3 เงินก้อนแรก
[จัดรูปแบบทีมออกรบ]
[สามารถวางตำแหน่งสัตว์อสูรได้อย่างอิสระ ตามดุลพินิจของเทมเมอร์]
[หมายเหตุ : ความแข็งแกร่งของทีม ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการวางตำแหน่งของสัตว์อสูร]
คงจะหมายความว่า ตัวโจมตีระยะไกลควรอยู่หลัง และวางสัตว์อสูรที่มีสกิลป้องกันสูงๆ ไว้ด้านหน้าสุดอย่างนั้นสินะ
ส่วนประกอบในทีมออกรบ ก็ไม่ควรจะมีแค่ตัวโจมตีทั้งหมด หรือตัวป้องกันเพียงอย่างเดียว แต่ควรคละๆ กันไป ทั้งพลังโจมตี ป้องกัน และตัวซึ่งมีบัพสนับสนุนร่วมด้วย ทีมถึงจะมีความสมดุล และมีโอกาสชนะการต่อสู้สูงขึ้น
[คลังสัตว์อสูร]
[ปัจจุบันคุณมีสัตว์อสูรทั้งหมด : 1/1]
[กระจิบ อยู่ระหว่างเรียกออกไปใช้งานด้านนอก]
[สัตว์อสูรที่สามารถเรียกใช้เพิ่มได้ : 0]
[ความสามารถพิเศษคลังสัตว์อสูร : ยังไม่เปิดใช้งาน]
‘ความสามารถพิเศษคลังสัตว์อสูร? มันคืออะไร?’
แล้วไม่มีปุ่มคำอธิบายเพิ่มเติมให้ฉันได้ศึกษาด้วยนะ สงสัยชะมัด มันจะเปิดใช้งานได้เมื่อไหร่กัน?
ไม่ว่าฉันจะพยายามมองหาหรือกดจิ้มที่คำว่า ‘ความสามารถพิเศษของคลังสัตว์อสูร’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแค่ไหน ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบสนองกลับมา
มันปกปิดเอาไว้ไม่ให้ฉันรู้ ความสามารถที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานคืออะไรกันแน่ หงุดหงิดชะมัด!
ในเมื่อดื้อดึงต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ขึ้น ฉันจึงเลื่อนไปที่หัวข้อถัดไป
[ช่องเก็บของทั่วไป]
[จำนวนช่องเก็บของ : 3/20]
[ไอเทมเปลี่ยนชื่อ : 1/1]
[ยาฟื้นฟูพลังชีวิต Lv.1 10/10 (ฟื้นฟูครั้งละ 1 หน่วย / 1 วินาที เป็นเวลาทั้งหมด 10 วินาที)]
[ยาฟื้นฟูพลังมานา Lv.1 10/10 (ฟื้นฟูครั้งละ 1 หน่วย / 1วินาที เป็นเวลาทั้งหมด 10 วินาที)]
“ไอเทมเปลี่ยนชื่อ!!”
นี่แหละคือสิ่งที่ฉันโหยหามากในตอนนี้ ฉันอยากเปลี่ยนชื่อใหม่ เปลี่ยนตัวตนใหม่ ในเมื่อร่างกายตายจากโลกเดิมแล้ว ชื่อมันก็ควรจะสาบสูญตามไปด้วย
[คุณต้องการใช้ไอเทมเปลี่ยนชื่อ?]
[กรุณากรอกชื่อใหม่ที่คุณต้องการเปลี่ยน]
ชื่ออะไรดีล่ะ ฉันควรตั้งชื่อใหม่ให้ตัวเองว่าอะไรดี เอาแบบเท่ๆ น่ารัก หรือน่าเกรงขามดีนะ?
เป็นเทมเมอร์ผู้ฝึกสัตว์อสูร ฉันควรใช้ชื่อน่ารักๆ ดีกว่าไหมนะ เอาเป็นชื่อ...
‘มิริน’
ไม่รู้ว่าทำไมชื่อนี้ถึงผุดขึ้นมาในหัวได้ ทั้งที่มันดูแบ๊วเกินไป และไม่เหมาะกับสภาพเบ้าหน้าฉันเลยสักนิด ทว่าฉันกลับอยากใช้ชื่อนี้มาก
[คุณต้องการใช้ชื่อว่า ‘มิริน’?]
[กรุณายืนยัน]
[คำเตือน : สามารถเปลี่ยนชื่อได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น]
ชื่อนี้แหละ ฉันว่าเข้ากับคาแรกเตอร์ของอาชีพที่ได้รับสุดๆ แล้ว อีกอย่างมันน่ารักมากด้วยนะ ‘มิริน’
[คุณได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘มิริน’ เรียบร้อยแล้ว]
“เฮ้อ~ ไม่มีอะไรให้ศึกษาเพิ่มเติมแล้ว ได้เวลาออกสำรวจโลกใบนี้สักที”
ฉันหยัดกายลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ตอนนี้ดวงอาทิตย์ที่ตั้งตรงอยู่กลางศีรษะ เริ่มเคลื่อนคล้อยต่ำลงแต่ยังไม่หมดแสงสว่าง ใช้เวลาในการศึกษาระบบไปพอสมควรเลยทีเดียว
ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว นาฬิกาก็ไม่มีให้ดู แต่คาดเดาจากทัศนียภาพคงปาเข้าไปบ่ายแก่ๆ น่าจะสักประมาณสี่โมงเย็น
ฉันไม่รู้ว่าคืนนี้จะต้องไปซุกหัวนอนที่ไหน เริ่มมีอาการท้องร้องจากความหิวแล้วด้วย คันยุบยิบเพราะนอนคลุกพื้นหญ้า รู้สึกอยากอาบน้ำมากๆ เหมือนกัน
“กระจิบบินขึ้นฟ้าที ฉันจะใช้สกิลตาเหยี่ยว”
ถ้ามองจากมุมต่ำแบบนี้เห็นเพียงแค่ทุ่งหญ้ากว้างเท่านั้น ต้องส่งกระจิบให้บินขึ้นฟ้าเพื่อมองจากมุมสูง เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
แกว๊ก!
กระจิบร้องตอบรับพร้อมโผบินขึ้นด้านบน ขนาดตัวของน้องค่อยๆ ลดระดับจนเล็กจิ๋ว คงบินขึ้นไปสูงมากแน่ๆ
“เปิดใช้งานสกิลตาเหยี่ยว”
เมื่อร่ายสกิลเสร็จ ภาพต่างๆ ที่กระจิบเห็น จึงส่งผ่านเข้ามาในจอประสาทตาของฉัน
ทุ่งหญ้าผืนนี้กว้างขวางมากจริงๆ ขนาดกระจิบบินขึ้นสูงขนาดนั้น ยังมองไม่เห็นสิ่งอื่นนอกจากความเขียวขจีของใบหญ้า
เอ๊ะ! แต่ดูเหมือนที่ฝั่งขวาจะมีอะไรบางอย่างอยู่นะ
“กระจิบ ลองบินวนไปทางขวาหน่อย”
ฉันไม่รู้หรอกว่าคำสั่งที่เปล่งออกมา กระจิบจะได้ยินหรือเปล่า เพราะระยะห่างระหว่างเรามันมีมากพอสมควร แต่พอพูดจบ กระจิบกลับเอียงตัวบินไปตามทิศทางที่ฉันต้องการทันที
แสดงว่าคำสั่งไม่จำเป็นต้องสื่อสารกันโดยใช้คำพูด ฉันอาจสามารถใช้กระแสจิต ส่งผ่านความต้องการของตัวเองไปที่สัตว์อสูรได้โดยตรง
“นั่นมันกำแพงเมืองนี่!”
รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก ที่ได้เห็นสิ่งก่อสร้างซึ่งมาจากฝีมือมนุษย์ โลกใบนี้ไม่ได้มีแค่ฉันอยู่คนเดียวสินะ
ว่าแต่... จะเดินทางไปที่เมืองนั้นได้ยังไง ระยะทางจากจุดนี้ที่ฉันยืนอยู่ กับตำแหน่งที่ตั้งของเมืองห่างไกลกันลิบลิ่ว
เป็นปัญหาที่ยากจะหาทางออก เดินเท้าไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกกี่วันถึงจะถึงจุดหมาย ฉันจะมีชีวิตรอดพ้นคืนนี้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ กลางวันยังอันตรายขนาดนี้ กลางคืนจะน่ากลัวขนาดไหน ไม่อยากนึกสภาพ
ฉันยืนครุ่นคิดไม่ตกด้วยความเคร่งเครียด จนกระจิบบินกลับลงพื้นมายืนข้างๆ น้องใช้หัวถูต้นแขนฉันเบาๆ คล้ายจะออดอ้อนตามเคย นั่นจึงทำให้ฉันจุดประกายความคิดบางอย่างขึ้นมาได้
ใช่! ฉันมีกระจิบ
นอกจากน้องจะสามารถนำออกมาใช้ต่อสู้ คอยสอดส่องดูสิ่งอื่นๆ ในระยะไกล กระจิบยังสามารถใช้เป็นพาหนะได้อีกด้วย อะไรมันจะครบเครื่องขนาดนี้ ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่เลือกน้องเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรก
“กระจิบ เราเข้าเมืองกันดีกว่า”
ฉันกระโดดขึ้นขี่หลังกระจิบ พร้อมใช้สองมือยึดจับกลุ่มขนน้องเอาไว้แน่น นี่คือการบินครั้งแรกในชีวิต มันไม่แปลกหากฉันจะเกิดความรู้สึกตื่นกลัวหรือกังวล แต่ก็แอบมีความตื่นเต้นแฝงอยู่กลายๆ
“ไปโล้ด~”
แกว๊ก!
กระจิบทะยานบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง โดยมีฉันเกาะหลังไปด้วย กระแสลมพัดปะทะตามใบหน้าและร่างกายอย่างแรง จนรู้สึกคล้ายกับว่าจะพลัดตกลงไปด้านล่าง ด้วยความกลัวฉันจึงโน้มตัวกอดกระจิบเอาไว้
“สูงชะมัด ตกลงไปคงซี้แหงแก๋แน่เลย”
แกว๊ก!!!
พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างฉันก็ร่วงหล่นลงจากหลังกระจิบอย่างไร้สาเหตุ ขนสีขาวหลุดติดมือฉันมากระหย่อมหนึ่งจากการขยุ้มเอาไว้
ก่อนหน้าที่ฉันจะดิ่งพสุธา รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างมาปะทะชนจากทางด้านขวา แล้วหลังจากนั้นสภาพก็เป็นแบบนี้ อีกนิดหัวฉันจะโหม่งพื้นโลกแล้วจ้า
แกว๊ก!!!
แต่ดูเหมือนพระเจ้า จะยังไม่อยากให้ฉันได้พานพบกับความตายเป็นครั้งที่สองในรอบวัน กระจิบที่ตั้งหลักจากการถูกชนได้ รีบบินถลามารับฉันไว้
ฉันกลับมาอยู่บนหลังกระจิบอีกครั้ง พร้อมกับสังเกตเห็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ฉันเกือบตาย อีแร้งตัวใหญ่สีดำกำลังพุ่งมาทางนี้ จิตสังหารรุนแรงดูคล้ายว่ามันกำลังหิวโซ และมองฉันเป็นอาหารอันโอชะ
[วัลเวล]
[สัตว์อสูรระดับ 5 Level. 50]
[สายพันธุ์ : นักล่า]
[พลังชีวิต : 500/500]
“บังอาจมากนะนังแร้งชั่วร้าย มาประทุษร้ายฉันได้ยังไง แกต้องไม่ตายดีแน่!! กระจิบจัดการมันเลยลูก!”
ฉันชี้นิ้วพร้อมออกคำสั่ง ไปทางอีแร้งซึ่งกำลังบินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จ้องมองมันด้วยสายตาเกรี้ยวโกรธ
ในบรรดาสัตว์ปีกทุกชนิดฉันเกลียดอีแร้งที่สุด เพราะตอนเด็กๆ เคยดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับอีแร้ง มันเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์เพทุบาย ชอบหลอกเหยื่อให้ไปตายและรอกินซากศพ ถ้าเป็นมนุษย์แล้วมีนิสัยแบบนี้ ฉันจะหนีให้ห่างเท่าที่จะทำได้
แกว๊ก!!
กระจิบตอบสนองคำสั่งฉันอย่างรวดเร็ว เปิดโหมดโจมตีโดยมีฉันนั่งอยู่บนหลังคอยสั่งการ
สกิลพายุโหมถูกปล่อยออกไปสองลูก แต่ดูเหมือนอีแร้งตัวนั้นจะบินหลบได้ มันยังคงพุ่งตรงเข้ามาหาฉันกับกระจิบ อย่างไม่ลดละความพยายาม
ระดับต่างกันกับกระจิบตั้งสามสิบเลเวล ไม่มีความหวั่นเกรงบ้างเลยหรือไง แสดงว่ามันต้องหิวมากแน่ๆ ความหิวโหยคงทำให้มันหน้ามืดและบ้าบิ่น
“กระจิบโจมตีเต็มกำลัง ไม่ต้องห่วงนะว่าฉันจะตก ฉันจะเกาะให้แน่นๆ”
กล่าวจบฉันจึงตวัดวงแขนโอบรอบลำคอกระจิบเอาไว้ และปล่อยให้น้องได้ทำหน้าที่ของตัวเอง มั่นใจมากว่ายังไงกระจิบก็ต้องชนะ
กระจิบเปิดโหมดโจมตีขั้นสุด ทั้งปล่อยสกิลพายุโหมอย่างต่อเนื่อง ถลาเข้าไปหาแร้งตัวนั้นแล้วใช้กรงเล็บข่วน
ฉันรู้สึกได้ว่ากระจิบดูเป็นกังวล และไม่กล้าที่จะเข้าใกล้อีแร้งมากเกินไป คงเพราะกลัวว่าฉันจะได้รับอันตรายไปด้วย
นกสองตัวต่อสู้กันอยู่สักพัก แต่ด้วยความต่างชั้นกันอย่างเห็นได้ชัด ในที่สุดกระจิบก็ชนะด้วยท่าจิกทะลวง อีแร้งร่วงลงสู่พื้นหญ้าด้านล่างอย่างรวดเร็ว
“กระจิบ ลงจอดหน่อย”
กระจิบค่อยๆ ลดระดับการบินลงอย่างนุ่มนวล เมื่อเท้าของฉันแตะพื้น น้องก็ใช้หัวถูไถต้นแขนฉันอีกครั้ง นั่นจึงทำให้รู้ได้ว่ากระจิบต้องการคำชื่นชม
“เก่งมากเด็กดี เจ้าเป็นนกที่เก่งที่สุดเลย”
ฉันยกมือขึ้นลูบหัวกระจิบเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู ปกติเคยเลี้ยงแต่หมาจรจัดข้างถนน เพิ่งมามีประสบการณ์ได้เลี้ยงเหยี่ยวครั้งแรก ไม่คาดคิดว่าน้องจะขี้อ้อนขนาดนี้
[วัลเวล]
[พลังชีวิต : 10/500]
[กรุณาใช้สกิลเพื่อจับสัตว์อสูร]
ฉันยืนมองอีแร้งตัวนั้น นอนพะงาบๆ หายใจรวยระรินอย่างไม่นึกสงสาร และไม่มีความคิดจะเอามันมาสะสมไว้ในคลังด้วย
แต่ในเมื่อเลือกไม่ทำพันธสัญญา ทางเลือกที่สองคือฆ่าเพียงอย่างเดียว คนที่ไม่เคยลงมือปลิดชีพสิ่งมีชีวิตใดๆ อย่างฉัน จะลงมือทำได้จริงหรือ
‘เอ๊ะ! ลืมไป เรามีกระจิบนี่หว่า’
ยืมมือสัตว์อสูรในการดูแลสังหารผู้อื่น ถือว่าเราเป็นคนชั่วช้าหรือเปล่านะ
ช่างมันเถอะ อีแร้งตัวนี้พยายามจะเอาชีวิตฉันก่อน ถือว่าเป็นการป้องกันตัวละกัน
“กระจิบ ฆ่า!!”
เมื่อสิ้นคำสั่งแสนเย็นชาและเลือดเย็น กระจิบจึงใช้สกิลจิกทะลวงปิดฉากชีวิตโสมมของวัลเวลอย่างรวดเร็ว
[วัลเวล]
[พลังชีวิต : 0/500]
[คุณ Level Up : 13/100]
มันนอนแน่นิ่งไร้ลมหายใจแทบเท้าฉันอยู่ชั่วครู่ ก่อนร่างกายจะเรืองแสงและสลายหายไป ทิ้งลูกกลมๆ บางอย่างเอาไว้สามลูก
“นี่มัน... คืออะไร?”
ฉันทรุดกายนั่งยองๆ ก่อนยื่นนิ้วไปจิ้มฟองอากาศสีทองที่ลอยอยู่บนพื้นตรงหน้า
โป๊ะ!
[คุณได้รับเซอร์คอเนียร์ X10]
หน้าต่างระบบเด้งขึ้นพร้อมเปิดช่องเก็บของโชว์ขึ้นมา ที่มุมซ้ายล่างสุดมีคำว่า ‘เซอร์คอเนียร์’ ปรากฏพร้อมจำนวนที่เพิ่งได้รับ ดีที่มันมีคำอธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ด้วย
[เซอร์คอเนียร์ : คริสตัลสีเงินสุดล้ำค่า]
[คุณสมบัติ : หน่วยเงินตราที่ใช้ในไทม์เลส]
อ่อ... มันคือวัตถุที่เราเอาไว้ใช้แทนเงินนั่นเอง สามารถดรอปได้จากการสังหารสัตว์อสูรสินะ เจ๋ง! อย่างนี้ฉันก็มีช่องทางรวยแล้วสิ
ว่าแต่... ไทม์เลสคือชื่อเรียกโลกใบนี้อย่างนั้นหรือ?
ฉันพับความสงสัยเก็บเอาไว้ แล้วหันไปสนใจฟองอากาศอีกสองลูก
โป๊ะ!
[คุณได้รับจะงอยปากวัลเวล]
[จะงอยปากวัลเวล สามารถนำไปสร้างอาวุธระดับ 5 ได้]
โป๊ะ!
[คุณได้รับขนวัลเวล]
[ขนวัลเวล สามารถนำไปสร้างชุดเกราะระดับ 5 ได้]
วัสดุสำหรับทำอาวุธและชุดเกราะ ก็สามารถดรอปได้จากสัตว์อสูรพวกนี้เหมือนกัน แล้วระดับห้านี่มันคุณภาพเป็นยังไง ขั้นของอุปกรณ์มีทั้งหมดกี่ระดับกัน
“กระจิบ เราไปหาคำตอบให้กับเรื่องที่ฉันสงสัยจากในเมืองกันเถอะ”
ยืนงงอยู่ตรงนี้คนเดียวก็คงไม่มีทางรู้อะไรเพิ่มเติมได้หรอก ฉันต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับโลกใบนี้เพิ่ม
อะไรคือไทม์เลส?
ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?
แล้วสิ่งพวกนี้ที่ฉันกำลังพบเจออยู่ มันคืออะไร?
