ตอนที่ 4 แฟนที่แสนดี
อริณเดินออกจากร้านมาเมื่อแฟนโทรบอกว่าถึงหน้าร้านแล้ว เธอไม่อยากเสียเวลาจึงให้เขารออยู่บนรถแล้วเดินออกมาขึ้นรถเอง ทันทีที่เธอมองเห็นแฟนหนุ่ม ก็ยิ้มกว้างในทันทีแต่วันนี้เขาดูต่างออกไป
“พี่เป็นอะไรเหรอคะ?”
“พี่เหนื่อยนิดหน่อยครับ วันนี้ริณเหนื่อยมากไหม” เขายังคงอ่อนโยนกับเธอเสมอ “ไม่ได้ดื้อใช่ไหม พี่ไม่อยู่หลายวัน”
“ริณจะไปไหนได้คะ ทำแต่งานทุกวัน พี่สองนั่นแหละไม่ได้ดื้อใช่ไหมคะ ไม่ได้แอบไปซนที่ไหนใช่ไหมเอ่ย” เธอยอกย้อนคำพูดของเขาบ้าง แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะจากเขาแทน
“มีแฟนน่ารักแบบนี้ใครจะดื้อลงครับ วันนี้อยากกินอะไรพี่ตามใจหนึ่งวัน” เขาจับมือเธอขึ้นมาหอมอยู่หลายครั้ง
“ปกติก็ตามใจตลอดไม่ใช่เหรอคะ” เธอหัวเราะบ้างกับคำพูดที่เหมือนวันนี้จะพิเศษกว่าทุกวัน แต่กลับไม่ใช่เช่นนั้นเพราะเขาตามใจเธอตลอดไม่ว่าเมื่อไหร่ จึงทำให้เธอและเขาไม่มีเรื่องให้ชวนทะเลาะ
“แต่วันนี้พิเศษไงครับ พี่ตามจายยยยยยยย” เขาลากเสียงยาว ยิ่งทำให้อริณหัวเราะขำออกมา “ช่วงนี้พี่อาจไม่ได้เจอกับริณบ่อย พี่กลัวริณจะน้อยใจ”
“น้อยใจเรื่องอะไรคะ พี่ก็โทรหาริณทุกวัน เหนื่อยกับงานก็มากพอแล้ว ริณไม่อยากทำให้พี่ต้องมาเหนื่อยกับริณเพิ่มหรอกค่ะ”
“แฟนพี่ทำไมดีแบบนี้” เขาทำหน้าอ้อนก่อนสวมกอดเธอ “พี่รักริณมากนะครับ พี่จะหาแฟนดี ๆ จากที่ไหนได้อีกไม่มีแล้ว”
“ริณก็รักพี่มากเหมือนกัน เราไปกันเถอะค่ะ วันนี้ริณมีที่อยากไปพอดีเลยค่ะ” เธอและเขาผละออกห่างจากกัน ก่อนที่สองจะพาเธอมายังร้านอาหารที่เธอเลือก
ร้านอาหารติดแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศยามค่ำดูน่ามองพร้อมทั้งลมเย็น ๆ ที่พัดมาเรื่อย ๆ อริณเลือกโต๊ะนั่งด้านนอกเพราะอยากชมบรรยากาศของแม่น้ำ ซึ่งแฟนหนุ่มเองก็ตามใจเช่นเดิม
“พี่ไม่ได้กลับห้องบ่อย แล้วคืนนี้พี่จะนอนที่ไหนเหรอคะ ที่ห้องมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดไหมคะ”
“คืนนี้พี่ว่าจะนอนโรงแรม พรุ่งนี้จะให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาด พี่มีเสื้อผ้าอีกสองกระเป๋าใหญ่ที่ยังไม่ได้ซัก ว่าจะส่งซักพรุ่งนี้ด้วยเหมือนกัน วันนี้ว่าจะทำแต่เหนื่อยเกินไป ถ้าพี่ทำทั้งหมดนี้ก็ต้องเลื่อนวันมาเจอหน้าริณอีก รอไม่ไหว” เขาทำเสียงอ้อนอีกครั้ง
“ให้ริณช่วยไหมคะ ถ้าพี่ไปทำงานต่างจังหวัดเดี๋ยวริณจะให้คนไปทำความสะอาดห้องรอเอาไว้ให้”
“ก็ดีนะ เดี๋ยวพี่เอาคีย์การ์ดห้องให้แล้วกัน แล้วริณได้กลับบ้านบ้างไหม”
“ไม่ได้กลับเลยค่ะช่วงนี้ แต่แม่กับพ่อก็มาเยี่ยมสองอาทิตย์ครั้ง ไม่ก็พี่สาวมาค่ะ”
“พี่ก็อยากกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ริณเหมือนกัน แต่พี่ติดงานต่างจังหวัดตลอดเลย เอาไว้พี่เคลียร์งานเสร็จเรากลับบ้านริณกันนะ” สองยิ้มกว้าง
เขาไม่ได้อยากให้ตัวเองยุ่งแบบนี้แต่ทำเช่นไรได้ เมื่อต้องรับผิดชอบโครงการก่อสร้าง เขาที่เป็นวิศวกรที่รับผิดชอบโครงการก็ต้องออกเดินสายดูงานที่ตัวเองทำ ช่วงนี้เขาต้องเดินสายไปต่างจังหวัดอยู่หลายที่เพื่อตรวจดูงาน
“เราว่างค่อยกลับก็ได้ค่ะ ว่าแต่เพื่อนพี่ย้ายมาอยู่ด้วยกันหรือยังคะ ถ้าริณไปทำความสะอาดห้องให้จะรบกวนหรือเปล่า”
“มันไม่มาแล้ว พอดีมันหาห้องใกล้ ๆ ที่ทำงานได้แล้ว ถ้ามันมาพี่คงไม่ต้องลำบากหาคนไปทำความสะอาดห้อง ฝากมันดูห้องก็ได้แล้ว”
“เรื่องห้องเดี๋ยวริณจัดการให้ไม่ต้องห่วง ส่วนเสื้อผ้าครั้งหน้าพี่ก็ให้ริณจัดการให้แล้วกัน เดี๋ยวริณส่งซักให้ไปรับให้ พี่แค่มีหน้าที่ไปทำงานก็พอแล้ว”
“พี่โชคดีจัง มีแฟนทำให้ทุกอย่างเลย แต่พี่กลัวริณเหนื่อย ห้องพี่กับห้องริณไม่ใช่ใกล้ ๆ ยังไงพี่ก็ขอบใจนะ” สองกุมมือของอริณขึ้นมาอย่างรักใคร่
“พี่ไม่ต้องเกรงใจแฟนก็ได้ค่ะ ยังไงริณก็เต็มใจช่วยเหลือพี่ทุกอย่าง”
“แป๊บหนึ่งนะ” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะขอตัวออกไปรับโทรศัพท์สายสำคัญ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอมองเห็นสีหน้าของแฟนหนุ่มดูไม่ร่าเริง
“พี่ต้องไปต่างจังหวัดต่อพรุ่งนี้ คงต้องกลับไปนอนที่ห้องเพราะต้องออกเดินทางแต่เช้า”
“งั้นเสื้อผ้าเอาให้ริณไว้ดีไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้ริณไปส่งซักที่ร้านประจำริณเอง” เธอขันอาสาเมื่อเห็นความเหนื่อยล้าของแฟน
“โอเคครับ พี่ฝากริณด้วยนะครับ”
เมื่อได้บทสรุปของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองจึงทานอาหารแล้วพูดคุยสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ในระหว่างที่ห่างกันนานหลายวัน บรรยากาศรอบตัวของชายหญิงทั้งสองนั้นอบอวลไปด้วยความสุข
มื้ออาหารค่ำผ่านไปอย่างเรียบง่าย อริณไม่รอช้ารีบให้สองพากลับห้องพักในทันที เมื่อรถจอดนิ่งใต้ตึกคอนโดของเธอ เขาก็รีบเดินลงมาจากรถเพื่อเปิดท้ายรถยนต์นำเอาเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักส่งให้กับแฟนสาว
“ไม่ให้พี่ไปส่งบนห้องจริง ๆ เหรอ ท่าจะหนักเหมือนกันนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ริณถือไหว พี่รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ เดินทางปลอดภัยนะคะ ถึงแล้วโทรหาริณด้วยนะ” เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มของสองด้วยความรัก ก่อนที่เขาจะสวมกอดเธอพร้อมหอมแก้มเธอเช่นเดียวกัน
“พี่ขอโทษนะ ที่เวลาให้ริณมีน้อย แต่พี่จะชดเชยให้วันอื่น เอานี่คีย์การ์ดห้อง พี่อาจกลับไปแล้วเก็บเสื้อผ้าออกเดินทางเลยก็ยังไม่แน่ใจ” เสียงถอนหายใจทำให้อริณยิ้มหวานส่งเป็นกำลังใจ
“อย่าโหมงานหนักมากนะคะ พักผ่อนบ้างริณเป็นห่วง”
“ไม่อยากไปเลย” เขาสวมกอดเธออีกครั้ง ก่อนที่จะตัดใจปล่อยให้อริณเป็นอิสระ “เอาไว้พี่โทรหานะครับ”
“ค่ะ” เธอยิ้มส่งเขา ก่อนที่รถยนต์ของแฟนหนุ่มจะวิ่งห่างออกไป
หญิงสาวหอบเอากระเป๋าสีดำทั้งสองใบขึ้นมาบนห้องด้วยความยากลำบาก เพราะเธอตัวเล็กกระเป๋าจึงดูใหญ่เท่าตัว ยิ่งเป็นกระเป๋าสองใบยิ่งทำให้ร่างบางแบกรับน้ำหนักมากกว่าเป็นสองเท่า
สุดท้ายก็นำพากระเป๋าทั้งสองใบเข้ามาในห้องได้ คอนโดขนาดกลางที่ไม่ใหญ่และเล็กจนเกินไปของอริณอยู่ไม่ห่างจากร้านที่ทำงานมากนัก ขับรถไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงร้านคาเฟ่หน้ามหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง คอนโดนี้เธอซื้อด้วยเงินผ่อน ที่ยังผ่อนไม่หมดเหลืออีกครึ่งทางเพราะผ่อนตามกำลังที่มีมาสามปีแล้ว
อริณยืนปาดเหงื่ออยู่ไม่นานเธอก็รีบรื้อกระเป๋าเสื้อผ้าของแฟนหนุ่มทันที เพราะเธอต้องการแยกและตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า ว่ามีของสำคัญอะไรทิ้งเอาไว้หรือไม่ เมื่อตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงพับเก็บกระเป๋าเพราะเธอโยนเสื้อผ้าของเขาลงตะกร้าใบใหญ่ของตัวเองไปแล้ว
“อ้าว” เธอหยิบของสีดำที่ตกลงพื้นขึ้นมาเปิดดู เป็นกระเป๋าเงินที่แฟนหนุ่มคงลืมทิ้งเอาไว้
เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเขา แต่ปลายสายกลับไม่มีสัญญาณตอบกลับ อริณชั่งใจอยู่นานว่าจะเอาของสำคัญของสองไปให้ที่ห้องดีหรือไม่ สุดท้ายก็ต้องเดินทางไปที่ห้องพักของแฟน
ไม่ว่าไปแล้วจะเจอเขาหรือไม่เธอก็ต้องเสี่ยง เพราะของสิ่งนี้สำคัญกับเขาเป็นอย่างมาก ยิ่งต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัด ยิ่งขาดของสำคัญเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ รวมถึงบัตรเครดิตอีกหลายใบ ที่เธอเห็นเขาใช้เป็นประจำในระหว่างคบหากัน
ปีนี่เข้าปีที่สี่แล้ว ที่เขาและเธอคบหากันอย่างเปิดเผยต่อครอบครัวทั้งสองฝ่าย ทุกอย่างดูเรียบง่ายและมีความสุข ต่างจากคู่รักคนอื่น ๆ ที่พออยู่ห่างไกลกันก็ต้องทะเลาะกัน แต่เขาทำให้เธอไว้วางใจในทุกเรื่องและยังทำตัวสม่ำเสมออยู่ตลอด
ทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะสองต้องทำงานอีกที่เดินทางไม่สะดวก จึงมีเหตุให้แยกกันอยู่แต่ทุกวันหยุดพวกเขาจะใช้เวลาอยู่ร่วมกันตลอด เขาเป็นสุภาพบุรุษสำหรับเธอ ไม่เคยล่วงเกินและไม่เคยเอาเปรียบไม่ว่าเรื่องใด สมกับคำมั่นสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับครอบครัวของอริณ ว่าจะรักและทะนุถนอมเธอทุกวินาทีตราบสิ้นลมหายใจ
