บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ความจริง

“ได้ครับแม่ ผมตามใจแม่เลย แต่ผมขอร้องเรื่องหนึ่ง”

“อะไร”

“ผู้หญิงคนไหนก็ได้ทั้งโลก แต่ต้องไม่ใช่คีรยา”

“อะไรนะ นี่แกจงเกลียดจงชังอะไรแม่หนูแยมนักหนา”

ไพรภูมิถึงกับฝืนน้ำลายเอื๊อก ๆ หรือว่าที่ไพรภูมิเอาความเกลียดโกรธคีรยา เป็นเพราะความรู้สึกอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจที่ตราตรึงใจของเขามันยากที่จะลบเลือนตั้งแต่คืนวันนั้นกันแน่

“ผมแค่บอกความต้องการของผมเท่านั้น ผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่คีรยา”

“อย่าทำตัวเกลียดปลาไหล แต่กินน้ำแกงก็แล้วกัน”

“แม่ครับ ผมขอกลับไปคิดดูก่อน”

“ตามใจ ฉันจะบังคับบังเขแกได้หรือ”

“อีกอย่างผมก็ต้องปรึกษากับปันว่าเธอคิดยังไง และจะเอายังไง ปันจะยอมรับได้หรือเปล่า ผมไม่อยากให้ปันเสียใจ แค่เท่าที่เป็นอยู่ ผมก็รู้ว่าปันหนักใจและไม่มีความสุข”

“ตามใจเรื่องของเมียแก ฉันขอไม่ยุ่ง แต่เรื่องลูกของแก ในฐานะที่เป็นแม่ของแก ฉันก็อยากให้แกมีลูก และได้ทำหน้าที่ของพ่อ”

“แม่ เมื่อก่อนแม่ก็เคยเป็นลูกสะใภ้ ผมอยากให้แม่มีความเห็นใจปัน และให้ความเอ็นดูกับปันสักหน่อย อย่างน้อยปันก็เสียสละมาอยู่กับผม ดูแลผม”

“สุดท้ายแกก็หลอกด่าแม่อยู่ดี”

“คุณแม่ ผมอยากให้คุณแม่เห็นใจก็เท่านั้นเอง”

“พอ ๆ แกจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันเริ่มรู้สึกร้อน” นางหยิบรีโมตขึ้นมาเปิดแอร์ให้เย็นขึ้นกว่าเดิม หันหน้าไปสนใจกับกิจกรรมตรงหน้า หยิบหนังสือสวดมนต์ขึ้นมากาง

“ไปสิ หรือว่าแกจะอยู่สวดมนต์กับแม่”

“ไม่ดีกว่าครับ”

“คงจะร้อนมากสินะ” ไพรภูมิไม่ตอบ เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

เขารีบเดินลงมา ด้วยความไม่สบายอกสบายใจ เขาเจอกับเผ็ดที่ข้างล่าง

“คุณนายนอนแล้วเหรอคะ”

“เปล่า แม่ยังสวดมนต์อยู่”

“ค่ะ”

“นี่เผ็ด”

“ขา”

“นางผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่บ่อยไหม”

“ใครเหรอคะ นางผู้หญิงคนนั้น”

“ที่มาทำอะไรกินกันกับคุณแม่”

“อ๋อ คุณแยม คุณนายเรียกมาประจำค่ะ คุณนายชอบเธอมาก มาทีก็ให้บีบและนวด บางทีก็ให้ทำอาหารให้กิน บอกว่ารสมือของเธออร่อยมาก บางครั้งก็ช่วยกันทำอย่างกับแม่กับลูกค่ะ คุณนายคงอยากจะมีลูกสาว”

“โธ่! หวังจะมาครองหัวใจของแม่ฉันอีกคนหรือว่ายังไง”

“อะไรนะคะคุณเชน”

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”

เผ็ดมองเขาด้วยสีหน้างง ๆ

“วันหลังถ้าแม่ผู้หญิงคนนี้มาอีก ให้เผ็ดรายงานฉันด้วยก็แล้วกัน”

“รายงาน รายงานทำไมคะ” ทำเสียงสูง

“อ๋อ” พอเห็นสีหน้าไม่พอใจของไพรภูมิ เผ็ดถึงกับร้องอ๋อออกมา

“ได้ค่ะ ได้ ส่งให้ทางไลน์นะคะ”

ไพรภูมิเดินหุนหันออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้าและแววตาไม่สบอารมณ์ อารมณ์บ่จอย

เมื่อไปถึงบริเวณบ้านของตัวเอง เขาก็เดินหมุนเตร็ดเตร่อยู่แถวหน้าบ้าน เพื่อรอภรรยา

ไพรภูมิยกนาฬิกาขึ้นมาดูตั้ง ปันฐิตาไปตั้งหลายชั่วโมงแล้ว เขาจึงกดโทรศัพท์หาเธอ แต่ปันฐิตาปิดเครื่อง

ตั้งแต่เกิดเรื่องการผิดหวังเรื่องการทำกิฟต์ ลูกหลุดไปทุกครั้ง ทำให้ทั้งคู่ระหองระแหง ปันฐิตาเองพยายามประคับประคองครอบครัวให้อยู่ไปแบบตลอดรอดฝั่ง แต่ไม่รู้จะทำได้อีกนานสักเท่าไร ช่องว่างและความห่างกันของเขาและปันฐิตามันห่างออกไปเรื่อย ๆ

นั่นก็แม่ นี่ก็เมีย

ไพรภูมิส่งข้อความไปถึงภรรยาอีกครั้ง

(ปันจะกลับบ้านกี่โมง พี่รออยู่นะ)

ที่บ้านพักของคีรยา ในบ้านหลังนั้น

เสียงชายหญิงสองคนกำลังหยอกเย้ากัน ส่งเสียงหัวเราะต่อกระซิกอย่างมีความสุข หลังจากนั้นผ่านไปไม่นาน หญิงสาวคนนั้นก็ได้ครางระงม ผสานผสมกับเสียงของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความกำหนัดกระเส่า หลังบานประตูและฝาผนังห้องนอนนั้น ไม่อาจรู้ได้เลยว่าทั้งสองคนนั้นเป็นใคร

คีรยาซื้อไส้กรอกในเซเว่นออกมานั่งอยู่ที่ด้านหน้าร้านสามสี่ห่อ เธอเริ่มจ่ายแจกให้กับหมาจรจัดที่อยู่แถว ๆ นั้น บางตัวก็มีปลอกคอ บางตัวก็ไม่มี พวกมันต่างมะรุมมะตุ้มหญิงสาว แต่พอพวกมันได้ไส้กรอกไปแล้ว ต่างก็คาบหายไปจากตรงที่เธอนั่ง คีรยาได้แต่มองตาม ‘บางครั้งคนเราก็เหมือนหมาพวกนี้เหมือนกัน บางตัวที่มีเจ้าของก็กินอิ่มนอนหลับ บางตัวที่ไร้บ้าน ขาดคนเลี้ยงดู พวกมันต่างดิ้นรนหากินกันไปตามแต่ที่จะหาได้’

คีรยาตกอยู่ในสภาพตกงานมาได้หกเดือนกว่า ๆ แล้ว บริษัทที่เธอทำงานปิดกิจการ และเลิกจ้างพนักงานทุกคน ดีว่าคีรยายังได้เงินจากการปิดกิจการนี้มาได้ถึงหกเดือน ซึ่งเดือนนี้ก็เป็นเดือนที่หกพอดี เงินที่จะกินจะใช้ในแต่ละเดือนก็เริ่มร่อยหรอไป

วันนี้ที่เธอเข้าไปหาปันฐิตา ก็เพราะว่า เธอได้ไปส่งงานที่รับจ้างปันฐิตาทำเป็นจ๊อบ ๆ ซึ่งความรู้เรื่องบัญชีที่เธอพอจะมี ก็ช่วยงานของปันฐิตาได้ไปหลายเปลาะ

คีรยาไม่ได้งอมืองอเท้าเหมือนอย่างที่ไพรภูมิกล่าวหา โชคดีที่เธอมีฝีมือในเรื่องการเย็บปักถักร้อย จึงทำงานฝีมือที่มีพวกกลุ่มเพื่อนรักและเล่นตุ๊กตา จึงคิดทำชุดตุ๊กตาออกไปขาย ทำให้มีรายได้พอค่าใช้จ่ายประจำวัน

แต่หนี้สินที่เธอได้สร้างเอาไว้ตอนที่แม่ป่วย ยังหามาใช้หนี้บัตรเครดิตไม่หมด แต่คีรยาก็พอมีเงินไปจ่ายในยอดที่เรียกว่าขั้นต่ำได้ ส่วนบ้านหลังนี้ที่เธอมาอาศัยอยู่เป็นบ้านของคนที่เรียกได้ว่าสนิท แต่เป็นคนสนิทของปันฐิตาไม่ใช่เธอ

การที่คีรยาได้รู้และได้เห็นอะไรบางเรื่องที่เป็นความลับของใครบางคน มันก็เหมือนน้ำท่วมปาก พูดไม่ได้ ได้แต่มองอย่างเศร้าใจ และคีรยาเองก็พยายามเข้าใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกัน แม้เรื่องที่เธอรู้มานั้นมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรเลย แต่คนอย่างเธอจะพูดอะไรได้

หนึ่งมันไม่ใช่ธุระกงการ สองเธอทำร้ายใครไม่ได้ สักวันการกระทำที่เป็นเรื่องลับ ๆ มันก็มีสิทธิ์ที่จะถูกเปิดเผยให้คนอื่นได้รู้เช่นเดียวกัน แต่คงไม่ใช่จากปากของเธอที่จะไปเที่ยวป่าวประกาศบอกใครปาว ๆ คีรยาจึงได้เลือกที่จะเก็บงำเอาไว้ดีกว่า

หญิงสาวยกมือถือขึ้นมาดูอีกหลายครั้ง ก็เห็นได้ว่ายังผ่านไปได้ไม่นาน เธอเองยังคงนั่งกวัดแกว่งอยู่แถว ๆ นี้

เธอเลือกที่จะเปิดแอปฯ เพื่ออ่านหนังสือ เธอได้โหลดมันเอาไว้สองสามแอปฯ เพื่อเอาไว้อ่านฆ่าเวลา บางแอปฯ ก็หมุนกงล้อเพื่อแลกเหรียญ บางทีอดใจไม่ไหวก็มีซื้อเหรียญเพื่ออ่านอุดหนุนนักเขียนไป

ความฝันอีกอย่างหนึ่งของคีรยา เธออยากจะเป็นนักเขียนดูสักครั้ง แต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า หญิงสาวได้ลองแต่งไปบ้าง แต่เธอเองก็คิดว่ามันยังใช้ไม่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel