EP 4 ปั่นหัวแม่ผัว
หลายวันต่อมา
"หล่อนไม่มีการมีงานทำรึยังไง ทำตัวเป็นคุณนายไปวันๆ นู้น งานของแกก็คืองานในครัว รีบไปทำซะสิ!" คุณหญิงอนงค์ยังไม่เลิกระราน ท่านเดินตามเข้ามาต่อว่าพราวฟ้าไม่หยุดไม่หย่อน
"มีค่ะ แต่ไม่อยากทำ อีกอย่างหนูเพิ่งไปทำเล็บมา เดี๋ยวเล็บจะลอกน่ะค่ะ" พูดด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจพร้อมกับยกมือขยับนิ้วให้แม่สามีเห็นว่าเธอไปทำเล็บมา
"แก! ก็คงจะไปผาลเงินลูกชายฉันมาใช่ไหม!"
"คงเรียกว่าผานไม่ได้หรอกค่ะคุณแม่ เพราะคุณคิมหันต์เขาเต็มใจให้พราว ก็เป็นเมียนี่ค่ะ ไม่ใช่คนใช้ นอนคุยกันน่ะค่ะคุณแม่เคยได้ยินไหม?"
"ก็คงจะเป็นเงินค่าตัวที่นอนกับพี่คิมหันต์นั่นแหละค่ะคุณแม่ ภูมิใจไปเถอะ เงินแค่นี้ฉันไม่รู้สึกอิจฉาเธอหรอก" เมเบลที่แพ้เสียงในหัวก็ต่อว่าพราวฟ้าออกมาด้วยความอิจฉา
"แน่ใจหรอคะว่าคุณไม่อิจฉา ไม่ใช่ตอนนี้ในใจของคุณมันรุ่มร้อนไปหมดแล้วหรือคะ ถ้าไม่อิจฉาคุณก็คงไม่เทียวเข้าเทียวออกที่บ้านหลังนี้เพียงเพราะชอบผัวชาวบ้านหรอกนะคะ" เธอตอบกลับอย่างไม่แคร์ เธอเองก็ไม่ยอมคุณอยู่แล้วนี่ เธอไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาต่อว่าเธอได้ฝ่ายเดียวหรอก
"นี่แก! ฉันจะฟ้องพี่คิมหันต์!"
"มันจะมากเกินไปแล้วนะอีหน้าด้าน!" คุณหญิงอนงค์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ปรี๊ดแตก เธอชักจะอดไม่ได้แล้ว นังผู้หญิงคนนี้มันเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ
"นี่หรอคะคนที่ตัวเองเรียกว่าผู้ดี คำพูดนี้ก็ไม่ต่างจากสิ่งที่คุณแม่เกลียดเลยนะคะ" เธอแสยะยิ้มมุมปากมองหน้าแม่สามีอย่างโต้เถียง
"..."
"จุ๊ๆ เป็นผู้ดีเขาไม่พูดจา..หยาบคายนะคะ" เธอเดินเข้ามาหาคุณหญิงอนงค์ แววตาเหลือบไปเห็นคิมหันต์กำลังเดินเข้ามาพอดี ที่เธอมานั่งยั่วอารมณ์แม่ของเขาแบบนี้ก็เพราะรู้ดีว่าเวลานี้เขาเลิกงาน กลับมาจากบริษัท
เพี๊ยะ!
สิ้นเสียง ฝ่ามือของคุณหญิงอนงค์ก็ประทับเข้าที่ใบหน้าของเธอเต็มแรงจนเธอหน้าหงาย และเธอก็แสร้งล้มลงพื้น คิมหันต์เองก็เดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี
"เกิดอะไรขึ้น?" คิมหันต์ที่เดินเข้ามาก็ขมวดคิ้วเมื่อเข้ามาเจอจังหวะที่มารดาของตนตบหน้าพราวฟ้า
"บอกกันดีๆก็ได้นี่คะ ทำไมต้องใช้ความรุนแรงด้วย ถึงแม้ว่าพราวจ้ะเพ้อเถียงคุณแม่ไปบ้าง แต่เราก็ไม่เคยทำอะไรรุนแรงกับคุณแม่กับคุณเมย์เบลเลยนะคะ
คุณหญิงอนงค์และเมย์เบลเองก็ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเมื่ออยู่ๆ ผู้หญิงที่ร้ายกาจอย่างพราวฟ้าตอนนี้แปรเปลี่ยนมาเป็นนางเอกที่ใสซื่ออ่อนแอเหมือนในละคร
"แกมันตอแหล หน้าด้าน!" ไม่รู้จะพูดอะไรก็ต่อว่าพราวฟ้าด้วยคำหยาบคาย
"พอแล้วครับแม่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีเรื่องอะไรกันอีก ผมบอกให้แยกกันอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ แค่เรื่องงานผมก็ปวดหัวจะแย่แล้ว นี่ยังมาเจอเรื่องอะไรอีกก็ไม่รู้" คิมหันต์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเต็มทน
"นี่ลูกเข้าข้างมันเหรอ?"
"ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น ผมแค่ไม่ชอบที่แม่พูดจาอะไรแบบนี้" เขาเอ่ยเมื่อเห็นว่ามารดากำลังจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาพิศวาสหลงไหลพราวฟ้า ซึ่งตอนนี้เธอก็ถูกลูกน้องของเขาพาออกไปแล้ว
"งั้นเบลขอตัวกลับก่อนนะคะคุณป้า" เมเบลที่แสร้งตีหน้าเศร้าขอตัวกลับบ้าน ทว่าคุณหญิงอนงค์กลับเรียกเธอเอาไว้เสียก่อน
"รีบกลับไปไหนหล่ะลูก ไหนว่าจะมาทำอาหารเย็นทานข้าวด้วยกันกับแม่ แล้วทำไมไม่เรียกแม่ว่าแม่เหมือนเดิมหล่ะ เรียกป้ามันดูห่างเหิน"
"เรียกแบบนี้ดีแล้วหล่ะค่ะ เรียกแบบนั้นเบลว่ามันไม่ควร เดี๋ยวคุณพราวเธอจะคิดมาเอา แค่เมื่อตะกี้ที่เธอกล่าวหาเบล เบลก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ"
"งั้นก็ได้จ้ะ" สุดท้ายคุณหญิงอนงค์ยอมปล่อยให้เมเบลบ้าน ดีเหมือนกัน เธอจะได้พูดคุยกับลูกชายเป็นจริงเป็นจังซักที!
"ฉันไม่ไหวกับผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ คิดดู มันตอเสแสร้งมากแค่ไหน ก่อนที่ลูกจะมา รู้มั้ยมันว่าหนูเบลว่ายังไง มันบอกว่าหนูเบลมาบ้านเราบ่อยๆ เพราะอยากได้ผัวชาวบ้าน!" พูดแล้วก็อารมณ์ขึ้น ยิ่งคิดยิ่งเกลียดผู้หญิงคนนี้เข้ากระดูก
"มันเป็นหนี้ลูกเท่าไหร่!?"
"แม่ถามทำไม?"
"แม่จะจ่ายแทนมัน แล้วลูกก็ปล่อยมันไปพ้นๆ บ้านของเราสักทีเถอะ! ถือว่าเป็นค่าจ้างให้มันออกจากบ้าน แม่ว่ายังไงมันก็ยอมอยู่แล้ว"
"แม่เลิกคิดอะไรแบบนี้เถอะครับ ผมเป็นนักธุรกิจ อะไรที่ทำแล้วขาดทุนแล้วตัวเองไม่ได้อะไร ผมไม่ลงทุนหรอกนะครับ พราวฟ้าต่างหากที่ต้องหาเงินมาคืนผม จะให้เสียเงินเราได้ยังไง สรุปทั้งหมดผมก็ไม่ได้อะไรเลยน่ะสิ ผมไม่ยอมขาดทุนหรอกนะครับ"
"แกแน่ใจว่าที่พูดออกมาเพราะเรื่องเงิน ไม่ใช่เพราะแกหลงมันเข้าแล้วจริงๆ!?" อารมณ์เริ่มขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกชายไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่กล่าวออกไป
"แล้วแต่แม่จะคิดเถอะครับ ผมเหนื่อยที่จะพูด แล้วต่อไปนี้แม่ก็เลิกหาเรื่องทะเลาะกันกับพราวฟ้าสักทีเถอะครับ ผมเหนื่อย อีกอย่างเธอเองก็ไม่เหมือนเดิม ยิ่งแม่หาเรื่อง เธอก็ยิ่งหาเรื่องกลับ เสียเวลาเปล่าๆ" พูดจบก็เดินหนีออกไป ปล่อยให้มารดาปรี๊ดแตกอยู่คนเดียว
.
"อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ทันเธอ"
"อะไร? ฉันทำอะไรไม่ทราบ?" เธอขมวดคิ้วเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วเปิดบทสนทนา
"เธอหาเรื่องให้โดนแม่ฉันตบเอง แล้วมาทำเหมือนว่าตัวเองโดนกระทำเนี่ยน่ะเหรอ ไม่ได้ทำอะไร?" เขาเอ่ยและจ้องมองไปในดวงตาของเธอไม่คลาดสายตา
"แล้วทำไม ทีแม่ของคุณก็ยังมาหาเรื่องฉันไม่เว้นแต่ละวัน แม้กระทั่งตอนที่ฉันอยู่เฉยๆ คุณเอาแต่ทำงานไม่รู้อะไรเลยต่างหาก โดยเฉพาะว่าที่ลูกสะใภ้คนโปรดของคุณแม่คุณ รายนั้นน่ะ สตอเบอรี่ต้นแรกของโลก แทนที่จะมาต่อว่าจับผิดฉัน ไปต่อว่าคนของคุณเถอะ!" เธอกระแทกเสียงใส่เขาอย่างหมั่นไส้ ไม่รู้ทำไมชีวิตเธอต้องมาผูกติดพัวพันกับคนอย่างเขาด้วยนะ คนอื่นทะลุมิติมาเป็นนางเอก ส่วนเธอมาเป็นตัวประกอบเมียตัวร้ายซะงั้น แถมไม่รู้ด้วยว่าจะโดนเก็บเมื่อไหร่
"ปากเก่งขึ้นเยอะเลยนี่ สงสัยคืนนี้คงจ่ายดอกฉันได้แล้วหล่ะมั้ง" เสียงเรียบเอ่ย เขาจ้องมองเธออย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งเธอก็เริ่มระแวงทำตัวไม่ถูก
"อะไร!? จ่ายดอกอะไร?" จะรอดมั้ยเนี่ยยัยเพียง สายตาเจ้าเล่ห์ หื่นกามคู่นั้น บรื๊ยย ขนลุก!
"หึ ก็หน้าที่ของนางบำเรอยังไงหล่ะ ในเมื่อเธอหาเงินมาคืนฉันไม่ได้ เธอก็ต้องนอนกับฉัน เอาตัวเธอมาจ่ายดอกเบี้ยจนกว่าฉันจะพอใจ!"
"อย่าหวังว่าจะได้ฉันอีกเลยไอ้เจ้าหนี้หน้าเลือด!" เธอกัดฟันกรอดอย่างโมโหในน้ำเสียงและสายตาที่กำลังดูถูกเธอ ไม่เห็นค่าเธอ เธอเกลียดที่สุด!
"ได้ไม่ได้เธอก็รู้นี่ว่าผลของการขัดขืนฉันมันเป็นยังไง!"
หมับ!
"มานี่!"
