บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 ความจริงที่จริงที่สุด2

ไพรภูมิถึงกับกัดฟันกรอด จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มหยัน

“โถ ๆ แม่คุณ แม่คีรยา เธอน่ะไม่มีอะไรดีที่จะเทียบกับปันได้แม้แต่น้อย อย่าฝันไปเลย”

คีรยาแสนเจ็บใจ ใช้สองมือของเธอผลักไปที่หน้าอกของเขาสุดแรง ชายหนุ่มจึงจำใจต้องเบี่ยงตัวให้เธอไป คีรยาจงใจกระทืบเท้าลงไปบนหลังเท้าของไพรภูมิ ขอเอาคืน

“โอ๊ะ” เขาร้องออกมาเบา ๆ ด้วยความเจ็บ ไพรภูมิหันหลังกลับไปดูคีรยาที่เดินฉับ ๆ ออกไปจากตรงนั้น ทีแรกไพรภูมิคิดว่าจะตามตอแยและหาเรื่องเธออีก แต่ก็ช่างเถอะ แค่นี้เธอคงจะเจ็บปวดมากพอดูกับคำพูดของเขา

ชายหนุ่มจึงตะโกนตามหลังคีรยาไป

“อย่าไปให้เห็นหน้าอีกนะ และอย่าให้รู้นะว่า เธอแอบไปหาคุณแม่ของฉันอีกก็แล้วกัน”

คีรยากำหมัดจนเจ็บมือ หญิงสาวมีน้ำตาที่คลอ และเริ่มไหลริน เธอพยายามสกัดกลั้นความรู้สึกเจ็บปวด ‘ฉันจะพยายามค่ะ จะไม่ไปเจอพวกเขาอีก’ คีรยาได้แต่คิด

ไพรภูมิยังยืนนิ่งอยู่กับที่ เขากำลังคิดว่า เขาทำดีที่สุดแล้ว การเคลียร์คีรยาให้ออกไปพ้นจากตัวเอง น่าจะดีที่สุด

การเห็นหน้าของเธอครั้งใด เขาก็คิดถึงคืนนั้นไม่เคยลืมเลือน ชายหนุ่มก้มลงไปเก็บเหรียญ แล้วเดินเข้าไปในเซเว่น

ไพรภูมิหาซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วกลับมาที่รถขับเข้าบ้าน

ส่วนคีรยา เธอพยายามเดินให้ช้า ๆ เพื่อจะให้ถึงบ้านช้าที่สุด แต่ในระหว่างเดินเข้าซอย หญิงสาวก็เห็นรถของใครบางคนขับออกมาจากบ้านแล้ว เธอถึงกับถอนหายใจอย่างโล่ง ๆ ก่อนจะรีบก้าวเท้าเร็ว ๆ เพื่อถึงบ้านให้เร็วขึ้น

22.18 น.

คีรยามองที่หน้าจอมือถือ เธอควรจะนอนได้แล้ว วันนี้ง่วงเหลือเกิน

เมื่อไปถึงที่หน้าบ้าน คีรยาเห็นว่ากลอนประตูรั้วถูกล็อกไว้เหมือนเดิม เธอจึงใช้กุญแจไขเข้าไป หญิงสาวมองไปรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกหงอยเหงา ที่นี่มันเป็นที่ซุกหัวนอนเพียงเท่านั้น

‘ฉันต้องหางานทำให้ได้’

‘เฮ้อ... ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นคงจะหางานได้เร็วขึ้น’

‘หรือว่าฉันจะไปทำงานต่างจังหวัดดี’

‘พรุ่งนี้แล้วกัน ค่อยไปท่องโลกในอินเทอร์เน็ต หางานใหม่อีกครั้ง งานอะไรทำก็ได้มั้ง ไปอยู่ยังที่ไกล ๆ’

‘ไปอยู่บ้านนอกสิ ต่างจังหวัด เงินเดือนสักสี่ห้าพันก็คงอยู่ได้หรอก’

‘แต่ว่าหนี้สินของฉันนี่สิ ตั้งสามแสน ฉันจะหาที่ไหนมาใช้ หรือว่าเราจะโกงเขาไปเลย ไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว’

‘ไม่ ไม่ ฉันไม่อยากเป็นหนี้ ไม่อยากโดนแบล็กลิสต์ ไม่อยากอะไรทั้งนั้น’

คีรยาเข้าบ้านไป ตั้งใจอาบน้ำแล้วนอน กว่าจะหลับ หญิงสาวนึกถึงใบหน้าและคำพูดของไพรภูมิ

‘ทำไมเขาช่างใจร้ายกับเธอเหลือเกิน แต่เห็นหน้าเขาทีไร หัวใจของฉันเต้นเร็วมากจริง ๆ’

‘ฉันเกลียดความรู้สึกแบบนี้ ฉันไม่ชอบเลย’

‘คีรยา เธอควรจะเกลียดเขามากกว่านะ’

‘ใช่ควรจะเกลียดเขา เกลียด เกลียด เกลียด’

เมื่อไพรภูมิกลับมาถึงบ้าน เขาก็เห็นรถของปันฐิตาจอดอยู่ที่โรงจอดรถเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้ขึ้นไปที่ห้องนอน ไพรภูมิตั้งใจเอาเบียร์ที่เขาซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อออกมานั่งดื่ม พักนี้เขารับรู้ได้ถึงความห่างเหินของตัวเองและปันฐิตา เขาใช้เครื่องดื่มในการปรับทุกข์เพื่อลืมเรื่องที่หมองใจ

ไหนจะเป็นเรื่องที่แม่ได้พูดคุยกับเขาวันนี้อีก เรื่องการหาผู้หญิงมาอุ้มบุญ ถ้าหากว่าปันฐิตารู้เรื่องเธอคงจะโกรธเขามาก ไพรภูมิดื่มจนเมาได้ที่ เขาจึงกลับขึ้นไปนอน

เมื่อไปถึงที่เตียงนอนเขาก็เห็นว่าภรรยานอนหลับหันหลัง ชายหนุ่มจึงเลือกเดินลงไปนอนใกล้ จากนั้นเขาก็กอดเธอ ไพรภูมิพยายามซุกไซ้ปลายจมูกลงไปที่ซอกคอขาว ๆ ของปันฐิตา สองมือเริ่มล้วงลงไปใต้เสื้อนอนของเธอ ปันฐิตาสะดุ้งตื่น เธอรีบหันมาแว้ดใส่

“พี่เชน พี่จะทำอะไรคะ”

“ปัน พี่ขอ”

“อื้อ... ไม่นะคะพี่เชน ปันง่วง ปันจะนอน”

“ปันจ๋า ปันไม่ยอมนอนกับพี่มาเป็นเดือน ๆ แล้วนะ ทำไมปันเป็นอย่างนี้ ฮึ...” น้ำเสียงเว้าวอน ใบหน้าของเขาก็ยังไม่ละจากลำตัวของเมียรัก

“ทำไมนะเหรอคะ ก็ปันเหนื่อยกับงานไง”

“ปัน พี่ก็บอกแล้วว่าให้ปันไปลาออกจากงานซะ พี่สามารถเลี้ยงดูปันได้”

ปันฐิตาผลักตัวของเขาออกอย่างแรง “อย่าพูดอย่างนี้เลยค่ะพี่เชน ปันนึกว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วเสียอีก ปันอยากมีคุณค่าในตัวเองค่ะ แล้วปันก็อยากให้พี่เห็นคุณค่าของปันด้วย” เธอก็รีบลุกขึ้น ก่อนจะคว้าหมอนของตัวเองลงไปยืนที่ข้างเตียง

“ปัน นั่นปันจะไปไหน”

“ปันจะไปนอนอีกห้องค่ะ เหม็นกลิ่น”

“เหม็นอะไร”

“เหม็นกลิ่นเหล้าไงคะ” พูดด้วยอารมณ์เสีย ปันฐิตารีบเดินออกจากห้องไป พร้อมกับปิดประตูห้องดังโครม

ไพรภูมิลุกขึ้นนั่งแล้วกุมขมับ เขาจะประคับประคองชีวิตคู่แบบนี้ไปได้อีกนานเท่าไร ชายหนุ่มนึกได้ เขารีบลุกขึ้น แล้วเดินตามปันฐิตาออกไปอย่างรวดเร็ว

“ปัน เราสองคนควรจะพูดกันให้รู้เรื่องนะ”

“มีเรื่องอะไรจะคุยกันคะ พี่ดูเวลาหรือเปล่า นี่มันจะเที่ยงคืนแล้ว ปันง่วงมากค่ะ ปันจะนอน แล้วพรุ่งนี้ต้องไปทำงานด้วย”

“ปันของพี่กำลังเปลี่ยนไป”

ปันฐิตาหันขวับมาทันที “ใครกันแน่ที่เปลี่ยนไปค่ะ ก่อนจะว่าคนอื่นพี่เชนหัดมองดูตัวเองด้วย”

“ปัน” แววตาของเขาดูโศก

ทว่าสำหรับปันฐิตานั้น ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหลังจากที่แม่ของเขาเข้ามาก้าวก่ายในชีวิตคู่ของเขาและเธอ หญิงสาวจึงได้แต่มองใบหน้าของสามีตัวเองด้วยแววตาที่เฉยชาว่างเปล่า ทั้งที่หัวใจก็ร้าวรอน

“ปัน พี่มีเรื่องจะคุยกับปัน” ไพรภูมิตัดสินใจพูดขึ้น ไม่ว่าวันใดวันหนึ่ง เขาก็ต้องบอกเรื่องที่แม่ขอร้อง

“เวลานี้นะหรือคะ”

“ใช่”

“เรื่องอะไรว่ามาค่ะ”

“แม่จะหาผู้หญิงมาอุ้มบุญลูกของพี่”

“คุณแม่พี่ อ้อ... นี่แม่ยังไม่หยุดคิดเรื่องนี้อีกหรือคะ”

“แม่อยากมีหลาน คุณแม่อยากอุ้มหลาน”

สายตาของปันฐิตาเจ็บปวด

“ก็เอาสิคะ แล้วแต่พี่ แล้วแต่คุณแม่เลยค่ะ อยากจะทำอะไรก็เชิญ ปันไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมายสำหรับครอบครัวนี้อีกต่อไป เชิญตามสบายเลยค่ะ พี่จะทำอะไรก็เชิญตามสบาย และรีบไปบอกคุณแม่ของพี่ด้วยนะคะว่า อยากจะทำอะไรแล้วมีความสุขก็เชิญทำได้ตามใจ”

ปันฐิตากระทืบเท้าเดินไปอีกห้อง ก่อนจะผลักประตูเข้าไป เธอปิดประตูใส่หน้าเขาดังโครม

ไพรภูมิได้แต่ถอนใจ ชายหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นลูบใบหน้า สักวันมันก็ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่ดี แม่ไม่มีวันยอม ก็ทำตามที่แม่ขอร้องก็แล้วกัน ส่วนเรื่องปันฐิตา เขาต้องใช้เวลาในการปรับความเข้าใจกับเธอ ไพรภูมิได้แต่บอกตัวเองว่าเขารักเธอ และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

ในสักวัน ปันฐิตาจะต้องเข้าใจแม่ของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel