พื้นที่มิติในแหวนโบราณ 2
โดยเฉพาะมีตัวป่วนถึงสองคน ทำให้ครอบครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ หลังจากอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน เธออดที่จะคิดถึงความฝันไม่ได้ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้เธอฝันถึงคนที่ชื่อเหมือนเธอตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งแต่งงาน ทว่าเธอคนนั้นกลับแตกต่างจากเธอในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
และเพราะเรื่องนี้ด้วยทำให้เธออยากมีวันหยุด เพื่อจะได้พักสมองบ้าง ช่วงหลัง ๆ มานี้สติของเธอหลุดบ่อยครั้ง ทำให้การซ้อมเดินแบบพลาดอยู่หลายครั้งจนผู้จัดการสั่งให้พักงาน
ก๊อก ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำให้ซูลี่หยางหลุดจากภวังค์ความคิด ดวงตาหงส์คู่สวยมองดูเวลา ซึ่งสี่ทุ่มครึ่งแล้วไม่รู้ใครมีธุระอะไรกับเธอในเวลานี้ แต่เมื่อเปิดประตูห้องออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงส่งรอยยิ้มออดอ้อนไปให้
“คืนนี้คุณแม่จะนอนกับหนูเหรอคะ”
“เปล่าจ๊ะ ขอแม่เข้าไปหน่อย”
ซูลี่หยางเปิดประตูให้คุณแม่เข้ามาพร้อมปิดประตูตาม ร่างระหงเดินตามหลังมารดา ซึ่งเดินไปนั่งบนเตียงนอนพร้อมตบที่นั่งข้าง ๆ ตัวเองเบา ๆ
“มานั่งนี่ แม่มีอะไรจะให้”
ซูลี่หยางเห็นท่าทางจริงจังของมารดา จึงเดินไปนั่งข้าง ๆ อย่างว่าง่ายพร้อมดวงตามองกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ในมือคุณแม่อย่างสงสัย
“นี่เป็นของขวัญวันเกิดลูกครบยี่สิบห้าปี คุณย่าทวดบอกว่าต้องให้ลูกให้ได้ วันนี้พ่อเลยให้แม่เอามาให้ลูก”
เลี่ยงหรูเอ่ยบอกพร้อมเปิดกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้บุตรสาวได้ดู ซึ่งข้างในเป็นแหวนวงหนึ่งที่ดูไม่มีค่าอะไร แต่คำสั่งของคุณแม่สามีจึงต้องปฏิบัติตาม ตอนนั้นเธอจำได้ว่าแม่สามีเล่าว่าในตระกูลซูเมื่อครั้งในอดีต มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อแซ่เดียวกับบุตรสาวของเธอ และยังมีนิสัยคล้ายกับซูลี่หยางในปัจจุบันอีกด้วย
คำสั่งนี้ส่งต่อมาจากบรรพบุรุษ ทำให้พวกลูกหลานต้องจดจำไว้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามลูกหลานที่มีชื่อเหมือนย่าทวดคนนี้ให้มอบแหวนโบราณนี้ในวัยที่ยี่สิบห้าปีบริบูรณ์
เลี่ยงหรูหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมาพร้อมสวมใส่นิ้วกลางข้างซ้ายให้กับลูกสาว ซึ่งใส่ได้อย่างพอดีราวกับว่าแหวนวงนี้สร้างมาเพื่อซูลี่หยางอย่างไรอย่างนั้น และตอนนี้เธอรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
“แหวนโบราณวงนี้เก็บมาหลายชั่วอายุคนแล้ว แม้มันจะไม่มีค่าอะไรแต่แม่ก็อยากให้ลูกเก็บเอาไว้”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ หนูจะเก็บเอาไว้อย่างดีค่ะ”
ซูลี่หยางตอบรับด้วยรอยยิ้ม ดวงตาคู่หงส์มองดูแหวนโบราณสีเงินที่มีสิบสองสัญลักษณ์อยู่รอบวงอย่างสนใจ ความรู้สึกของเธอตอนนี้ราวกับได้ของที่ควรเป็นของเธอกลับคืนมา
“เอาล่ะนอนเถอะ เดี๋ยวแม่จะไปนอนแล้ว”
เลี่ยงหรูบอกลูกสาวพร้อมลูบหัวเบา ๆ ก่อนจะโอบกอดเธอเอาไว้อีกครั้ง แม้ในใจจะรู้สึกมากมายแต่ก็ไม่อาจพูดออกมาได้ ได้แต่พูดในสิ่งที่ตนสามารถทำได้เท่านั้น
“ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน จำไว้ว่าจงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
เลี่ยงหรูเอ่ยบอกก่อนจะออกจากห้องไป และไม่ลืมที่จะปิดประตูให้ลูกสาวไปด้วย เธอหยุดที่หน้าห้องของลี่หยางแล้วยกมือลูบหน้าอกแผ่วเบา เธอรู้สึกใจหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขอให้อย่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย แต่เมื่อนึกถึงคำพูดที่ส่งต่อกันมาก็ได้แต่หลับตาและทำใจเท่านั้น
ซูลี่หยางเงยหน้ามองมารดาอย่างสับสน วันนี้คุณแม่มีท่าทางและคำพูดแปลก ๆ แต่ไม่รู้ว่าแปลกที่ตรงไหน ก่อนจะสลัดความคิดของตัวเองออกแล้วก้มมองสำรวจแหวนโบราณอีกครั้ง
มือขวาลูบสิบสองสัญลักษณ์อย่างสนใจ แหวนโบราณนี่ยิ่งมองยิ่งรู้สึกชอบจนละสายตาไม่ได้ แม้จะดูไม่สวยหรูเหมือนแหวนเพชรแต่เธอก็ไม่อยากถอดออกเลย
“เอ๊ะ หายไปไหน!”
ซูลี่หยางอุทานอย่างตกใจ เมื่อนิ้วเธอบาดกับขอบแหวนอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ทำให้เธอตกใจเพราะเลือดที่หยดออกมามันหายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อลองพยายามถอดแหวนออกมาดูกลับไม่สามารถถอดออกได้
“หรือว่าตาฝาด”
ซูลี่หยางพึมพำกับตัวเองอย่างสับสน ทว่าเธอยังไม่ทันได้ทำอะไรร่างทั้งร่างเธอก็หายไปจากที่นอนทันทีอย่างน่าตกใจ ดวงตาคู่หงส์เวลานี้เบิกกว้างอย่างตกใจ มองรอบกายด้วยความหวาดหวั่น
