บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 คุณแม่ผัว

ชายหนุ่มกลับมาที่ห้องนอน เขาล้มตัวลงไปนอนเหยียดยาว ทว่ากลับมีใบหน้าหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวสมองของเขา

ใบหน้าเรียบเฉยที่เลื่อนลอยเด่น ปากของเธอขยับขึ้นขยับลง กับดวงตาที่มองเขาอย่างจ้องเขม็ง คีรยา

‘บ้าแทนที่จะคิดถึงปัน แต่กลับมาคิดถึงนางคนนี้ จะบ้าตาย’ เขาตบหน้าของตัวเอง ไพรภูมิพยายามสลัดเอาคีรยาออกไปจากสมอง

‘แม่คงจะไม่ไปขอร้องยายนั้นหรอกนะ’

ไพรภูมิคิดแบบนี้ ลึก ๆ แล้ว เขาต้องการคีรยามาเป็นแม่ของลูกเขาหรือเปล่า เธอที่คอยวนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวเขากับปันฐิตามาตลอดตั้งแต่คบหากัน จนแต่งงาน แต่งงานแล้วก็ยังวนเวียนอยู่ไม่ยอมไปไหน

‘ไปให้พ้น ไปจากหัวของฉันเสียที’

ไพรภูมินอนไม่หลับ เขาจึงเลือกลงมานั่งดื่มเบียร์ที่ซื้อมาจนหมด ก่อนจะหลับลงไปที่ห้องรับแขก โดยไม่ขึ้นไปนอนที่ห้อง

สายของอีกวัน คุณนายชวนชมโทรหาลูกสะใภ้ ปันฐิตาเมื่อเห็นสายของคุณแม่ของสามี เธอก็ถอนหายใจดังเฮือก คิดสงสัยอยู่ในใจว่าจะต้องเป็นเรื่องเมื่อคืน ที่ไพรภูมิคุยกับเธอ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอน

ปันฐิตานั้นเธอรู้สึกสะท้อนในหัวอก แม่สามีที่เคยรักเคยเอ็นดู แต่หลังจากที่นางรู้ว่าปันฐิตามีลูกให้กับเขาไม่ได้ แม่สามีที่เคยน่ารักก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เธอจึงเดินเลี่ยงไปที่ทางหนีไฟ ก่อนเปิดประตูเข้าไป แล้วกดรับสาย

“สวัสดีค่ะคุณแม่”

(“แหม... กว่าจะรับได้นะ นานโข”) ทันทีที่ปันฐิตารับสายท่านก็สอดขึ้นเช่นกัน

“พอดีว่า ปันติดงานอยู่นะคะ”

(“หึ... เธอนี่ก็มีข้อดีอยู่อย่างนะ ที่ยังคิดทำมาหากินช่วยผัว ไม่ได้งอมืองอตีนซะทีเดียว”)

ปันฐิตาคิดว่านางไม่ได้ชม แค่กระแนะกระแหนเธอเท่านั้น

“คุณแม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับปันหรือคะ” เมื่อถูกว่าอย่างนี้ ปันฐิตาก็รีบเปลี่ยนน้ำเสียง เธอชักสีหน้าขึ้นมาในทันที

ปันฐิตาจ้องมองตัวเองในกระจกที่อยู่ตรงนั้น ภาพสะท้อนใบหน้าของเธอที่หมดความสุข ความสุขกับคำว่าครอบครัวมันได้จางหายไป

(“ไม่รู้ว่าผัวของเธอได้บอกอะไรกับเธอบ้างหรือยัง”) คุณนายชวนชมเข้าเรื่องทันที

“ปันกับพี่เชน เราคุยกันหลายเรื่องค่ะคุณแม่ ไม่ทราบเรื่องไหนคะ”

(“นี่เธออย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ”)

“ปันเปล่าเล่นกับคุณแม่ค่ะ แต่ปันคิดว่าคุณแม่มีอะไร ก็คุยกับปันออกมาตรง ๆ ดีกว่าค่ะ ไม่ต้องอ้อมค้อม” ปันฐิตาเตรียมใจ เธอครุ่นคิดเรื่องนี้ทั้งคืน จนแทบจะไม่ได้นอน ปันฐิตานอนน้ำตาไหล เธอเริ่มท้อแท้และสิ้นหวังกับชีวิตคู่

(“ก็ดีที่เธอพูดออกมาแบบนี้ ฉันจะได้พูดแบบสบายอกสบายใจ”)

“เชิญคุณแม่พูดได้เลยค่ะ”

(“คือฉันจะหาผู้หญิงมาอุ้มบุญลูกของเชน”)

“คุณแม่คิดดีแล้วใช่ไหมคะ”

(“ก็ใช่สิ ฉันคิดรอบคอบดีแล้ว ฉันก็หวังแค่ว่า เธอจะไม่มีปัญหาอะไร”)

“หึ-หึ ปันจะกล้ามีปัญหาอะไรกับคุณแม่ล่ะคะ ปันไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ปันก็ได้บอกพี่เชนไปแล้ว เชิญตามสบาย ทั้งคุณแม่ และก็พี่เชน อยากทำอะไรก็เชิญค่ะ ปันจะไม่เข้าไปก้าวก่ายอย่างเด็ดขาด เอาที่สบายใจกันเลยค่ะ ปันมันก็เป็นแค่หัวเดียวกระเทียมลีบในบ้านหลังนี้ ได้ค่ะ คุณแม่”

(“แต่ลูกคนนี้จะต้องเป็นลูกของเจ้าเชน”)

“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะคุณแม่ ก็ในเมื่อใช้น้ำเชื้อของเขา ก็ต้องเป็นลูกของเขาสิคะ”

(“ได้ยินแบบนี้ฉันก็สบายใจนะ ฉันถือว่าเธอรับปาก และในอนาคตเธอคงจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นนะ”)

“ปัญหาเรื่องอะไรเหรอคะคุณแม่” เริ่มไม่พอใจ เพราะเธอรู้ว่าแม่สามีไม่ธรรมดาคงมีความต้องการที่แปลกประหลาด

(“แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงไง”)

“อ้าว... หนูนึกว่าคุณแม่จะให้ผู้หญิงมาอุ้มท้องลูกของเชน ใส่ชื่อปันเป็นชื่อแม่ของเด็กคนนั้น แล้วก็พี่เชนเป็นพ่อ”

(“โธ่”) คุณนายชวนชมหัวเราะเสียงเย็น

(“แต่เธอก็ไม่ได้อุ้มท้องมานี่นา เธออยากจะเป็นแม่เด็กไปทำไมกัน”)

ได้ยินแบบนี้ปันฐิตาถึงกับหน้าถอดสี แทบจะกรีดร้องออกมา ดวงตาของเธอพราวขึ้น และมีน้ำตาคลอ “ที่พูดแบบนี้ คุณแม่ต้องการอะไรกันแน่คะ คุณแม่อยากจะให้หนูเลิกกับพี่เชนหรือว่ายังไง แม่อยากให้หนูหย่ากับพี่เชนใช่ไหมคะ” หญิงสาวพยายามระงับเสียงที่จะพูดต่อจากนี้ไม่ให้สั่น

(“ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นสักคำ เธอพูดเองนะ”) คุณนายเสียงกร้าว

“แต่ที่คุณแม่พูดมาทั้งหมด มันสื่อหมายความว่าอย่างนั้นค่ะ”

(“แล้วแต่เธอจะคิด แต่ฉันไม่เคยมีเจตนาจะให้เธอหย่ากับเชน”)

ปันฐิตาส่งเสียงหัวเราะแบบหยัน ๆ ลอดเข้าไป “สุดแท้แต่คุณแม่ค่ะ คุณแม่คิดจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ใครจะไปบังคับคุณแม่ได้ล่ะคะ อ้อ... คุณแม่ขา คุณแม่เคยได้ยินสุภาษิตนี้ไหมคะ”

(“สุภาษิตอะไรยะ”)

“วัวใครเข้าคอกคนนั้นค่ะ กรรมที่มีผู้ใดทำไว้ย่อมส่งผลให้แก่ผู้นั้น ดูอย่างพวกวัวที่จะกลับเข้าคอกของมันเอง”

(“นี่ยายปัน แกกำลังด่าฉันหรือ”) คุณแม่เสียงสั่น

“เปล่าค่ะ ปันไม่ได้ด่าคุณแม่ค่ะ ปันไม่ได้ด่าสักคำ”

(“แก... ฉันจะคุยเรื่องนี้กับเจ้าเชน”)

“คุณแม่มีเรื่องอะไรกับปันอีกหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีปันขอตัวค่ะ ปันจะต้องทำงาน” เธอไม่รอฟังคำตอบของคุณนายชวนชมแล้ว ปันฐิตากดวางสาย แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลริน ความเจ็บปวดที่เธอได้รับมันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เพียงเพราะเธอไม่สามารถมีลูกกับคนที่เธอรักได้ แม่ของเขาต้องทำกับเธอถึงขนาดนี้เลยหรือ

ปันฐิตาทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดไม่ออก ความรักของเธอกับไพรภูมิคงจะถึงทางตันแล้วกระมัง ปันฐิตาได้แต่คิดว่าวกวน เธอต้องคิดทบทวนเรื่องนี้อย่างหนัก หญิงสาวกลับไปทำงานด้วยหัวใจที่กวัดแกว่ง

ความคิดมากมายอยู่ในหัวสมอง ก่อนที่จะได้ส่งข้อความไปถึงเพื่อนรัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel