บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 จบแค่ตรงนี้

“มองผมทำไม?”

“ก็ทุกทีไม่เห็นเป็นแบบนี้ แล้ววันนี้เป็นอะไร?”

“ไม่รู้จริง ๆ เหรอ?” เขาเหยียบเบรกรถทันที ทำให้อริณหัวทิ่มไปข้างหน้า “ถามจริงเถอะ...พี่แม่ง...โง่ หรือซื่อกันแน่”

“ไม่ได้โง่สักหน่อย ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าวันนี้เป็นอะไร ปกติก็เห็นนายยิ้มอารมณ์ดีตลอดที่มารับพี่กลับบ้าน” อริณย่นจมูกใส่เขาเหมือนกับทุกครั้ง ที่พอคินต์อารมณ์ไม่ดีเธอก็จะทำแบบนี้ใส่เขา

“จะยิ้มได้ไง ก็...ถามจริงเถอะ พี่ไม่รู้เหรอว่าผมคิดกับพี่ยังไง” คินต์รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้า

“ก็ไม่รู้ไงถึงได้ถาม”

“ผมชอบพี่ ถ้าผมไม่ชอบ ผมจะทำแบบนี้เหรอ มารับมาส่งพี่ ผู้ชายคนไหนมันจะบ้าทำแบบนี้กัน” เขาสารภาพความในใจของตัวเอง

“เดี๋ยว ๆ แน่ใจเหรอว่าชอบพี่ ไม่ใช่เพราะเราสนิทกันเหรอ ลองคิดดูดี ๆ ก่อนไหม บางทีคินต์อาจไม่ได้ชอบพี่แบบนั้นก็ได้นะ” เธอยังคงคิดว่าคินต์มองตัวเองเหมือนพี่สาว

“เลิกพูดแบบนี้สักที จะให้ผมพูดอีกกี่รอบพี่ก็อ้างแค่คำว่าพี่น้อง ผมโตแล้วนะรู้ว่าความรักชายหญิงเป็นยังไง ผมไม่ได้เห็นพี่เป็นพี่สาว ผมเห็นเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น และเป็นผู้หญิงที่ผมชอบมาก ๆ ด้วย”

“......” อริณนิ่งเงียบ น้ำเสียงของคินต์นั้นดูจริงจัง “แต่พี่มีแฟนแล้วนะ พี่ไม่ได้ชอบคินต์ พี่เห็นคินต์เป็นแค่น้องชายมาตลอด และไม่มีทางที่พี่จะชอบคินต์ด้วย”

คำปฏิเสธของเธอเหมือนกับมีดที่กรีดลงกลางใจของเด็กหนุ่ม เขาพยักหน้ารับรู้ถึงความเป็นจริงและความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขา บางครั้งความจริงนี้เขาอาจเปิดใจยอมรับมันได้แล้ว

“......” คินต์หันมาตั้งใจขับรถกลับบ้านอีกครั้ง ตลอดทางเต็มไปด้วยความเงียบ ก่อนที่รถจะจอดนิ่งหน้าบ้านของอริณ

“คินต์...พี่คิดว่า...ต่อไปนี้ เราไม่ต้องมาเจอกันอีกแล้วก็ได้ เราควรเว้นระยะห่าง พี่เชื่อว่าสักวันคินต์จะเจอคนที่คินต์รัก ส่วนพี่...พี่รักคินต์เหมือนน้องชายจริง ๆ นะ”

“พี่จะบอกผมว่า...ไม่อยากเจอหน้าผมแล้วสินะ ก็ได้...ผมยอมรับการตัดสินใจของพี่” มือของเขากำพวงมาลัยรถแน่นมากยิ่งขึ้น

“พี่ขอโทษนะ” เธอกล่าวเสียงเบาก่อนเปิดประตูรถยนต์เดินลงจากรถ

เด็กหนุ่มยังคงมองแผ่นหลังที่คุ้นเคยเดินหายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่เขาเองจะเริ่มขับไปที่บ้านข้างเคียงก่อนเลี้ยวจอดรถในโรงจอดรถของที่บ้าน หากแต่เมื่อรถจอดสนิทเขากลับนั่งอยู่ด้านในรถไม่ยอมลงจากรถ

“รถลูกขับมาจอดแล้วนะ ทำไมรถยังไม่ดับเครื่องพี่ไปดูลูกหน่อย” คนเป็นแม่สุดแสนจะเป็นห่วง จึงตะโกนออกมาจากห้องครัวที่อยู่ใกล้ ๆ กับโรงจอดรถให้สามีเดินไปดูบุตรชาย

“ลูกก็คงอุ่นเครื่องยนต์นั่นแหละ” เขาตะโกนตอบกลับภรรยา แต่สุดท้ายก็ต้องเดินออกมาดูลูกที่นั่งอยู่ภายในรถ

คินต์ก้มหน้าร้องไห้ไปกับพวงมาลัย เขาไม่รู้จะพูดคำใดเมื่อได้มองเห็นสีหน้าและรับรู้ความรู้สึกของผู้หญิงที่หลงรักมาตั้งนานแสนนาน ไม่นานเสียงเคาะกระจกก็ดังขึ้น เขารีบเช็ดน้ำตาทันทีก่อนจะดับเครื่องยนต์

“เป็นอะไร ไม่เห็นเข้าบ้านสักที” สุทิน มองบุตรชายด้วยความเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้น?”

“ผมอกหักแล้วป๊า” เขากล่าวก่อนจะสวมกอดพ่อร้องไห้ยกใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เขาร้องไห้หนักแบบนี้ แต่พ่อกลับไม่ถามอะไรต่อได้แต่กอดปลอบใจลูบหลังของเขาเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ

“ไม่เป็นไร เวลาจะทำให้มึงดีขึ้นไอ้ลูกชายป๊า” เขาก็คิดเอาไว้แล้ว ว่า...ความรักของคินต์อาจจะไม่สมหวัง เพราะอริณไม่เคยมองคินต์เปลี่ยนไปจากน้องชายที่สนิทกันมาตั้งแต่เล็ก

“ป๊า...ผมจะสู้หน้าพี่ริณได้อีกไหม พี่เขาบอกว่าไม่อยากเจอหน้าผมอีกแล้ว” เขาเช็ดน้ำตาแล้วผละออกห่างจากพ่อ

“เคลียร์กันจบแล้วไม่ใช่เหรอ ก็เจอกันในฐานะพี่น้องไง ป๊าว่า...ริณทำถูกแล้วนะ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ดีกว่าให้มึงคิดไปเองอยู่แบบนี้ หาคนที่เขารักเราดีกว่า รีบเข้าบ้านม๊าเป็นห่วงเร็วเข้า”

“ครับ” คินต์เดินตามหลังของพ่อเข้ามาในบ้าน เขาตรงขึ้นห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาทานข้าวพร้อมหน้ากับครอบครัว

“ถึงจะอกหัก ก็ต้องกินข้าวนะลูก” ช่อแก้วยิ้มหวานก่อนจะตักอาหารใส่จานให้กับเขา

“ป๊าบอกม๊าหมดแล้วเหรอ” เขาหันไปทางพ่อที่กำลังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ผมอกหักแล้วทำไมต้องอดข้าวด้วย” เขาตักอาหารเข้าปากอย่างอร่อยเหมือนไม่มีเรื่องทุกข์ใจเกิดขึ้น

“ป๊าจะมีเรื่องปิดบังม๊าได้ไง โดยเฉพาะเรื่องลูก เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาสิจ้ะ” เธอยิ้มหวานอีกครั้งให้กับสองพ่อลูก “อกหักมันก็แค่เรื่องเล็ก ๆ พรุ่งนี้ก็หายแล้ว นอนพักสักคืน”

“ม๊าเห็นผมเป็นเด็กอมมือหรือไงครับ ผมรู้ว่าควรจัดการตัวเองยังไงครับ” เขาไม่อยากคิดอะไรมาก มันเจ็บ แต่ก็ดีที่อริณบอกความรู้สึกตัวเอง เขาก็ไม่อยากฝืนใจใคร อย่างน้อย ๆ เขาก็ได้บอกความในใจให้เธอได้รับรู้

“ฉันบอกแล้วว่าลูกเราเก่งแค่ไหน พี่ก็เอาแต่ห่วงลูก” เธอหันไปคุยกับสามี

“มันก็ทำเป็นเก่งไปงั้นแหละ พอขึ้นไปบนห้องก็ไปนอนร้องไห้ มีอะไรก็บอกป๊ากับม๊านะ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว” เขารู้ว่านี่คือความรักของลูกชายที่เป็นทั้งรักครั้งแรกทั้งยังเป็นความรักที่ยาวนานและบริสุทธิ์

“ผมไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ นะครับ ป๊ากับม๊าไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมรู้ว่าต้องทำยังไง” เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะทานอาหารตรงหน้าเงียบ ๆ

ความเศร้าในใจมันไม่ได้เบาบางลง กระทั่งความรักและความเจ็บปวดเองก็เช่นเดียวกัน เขารักเธอแบบไหนในวันนี้ก็ยังเชื่อว่าจะรักเธอแบบนั้นไปได้อีกในอนาคต

อริณนั่งอยู่ห้องรับแขกพร้อมกับคนในครอบครัว ไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็เดินขึ้นห้องไปนอนเพราะเวลาล่วงเลยมาเกือบสามทุ่มแล้ว มีเพียงพี่สาวที่กำลังนั่งดูละครหลังข่าว พร้อมทั้งยังมีขนมขบเคี้ยวที่ชอบวางอยู่หน้าตัก

“เป็นอะไรเหรอ ปกติคินต์จะมากินข้าวเย็นด้วย ทะเลาะกันเหรอ” ไม่บ่อยนักที่ทั้งสองคนจะทะเลาะกัน

“ไม่มีอะไร ไม่ได้ทะเลาะกัน” เธอปฏิเสธทันที ก่อนหันมองไปทางพี่สาวที่จ้องมาทางเธออย่างจับผิด “อะไร?”

“อ้าปากก็เห็นความจริงแล้วไหม? ช่างเถอะไม่อยากพูดก็ต้องไม่ต้องพูด ยังไงก็โต ๆ กันแล้ว มีอะไรก็คุยกันเถอะอย่าปล่อยเอาไว้นาน”

“ครั้งนี้ไม่ได้ทะเลาะกันจริง ๆ นะ ก็แค่...” เธอคิดถึงสีหน้าและคำพูดของคินต์ในทันที

“มันบอกรักแกหรือไง ถึงได้ทำสีหน้าแบบนั้น” อรัณเอ่ยเล่น ๆ แต่คนตรงหน้ากับทำขนมหลุดมือ “แค่นี้ก็เดาได้แล้วไหม”

“พี่รู้ได้ไง?”

“มีใครจะไม่รู้ว่าไอ้คินต์มันชอบแก ตามตูดต้อย ๆ แบบนั้นมีใครจะมองไม่ออก ตาบอดกันแล้วไหมหรือว่าแกมองไม่ออก?” เธอหันมามองน้องสาว “เชื่อเลย! จะบอกว่าโง่ดีไหมนะ”

“พี่ก็พูดแบบนี้อีกคนเหมือนกันเหรอ ฉันไม่ได้โง่สักหน่อย คนไม่ได้คิดอะไรจะไปคิดว่าคนอื่นชอบได้ไง” เธอพูดตามความเป็นจริง

“ก็ใช่แหละ ไม่เข้าข้างตัวเองก็ดี แล้วเอาไงต่อดีล่ะ จะคบหรือว่าไม่คบล่ะ”

“คบได้ไง ก็...ฉันมีแฟนแล้ว” เธอตอบเสียงเบาก่อนที่พี่สาวจะนั่งตัวตรงแล้วหันหน้ามายิ้ม

“มีแฟนแล้วเหรอ หล่อไหม คนที่ไหน แล้วคินต์ว่าไงบ้าง อย่าบอกนะว่านี่คือสาเหตุที่ทะเลาะกัน” อรัณคาดเดาไม่ผิดเมื่ออริณพยักหน้า

“เดี๋ยวจะพามาให้รู้จัก แต่จะบอกกับพ่อก่อน ขอคบนานกว่านี้หน่อย แต่รับรองว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน พี่เก็บไว้เป็นความลับให้ริณหน่อยนะ”

“ก็ได้ แต่อย่าให้เกินเลยนะ รู้ใช่ไหมว่าพ่อกับแม่ไม่ชอบอะไรแบบนั้น”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel