บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“นั่นมันเรื่องของแก แต่ฉันได้บอกให้พาขวัญมาอยู่ที่นี่และช่วยทำงานที่บริษัทแล้ว แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน!”

“ฮึ! ที่แท้พ่อทำดีกับผู้หญิงคนนี้เพราะวังจะเอาเป็นเมียแต่แรกอยู่แล้ว...อย่างน้อยพ่อก็ควรคิดถึงคุณแม่ที่เสียไปบ้าง!”

จิรัฎฐ์หมดความอดทนกับบิดาที่ทำแบบนี้ เขากัดฟันกรามจนแน่น สายตาคมมองไปยังบิดาด้วยความโกรธแค้น

“เพลิง! แกอย่ามาพูดจาแบบนี้กับฉันนะ!” หม่อมหลวงณรงค์ฤทธิ์มองบุตรชายด้วยความขุ่นเคืองที่พูดจาสามหาวกับเขาแบบนี้

“ผมพูดความจริง พ่อถึงกับโกรธรับฟังไม่ได้เลยหรือครับ”

ชายหนุ่มแสยะยิ้มให้กับผู้เป็นบิดา เขาหมดศรัทธาชายตรงหน้าไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่เอาผู้หญิงคนนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้มารดาต้องจากไปก่อนกะทันหัน และนี่ยังจะให้มาอยู่ในบ้านอีก!

“เพลิง! มันจะมากไปแล้วนะ!” ผู้เป็นบิดาตวาดเสียงดังด้วยความโมโหพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ ส่งสายตามองบุตรชายด้วยความไม่พอใจ

“ไม่หรอกครับ เพราะคุณพ่อทำกับคุณแม่ไว้มากกว่านี้ มากจนกว่าที่ผมจะอภัยให้ได้!” จิรัฎฐ์มองบิดาด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผู้เป็นบิดาอยู่เพียงลำพังอีกครั้งหนึ่ง

หม่อมหลวงณรงค์ฤทธิ์แทบล้มทั้งยืน เป็นเพราะเขาที่ไม่กล้าพูดความลับที่ปิดมานาน ครั้นจะพูดกับภรรยาก็ดันเข้าใจเขาผิดจนเป็นเหตุทำให้ต้องหัวใจวายเฉียบพลันเสียชีวิต

เสียงผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนัก ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้เหมือนเดิมด้วยความอ่อนล้า งานยังไม่ทำให้เขาเหนื่อยถึงขนาดนี้เลย...

 

จิรัฎฐ์เดินออกมาจากห้องทำงานของบิดาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว สองเท้าก้าวเดินตรงขึ้นบันไดไปพลางชำเลืองสายตามองห้องทางด้านขวามือที่กำลังถูกยกเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่เข้าไป มือแกร่งกำหมัดแน่นด้วยความโมโหที่ตนเองนั้นทำอะไรไม่ได้ ได้แค่มองบิดายกเชิดชูผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมียใช่ไหม! ไม่มีทาง เขาไม่มีวันให้ใครมาแทนที่มารดาอย่างเด็ดขาด!

ชายหนุ่มปรายตามองด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะเดินไปอีกทางเข้าไปในห้องของเขาทั้งที่ใจนั้นเต็มไปด้วยไฟแค้นยากที่จะดับลง

ปึ้ง!

กำปั้นหนักทุบเข้าที่กำแพงข้างประตูอย่างแรง เสียงผ่อนลมหายใจระบายความโกรธดังขึ้นออกมาเป็นระยะๆ จิรัฎฐ์หมุนกายพิงกับกำแพงพร้อมยกมือขึ้นลูบใบหน้าของเขาด้วยความอ่อนล้า ความสุขในครอบครัวของเขาหายไปตั้งแต่พาขวัญก้าวเข้ามา… เธอมันผู้หญิงที่หวังจะรวยทางลัดจริงๆ เขาจะไม่ปล่อยให้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขแน่นอน

“พาขวัญ อย่าหวังว่าเธอจะได้พบความสุข ในเมื่อเธอเลือกที่จะก้าวเข้ามาในหลุมนรกนี้เอง” ชายหนุ่มแสยะยิ้มออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน มือแกร่งเอื้อมไปหยิบกรอบรูปที่ใส่รูปถ่ายครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกขึ้นมา ในความสุขครั้งอดีตที่มีมาตอนนี้ได้หายไปไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว

เขาวางกรอบรูปลงที่เดิมพร้อมกับเดินตรงเข้าไปที่ห้องน้ำ

สายน้ำจากฝักบัวไหลลงสู่ร่างแกร่งกำยำผิวสีขาวอมเหลือง มือของเขาลูบไปตามไหล่ราวกับว่าให้สายน้ำนั้นพัดความเจ็บปวดและความแค้นออกจากใจไปด้วย ทว่าก็แค่ความฝันที่ไม่สามารถทำได้ ในเมื่อหัวใจถูกหลอมจากความโกรธจนกลายเป็นความเกลียดชัง

 จิรัฎฐ์เงยหน้าขึ้นให้รับกับน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัว มือของเขายกขึ้นลูบก่อนจะใช้มืออีกข้างเอื้อมไปปิดน้ำที่ฝักบัว กำปั้นแกร่งทุบกับผนังกำแพงอีกครั้งยิ่งคิดยิ่งโกรธ ยิ่งคิดยิ่งเกลียด...

 

ภายในห้องสี่เหลี่ยม แสงไฟสว่างจากกลางห้องขนาดเล็กที่มีเพียงเตียงนอนไม้เก่าๆ สำหรับนอนคนเดียวและเฟอร์นิเจอร์เก่าราคาถูกอีกห้าชิ้นถูกจัดวางเป็นระเบียบดูสะอาดตา

หน้าต่างบานเล็กถูกเปิดอ้าเพียงเล็กน้อยให้ลมพัดเข้าถ่ายเทได้สะดวก หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยเดินไปเดินมาเก็บของที่ต้องเตรียมย้ายออกในวันพรุ่งนี้ โต๊ะเขียนหนังสือโล่งสะอาดตาเพราะว่าหนังสือทั้งหมดของเธอได้ถูกส่งต่อให้รุ่นน้องที่เรียนต่อไปแล้ว

หลังจากที่เก็บกองหนังสือทั้งหมดใส่ในกล่องลังเรียบร้อยแล้ว พาขวัญเดินมาเก็บของในตู้เสื้อผ้าออกให้หมด ถึงแม้ว่าจะมีเวลาเหลือในการเตรียมเก็บของอีกครึ่งวัน แต่ทว่าก็ไม่อยากจะมาเหนื่อยในตอนเช้าอีกครั้งหนึ่ง

หนังสือและเสื้อผ้าถูกจัดเก็บเรียบร้อย ทีนี้ก็เหลือเพียงของเล็กน้อยๆ ที่วางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะหนังสือและตู้ข้างหัวเตียง กระเป๋าใบขนาดกลางอีกใบถูกหยิบออกมาเพื่อใส่ของพวกนี้แยกขึ้นโดยเฉพาะ หญิงสาวเดินไปที่ลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือแล้วเปิดออกอย่างช้าๆ

กรอบรูปสีน้ำตาลขนาดกลางถูกคว่ำอยู่ มือเรียวเอื้อมไปหยิบขึ้นมาพร้อมกับหงายดู ความทรงจำมากมายที่แทรกเข้ามาในสมองของเธอ รูปถ่ายมารดาขึ้นมาเป็นรูปสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ส่วนบิดาของเธอนั้นไม่เคยแม้แต่ที่จะเห็นหน้าด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ว่าเป็นใคร ไม่ว่าจะถามแม่ของเธอกี่ครั้งก็ไม่เคยที่จะปริปากพูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“แม่คะ จีนเรียนจบแล้วนะคะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพลางจับกรอบรูปแนบไว้ที่หน้าอกของเธอ

“จีนรักแม่ค่ะ”

เป็นคำบอกรักที่ส่งถึงคนบนฟากฟ้าแสนไกล ไม่ว่านานเพียงไหนเธอก็ยังคงรักและเคารพไม่เคยเปลี่ยน

พาขวัญเอื้อมมือไปวางกรอบรูปในกระเป๋าของเธอ พร้อมกับก้มลงเก็บของของในลิ้นชักต่อให้เสร็จ

เวลาล่วงเลยจนเกือบห้าทุ่มนานกว่าที่เธอจะจัดของทั้งหมดแพ็คใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย หญิงสาวยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าพลางถอนหายใจออกมาก่อนจะนั่งลงที่ปลายเตียงด้วยความล้า เธอลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเตียงเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำและเข้านอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel