บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ความต้องการของแม่

เมื่อไพรภูมิเดินไปถึงที่บ้านของแม่ เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกของแม่กับใครบางคน เสียงนี้เขาจำได้แม่น เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากนางผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้น

‘คีรยา’

‘ใช่... เป็นหล่อนจริง ๆ ด้วย นี่หล่อนยังไม่กลับบ้านอีกหรือ มันกี่โมงกี่ยามแล้ว นางผู้หญิงคนนี้ช่างตอแหลได้โล่จริง ๆ เลย มาพะเน้าพะนอเอาใจคุณแม่ ทำเหมือนอย่างกับเป็นแม่ของตัวเอง หวังจะเป็นลูกสะใภ้หรือ หึ’

ชายหนุ่มสงสัยจริง ๆ ว่าทั้งสองกำลังทำอะไร คุยอะไรกันอยู่ ไพรภูมิเดินเข้าไปใกล้อย่างเงียบเสียง เขาจึงได้เห็นแม่ของเขากับคีรยากำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่ผู้หญิงคนนั้นคอยตักข้าวตักแกงให้อย่างเอาอกเอาใจ

“คุณป้าขาลองปลานี่ค่ะ”

คีรยาได้ตักเนื้อปลาพร้อมกับจัดน้ำราดที่อยู่ในจานราดลงให้

“แยมได้แกะเอาก้างออกให้หมดแล้วค่ะ ดูดีแล้ว ไม่มีก้างปลาแล้วค่ะ คุณป้ากินได้อย่างสบายใจ”

“ขอบใจมากนะหนูแยม หนูเป็นคนที่น่ารักที่สุด ถ้าไม่ได้หนูมาแวะคุยกับแม่บ่อย ๆ แม่คงจะเหงาน่าดู” สายตาของคุณชวนชมมองคีรยาอย่างชื่นใจ

“ที่นี่ ก็มีทั้งพี่เขื่อน ป้าม่วง ลุงสุภาพ แล้วก็พี่เผ็ดแล้วนี่คะ คุณป้าจะเหงาได้ยังไง”

“นี่หนูแยม แม่บอกว่าให้หนูเรียกคุณแม่ บอกตั้งหลายครั้งแล้วนะ ก็ยังจะมาเรียกป้าอีกนะ”

คีรยายิ้มรับในความเอ็นดูตัวเองของท่าน

“พวกนั้นน่ะ ไม่เหมือนหนูเลยสักคน คุยก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว แถมยังสร้างแต่เรื่องให้ปวดหัว ใช้อะไรแต่ละที ก็ไม่ได้ดั่งใจ มีแต่หนูนี่แหละ ทำอะไรก็ดีไปซะหมด วันนี้อาหารที่หนูทำอร่อยมากเลยนะ โดยเฉพาะปลาราดพริกเนี่ย หนูได้สูตรมาจากไหนจ๊ะ แม่ได้กินอาหารที่หนูทำตั้งหลายทีแล้ว อร่อยจนอยากจะออกสตางค์เปิดร้านอาหารให้หนูเลยนะเนี่ย”

“เป็นสูตรของคุณยายน่ะค่ะ”

“เรามาเปิดร้านอาหารกันไหม”

“อย่าเลยค่ะคุณป้า อย่าเลย แค่นี้ให้ทำกินกับคุณป้าคนเดียวก็น่าจะพอแล้วค่ะ”

“เสียดายรสมือ คนอื่นไม่ได้กินนะสิ แสดงว่าแม่โชคดีที่สุด”

คีรยายิ้มกว้าง

“แล้วตอนนี้งานของหนูแยมเป็นยังไงบ้างล่ะ ดีไหม”

คีรยาอึกอักพูดไม่ได้ ท่าทีของเธอเปลี่ยนไป

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็เล่าให้แม่ฟังนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว คนเราก็ต้องระบายเรื่องราวอะไรออกมาได้บ้าง”

“ปกติค่ะ ที่ทำงานที่ไหน มันก็เป็นปัญหาทั้งนั้นค่ะ ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะค่ะ”

ทันใดนั้น ขาใหญ่ยาวก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงพูดขึ้น “ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องที่ว่าไม่มีเงินใช้มากกว่ามั้ง”

ทั้งสองสาวต่างวัยรีบยกหน้าขึ้นมามองคนมาใหม่

“อ้าว เชนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มะ มากินข้าวด้วยกัน”

ช้อนสายตาขึ้นมองหน้าลูกชาย กำลังกินอร่อย ถ้าเขามาทีไร คุณนายพานจะกินข้าวไม่ลง

“กินมาหรือยัง” แต่ท่านก็ยังถาม

“ผมไม่กินครับ ผมอิ่มแล้ว”

“เหรอ เมียแกทำอะไรให้กินล่ะ” ไม่วายกระแนะกระแหนไปถึงลูกสะใภ้

“ผมกินมาจากข้างนอกครับ”

“โอ๊ย มีเมีย แต่ก็ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ถ้าเกิดเมียแกมีลูกให้แกไม่ได้ อาหารการกินก็ต้องทำได้สิ อย่างน้อยทำให้กินวันละมื้อ มื้ออร่อย ๆ สักมื้อ เฮ้อ...” ประชดประชัน

ทำให้ทั้งคีรยากับไพรภูมิถึงกับทำสีหน้าไม่ดีออกมา

“แม่ครับ แม่เป็นอะไรนักหนากับปัน” ลูกชายเริ่มเสียงแข็ง ผู้เป็นแม่จึงรีบยกมือขึ้น

“เอาเถอะ ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ เพราะตอนนี้เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน ฉันจะกินข้าว”

ไพรภูมิหันไปมองหน้าของคีรยาอย่างไม่พอใจ

เธอจึงรีบกวาดข้าวที่เหลือใส่ในช้อน แล้วตักกิน คีรยาถูกสอนให้กินข้าวในจานให้หมด หญิงสาวรีบรวบช้อน

“มีคนนอกมา หึ...” ยังมองคีรยาอย่างดูแคลน

“หนูแยมไม่ใช่คนนอกที่ไหนทั้งนั้น แม่มองแยมเป็นลูกสาวของแม่คนหนึ่ง”

“แม่ครับ คนที่แม่ควรจะรักคือปัน ไม่ใช่แม่นี่”

เขาชี้หน้าคีรยา

“หึ-หึ แล้วผมขอถามแม่คำหนึ่ง แม่ไปได้เสียกับพ่อของหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่” ตาดูถูกและไม่เป็นมิตร

“โอ้ย ๆ ปากหรือนั่น ถ้าแกพูดดีไม่ได้ ก็อย่าพูดเลย” ท่านกระแทกช้อนลงไปในจาน

คีรยารีบร้อนยกน้ำขึ้นมาดื่ม

“อ้าว หนูแยมอิ่มแล้วเหรอจ๊ะ”

“อิ่มแล้วค่ะคุณป้า”

“แหม... กินกำลังอร่อย แต่พอมีมารคอหอยมา รสชาติอาหารมันก็เสียไปหมด”

“ผมทำให้คุณแม่อิ่มหรือครับ สงสัยว่าหล่อนคงจะต้องกลับ” เขากระแทกสายตาเย็นชามองคีรยาอย่างไม่พอใจ

“ค่ะ คุณป้าคะ เอาไว้วันหลัง หนูจะแวะมาหาคุณป้าใหม่นะคะ”

“อื้อ... แวะมาอีกนะลูก”

คีรยา รีบยกมือไหว้คุณชวนชม และหันกลับมายกมือไหว้เขา ไพรภูมิไม่ได้รับไหว้ แถมยังสะบัดหน้าไปทางอื่น

“ตายอายุก็มากกว่าน้อง แต่ดันไม่มีมารยาท เสียชื่อแม่หมด เขาจะหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งไม่สอน”

“คุณแม่ครับ” ไพรภูมิหันขวับกลับมาทันที

“แยมไปนะคะ”

“เดินดี ๆ นะลูก หรือจะให้พี่เขื่อนไปส่งก็ได้”

“ค่ะ” เธอรีบเดินออกไปทางประตูด้านหลัง

หัวใจของคีรยาร้าวราน ไพรภูมิไม่เคยเห็นเธอดีในสายตาของเขาเลย และเธอก็ไม่คิดว่า เธอจะได้เจอกันอีกครั้งหนึ่งที่นี่วันนี้ เมื่อตอนที่ได้ยินเสียงรถของเขาเข้าบ้านมา เธอก็รีบเดินหนี สาวเจ้าได้แต่ถอนหายใจ เขาคงจะชังน้ำหน้าของเธอมาก

คีรยาได้ยินเสียงของเขาดังขึ้น หลังจากเธอพ้นจากประตู ไพรภูมิคงหวังให้เธอได้ยินเสียงของเขาเป็นแน่

“แม่เป็นอะไรกับเด็กนี่นักหนา มีอะไรก็เรียกหาตลอด แม่ควรจะเรียกหาปันบ้างนะครับ”

“ก็ฉันเหงา หนูแยมว่าง ก็แค่แวะมาหา”

“แต่คนที่แม่ควรรักและสนิทด้วยควรจะเป็นปัน”

“นี่... เจ้าเชนแกเป็นลูก ฉันโตพอแล้วนะ ฉันรู้ตัวดีว่า ฉันทำอะไรอยู่ แต่เมียของแกต่างหากที่ควรจะเข้าหาแม่ ไม่ใช่ให้แม่ต้องคอยเข้าหา ไปบอกเมียของแกโน่น ว่าควรจะทำตัวอย่างไร” คุณชวนชมชี้นิ้วไปทางบ้านของลูกชาย

“หนูแยมก็แค่มาคุยด้วย ฉันก็แค่รู้สึกดี ไม่เหมือนอย่างคนเป็นลูกอย่างแก ไม่เคยคิดจะทำ”

“แม่ผมก็ต้องทำงานนะครับ แม่งอน และพาล แล้วเห็นยายนั่นดีกว่าผม ดีกว่าปัน”

“อ้าว เจ้าเชนพูดแบบนี้คืออะไร จู่ ๆ มาถึงบ้านแม่ แกก็มาหาเรื่องโครม ๆ แกต้องการอะไร และที่แกพูดพาดพิงถึงหนูแยม เธอไปทำอะไรให้แก โอ้ย... พูดหมา ๆ”

“แม่ครับ ยายแยมอะไรนั้น เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ เพิ่งจะมาขอเงินจากปัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel