วย ท่าทางคงจะหลงน่าดู
“งั้นขอตัวก่อนนะคะ ป่านนี้พี่เซนคงรอน้ำหนึ่งแย่แล้ว” นลินญายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่ม จากนั้นเปิดประตูรถลงไปทันที ก่อนยืนมองรถหรูแล่นจากไป แล้วหมุนตัวเดินเข้าข้างในคฤหาสน์
เมื่อนลินญาเดินเข้ามาถึงภายในกลับรู้สึกถึงความเงียบผิดปกติ
“พี่เซนไม่อยู่เหรอ” กวาดสายตามองรอบ ๆ แต่ก็ไม่เจอฟีนิกซ์ กระทั่งเสียงรถแล่นจอดหน้าคฤหาสน์ เธอจึงช้อนตามองและเห็นครูซกำลังประคองร่างสูงใหญ่ของฟีนิกซ์เข้ามาอย่างทุลักทุเล
“คุณครูซคะ เกิดอะไรขึ้นทำไมพี่เซนเมาขนาดนี้” นลินญาวิ่งไปช่วยประคองร่างสามีอีกข้าง ก่อนเอ่ยถามครูซด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกครับนายหญิง พอดีนายท่านดื่มหนักไปหน่อย”
“ปกติดื่มหนักแบบนี้เหรอคะ”
“เปล่าครับ แค่วันนี้เอง” ครูซไม่ได้เอ่ยถึงสาเหตุเพราะอะไร เนื่องจากกลัวนลินญาจะรู้สึกไม่ดี ฟีนิกซ์ถูกมิรานางแบบชื่อดังซึ่งเป็นลูกสาวของลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทคะยั้นคะยอให้ดื่มเหล้าหวังจะมอมเหล้าให้เมาและพาขึ้นห้อง โชคดีตอนนั้นเขาอยู่ด้วยจึงพาเจ้านายกลับมาอย่างปลอดภัย
“อ๋อค่ะ งั้นช่วยพาพี่เซนขึ้นไปบนห้องหน่อยนะคะ” เธอไม่ได้ซักไซ้อะไรมากมาย รีบตัดบททันที
ร่างสูงใหญ่ถูกวางลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์ นลินญาปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อยพลางมองสามี
“ขอบคุณมากนะคะ ไปพักผ่อนเถอะ”
“ครับ” ครูซโค้งศีรษะทำความเคารพเจ้านายสาว จากนั้นย่างกรายออกจากห้องไป
“เฮ้อ ทำไมถึงดื่มหนักขนาดนี้คะพี่เซน” นลินญานั่งข้างสามีเอื้อมมือเรียวสัมผัสแก้มสากแผ่วเบา “คอยดูเถอะ พรุ่งนี้เช้าแม่จะเอ็ดให้ดูเลย โทษฐานทำตัวไม่น่ารัก” เธอกล่าวแบบไม่จริงมากนัก จากนั้นเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงจัดการหาอุปกรณ์เช็ดตัวให้ชายหนุ่ม แล้วนำเสื้อผ้าตัวใหม่ให้เขาเปลี่ยน ก่อนตนเองจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย
นลินญาใช้เวลาในการอาบน้ำแต่งตัวไม่นานเสร็จเรียบร้อย จากนั้นล้มตัวนอนข้างฟีนิกซ์ ก่อนจะถูกแขนแกร่งโอบกอดอย่างแน่น ทั้งยังพูดจาพร่ำเพ้อมากมาย
“พี่รักน้ำหนึ่งมากเหลือเกิน รักมากที่สุด อย่าทิ้งกันไปเลยได้ไหม”
“คนบ้าขนาดหลับแล้วยังละเมออีก” ด้วยความมันเขี้ยว นลินญายกมือขึ้นประคองหน้าหล่อเหลาและกดจูบแก้มสากซ้ำหลายครั้งจนหนำใจ “น้ำหนึ่งก็รักพี่เซนค่ะ” พูดจบ ร่างอรชรขยับเข้าใกล้คนตัวโตมากยิ่งขึ้น ใบหน้าหวานซุกอกแกร่งก่อนปิดตาสนิท
นัยน์ตาคู่งามลืมขึ้นอย่างเชื่องช้าก่อนพบเพดานห้องสีขาวล้วน จากนั้นจึงหันข้างเพื่อมองหาคนที่นอนกอดกันทั้งคืน ทว่ากลับพบเพียงความว่างเปล่า
“พี่เซนไปแล้วเหรอ ทำไมถึงไม่ปลุกกันเลย” หญิงสาวค่อย ๆ ดันกายลุกขึ้นนั่ง “โอ๊ย ปวดหัวจังเลย” มือเรียวยกขึ้นกุมขมับอย่างไว
“นายหญิงตื่นแล้วเหรอคะ” เสียงของสาวใช้ทำให้นลินญาหันไปมอง
“อืม” ตอบรับในลำคอเพียงสั้น ๆ พลางพยักหน้าเล็กน้อย จู่ ๆ แอบเจ็บจี๊ดตรงศีรษะ
“นายหญิงดีขึ้นไหมคะ” มะลิเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“น้ำหนึ่งเป็นอะไรเหรอคะ” เมื่อคืนก็ยังดี ๆ อยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงปวดหัวขนาดนี้
“เมื่อเช้านายหญิงมีไข้ค่ะ นายท่านเป็นคนเช็ดตัวให้ก่อนจะกำชับให้ป้าขึ้นมาดูนายหญิงหลังจากตื่นทันที”
“แล้วตอนนี้พี่เซนไปบริษัทแล้วเหรอคะ”
“เปล่าค่ะ นายท่านอยู่ห้องทำงาน”
“อืม” นลินญาไม่ได้ถามต่อ เนื่องจากตอนนี้เวียนหัวจนอยากนอนอีกครั้ง
“นายหญิงจะรับอาหารเที่ยงเลยไหมคะ ป้าจะได้เตรียมให้”
“ไม่ละ น้ำหนึ่งอยากนอนต่อ” พูดพลางเอนหลังกับเตียงหนานุ่มซึ่งหญิงวัยกลางคนช่วยประคอง
อีกฝั่งหนึ่งของคฤหาสน์ภายในห้องทำงาน ฟีนิกซ์กำลังมองดูนาฬิกาข้อมือสีทองอย่างพิจารณาสลับมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีภาพถ่ายของอนาวิลกับชยางกูร เขานั่งดูเกือบสองชั่วโมงโดยไม่มีท่าทีจะลุกไปไหน เนื่องจากวันนี้เขาเพิ่งได้รับข้อมูลมาใหม่เกี่ยวกับตัวฆาตกรและมันดันเชื่อมโยงกับเพื่อนรักของเขา
ข้อมูลที่ได้รับมาเกี่ยวข้องกับนาฬิกาสีทองที่เขาถืออยู่ขณะนี้ ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่น้าชายให้ไว้เพราะเป็นของชิ้นเดียวที่เก็บได้ในจุดเกิดเหตุคืนนั้น และเขาเพิ่งทราบมาว่าเจ้าของนาฬิกาคือชยางกูรพ่อของอนาวิล พ่อของเขาเป็นคนมอบนาฬิกาสีทองให้เอง
เมื่อก่อนตอนเขาคบกับอนาวิลเป็นเพื่อนรัก ไม่เคยรู้เลยอนาวิลเป็นลูกเต้าเหล่าใครเพราะไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อน ทว่าตอนนี้เมื่อรู้ความจริงทุกอย่าง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีมันมืดแปดด้านไปหมด
“นายท่านโอเคใช่ไหมครับ” ครูซเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงเจ้านาย เนื่องจากสีหน้าของฟีนิกซ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ไม่รู้วะ ตอนนี้สับสนไปหมด” เขากับอนาวิลคบกันมาตั้งนาน ไม่คิดเลยครอบครัวของเพื่อนรักจะทำแบบนี้
“นายท่านครับ คือว่า…”
“ขออนุญาตค่ะ” ไม่ทันครูซจะกล่าวขึ้น เสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นก่อนทั้งสองคนจะหันไปมองยังประตูห้อง
“อ้าวน้ำหนึ่งเองเหรอ” ฟีนิกซ์รีบเก็บนาฬิกาสีทองไว้ในลิ้นชักและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันใด ส่งสัญญาณไล่ลูกน้องออกจากห้อง
“น้ำหนึ่งรบกวนหรือเปล่าคะ” นลินญาเดินเข้ามาในห้องหลังจากครูซเดินออกไป
“ไม่เลย” ฟีนิกซ์ส่งยิ้มหวานแก่ภรรยา พยายามกลบเกลื่อนไม่ให้นลินญารู้ว่าเขามีเรื่องต้องกังวล
“ค่ะ”
“มาตรงนี้หน่อยสิ” ฟีนิกซ์กวักมือเรียกคนตัวเล็กให้เข้าใกล้ตนเอง ก่อนคว้าร่างอ้อนแอ้นมานั่งบนตักแกร่งแล้วโอบกอดอย่างหวงแหน “ดีขึ้นยังครับ”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ” ส่งยิ้มอ่อน ๆ กับคนตัวโตก่อนซุกหน้ากับแผงอกกว้าง อบอุ่นเหลือเกินอ้อมกอดของเขาจนไม่อยากห่างสักวินาทีเดียว
“รู้ไหมพี่เป็นห่วงแทบแย่เลย จู่ ๆ ก็ป่วยขึ้นมาเสียดื้อ ๆ”
“รู้แล้วค่ะว่าเป็นห่วง คนแก่ขี้บ่นจังเลย” นลินญาย่นจมูกใส่อย่างมันเขี้ยว
“ว่าพี่แก่อีกแล้วเหรอ งั้นคืนนี้เจอดีแน่”
“พี่เซนขา…น้ำหนึ่งเพิ่งหายป่วยเอง อย่ารังแกกันสิ” เธออ้อนเขาเสียงหวาน ทำคนฟังถึงกับยอมจำนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ครับ ไม่แกล้งก็ได้” ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยอย่างเอ็นดู
“จริงด้วยสิ น้ำหนึ่งมีเรื่องจะบอกพี่เซนด้วย” นลินญากล่าวขึ้นเสียงดังเมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญที่จะพูดกับเขา
“อะไรครับ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความสงสัยกับท่าทีของคนตัวเล็กขณะนี้
“เรื่องสำคัญ” จากนั้นหญิงสาวเริ่มเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับอนาวิลให้ฟีนิกซ์ฟังทั้งหมดโดยไม่ปิดบัง ทั้งเรื่องของพ่อแม่และเรื่องที่เธอเป็นลูกสาวของชยางกูร
“จริงเหรอน้ำหนึ่ง” ฟีนิกซ์ถามขึ้นทันทีหลังจากฟังจบแทบไม่อยากเชื่อกับความจริงทั้งหมดจากปากคนตัวเล็ก
“จริงสิคะ พี่ธันย์ยังฝากมาบอกเลยว่าถ้าพี่เซนรังแกน้ำหนึ่ง พี่ธันย์ไม่ปล่อยไว้แน่” นลินญาเผยยิ้มร่าด้วยความดีใจ ซึ่งไม่ทันสังเกตสีหน้าซีดเผือดของชายหนุ่ม
ฟีนิกซ์รู้สึกวันนี้ช่างเป็นวันที่แย่สุดสำหรับตัวเอง เขารู้ว่าใครคือฆาตกรขณะเดียวกันรู้ว่าอนาวิลเป็นลูกชายชยางกูร มิหนำซ้ำนลินญาเพิ่งมาบอกว่าเป็นลูกสาวอีกคนของชยางกูร ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับชยางกูรล้วนเป็นคนสำคัญของเขาหมดเลย แล้วแบบนี้เขาจะทำอย่างไรดี
“พี่เซนคะ”
“ครับ”
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงเงียบ” หญิงสาวจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่คมของเขา รับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เขากำลังเก็บซ่อนไว้ในใจ
“เปล่าครับ” ส่งยิ้มอ่อนแก่คนตัวเล็ก
“ถ้าพี่เซนไม่สบายหรือเจ็บตรงไหน ต้องรีบบอกน้ำหนึ่งนะคะ น้ำหนึ่งเป็นห่วงพี่เซนมากเลยรู้ไหม”
“น้ำหนึ่งออกไปก่อนได้ไหม พอดีพี่นึกขึ้นมาได้ว่ามีงานต้องสะสางอีกนิดหน่อย” ฟีนิกซ์ไม่ได้สนใจคำพูดของภรรยาสาว แต่กลับไล่เธอออกไปจากห้องแทน
“ค่ะ” นลินญายอมทำตามคำสั่งของชายหนุ่มง่าย ๆ เด้งตัวลุกขึ้นจากตักแกร่งและเดินจากไปทันที โดยไม่เปล่งประโยคใด
