ตอนที่ 12 ไม่ชอบเธอ
เนื้อนวลหันกลับมา เขารีบหยิบผ้าห่มขึ้นมาปิดบังส่วนนั้นไว้ทันควัน
“ฉันจะเช็ดทำความสะอาดให้ค่ะ”
“ไม่ต้อง ฉันจะทำเอง เอาน้ำอุ่นมาให้ฉันก็พอ แล้วก็เอาผ้าอ้อมออกไปทิ้งให้ฉันด้วย”
“ค่ะ”
เนื้อนวลวางชามน้ำอุ่นสองชามกับผ้านุ่มไว้ข้างมือซ้ายของเขา จากนั้นก็เดินเอากางเกงผ้าอ้อมออกไปทิ้งในถุงขยะที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับเขาคนเดียวนอกบ้าน
สุรเชษฐ์หยิบทิชชูด้วยมือข้างซ้ายแล้วเช็ดทำความสะอาดตัวเองอย่างลำบาก วันนี้ถึงจะสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้างก็ต้องทนไปก่อน ขั้นตอนต่อไปก็เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นผสมสบู่ ตบท้ายด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
อา! แค่เช็ดก้นแต่เหนื่อยเหมือนวิ่งร้อยเมตรอย่างไรอย่างนั้น เล่นเอาเหงื่อซึมไปเลย เช็ดเสร็จก็เอาผ้าห่มปิดไว้ดังเดิม
เกือบสิบนาทีเนื้อนวลจึงเดินเข้ามา
เธอยกขาเขาขึ้นทีละข้างแล้วสอดสวมกางเกงผ้าอ้อมเข้าไป พอถึงช่วงต้นขาเธอก็ให้เขาทำต่อเอง สิบนาทีเข้าไปแล้ว แต่เขาก็ยังส่งเสียงฮึดฮัดเหมือนมันยากเย็นเหลือเกิน
“เสร็จหรือยังคะ”
“เหลือข้างขวา เธอช่วยหน่อยได้ไหม ฉันหมดแรงแล้ว” สุรเชษฐ์พูดอย่างสิ้นหวัง
เนื้อนวลผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ หันมามองแล้วเดินเข้าไปใกล้ เขายังใช้ผ้าปิดสะโพกฝั่งขวาไว้จนมิด
“ไม่ต้องเอาผ้าออกนะ”
“ค่ะ” เอาที่เขาสบายใจ เธอเห็นหมดแล้วเถอะ จะมาหวงอะไรตอนนี้ เธอไม่มีทางเล่าให้เขาฟังหรอกว่าตอนนี้ภาพหนอนชาเขียวตัวเขื่องของเขายังติดตาและตามไปหลอกหลอนเธอทุกที่จนเอาออกจากหัวไม่ได้อีกแล้ว แปลกใจกับตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องมาจำเฉพาะของเขาด้วย คนไข้คนอื่นที่เคยดูแลมาเธอไม่เห็นอยากจำ บ้าฉิบ!
ช่วยเขาเปลี่ยนผ้าอ้อมเสร็จเนื้อนวลจึงป้อนข้าวเขาต่อ และไม่ลืมที่จะเทน้ำจากบ่อน้ำวิเศษนั้นให้เขาดื่มด้วย
ทานข้าวเสร็จก็ให้เขานั่งพัก รอสักหน่อยค่อยป้อนยาหลังอาหาร
เนื้อนวลเดินออกจากห้องไปเก็บผ้าที่ซักไว้เมื่อวานมารีด และพับเก็บให้เรียบร้อย
การที่คนตัวเล็กเดินไปเดินมาภายในห้อง หลายครั้งที่เฉียดกายเข้าไปใกล้เขามันทำให้เขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เปลี่ยนไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง ถ้าเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ดูดีมากกว่านี้ผู้หญิงคนนี้ก็คงน่ามองไม่น้อย แม้ผิวกายเธอจะไม่ขาวผ่องก็ตาม
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นพร้อมกับร่างลูกสาวตัวน้อยวิ่งเข้ามา สุรเชษฐ์จึงละสายตาจากเนื้อนวลแล้วหันไปมองเธอ วันนี้เป็นวันหยุดวนิดาจึงไม่ได้ไปโรงเรียน
“คุณพ่อคะ คุณพ่อกินข้าวหรือยังคะ” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถาม คนตัวเล็กก็ปีนขึ้นไปบนเตียงพ่อแล้วกอดคอหอมแก้มพ่อหนึ่งฟอด
“กินแล้วจ้ะ” สุรเชษฐ์ก็หอมลูกเช่นกัน นิ้วเรียวเกี่ยวผมยาวของลูกสาวทัดไว้ที่ใบหูอย่างเอาใจ เนื้อนวลเผลอมองตามด้วยความเอ็นดู
“วันนี้เป็นวันหยุด แก้มขอมาเล่นกับคุณพ่อนะคะ” วนิดาบอกพ่อแล้วหันไปมองเนื้อนวลที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยสายตาหวาดระแวง อีกทั้งมือทั้งสองข้างยังขยุ้มเสื้อพ่อแน่น
สุรเชษฐ์เห็นท่าทางหวาดกลัวของลูกจึงเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไรหรอก พี่นวลไม่ทำอะไรแก้มหรอก” วนิดาไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า ยิ่งเป็นผู้หญิงเธอก็ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะแต่เล็กแต่น้อยเธอโดนแม่ตีตลอด วนิดาจึงกลายเป็นเด็กที่ไม่กล้าเข้าหาผู้ใหญ่ที่เป็นผู้หญิง
“แก้มไปเล่นข้างนอกกับพี่นวลไหมคะ คุณพ่อจะได้พักผ่อน” เนื้อนวลถามเสียงเรียบใบหน้าก็นิ่งเช่นกัน
วนิดาส่ายหน้าพรืดแทนคำตอบ มือยังวางที่อกพ่อ สุรเชษฐ์กอดเธอไว้หลวม ๆ
“ไม่เป็นไรนวล อีกสักพักค่อยนอนก็ได้” เขายังอยากอยู่กับลูกสักพัก ยังไม่อยากนอนตอนนี้
“ค่ะ”
พวงแก้วที่เดินผ่านหน้าประตูห้องที่ไม่ได้ล็อกส่งเสียงลอดผ่านเข้ามา “ไม่มีอะไรทำแล้วก็มาช่วยฉันข้างนอกนี่”
เนื้อนวลหันไปสบตากับสุรเชษฐ์ก่อนเขาจะพยักพเยิดหน้าเชิงอนุญาต
“อีกสักสองชั่วโมงฉันจะเข้ามาพลิกตัวให้นะคะ ตอนเย็นค่อยเช็ดตัวทีเดียว”
“อืม”
วนิดามองตามเนื้อนวลอย่างไม่ชอบใจนัก พอเนื้อนวลปิดประตูลงวนิดาก็พูดขึ้น “หนูไม่ค่อยชอบพี่นวลเลยค่ะ”
“ทำไมเหรอลูก”
“พี่นวลชอบทำหน้าบึ้งค่ะ พี่นวลน่ากลัว” เนื้อนวลชอบทำหน้าบึ้งเหมือนแม่ของเธอ
“พี่นวลไม่มีอะไรหรอก แค่พี่เขาเป็นคนไม่ชอบยิ้มก็แค่นั้น” สุรเชษฐ์บอกลูก อย่าว่าแต่ลูกเลยที่กลัวเนื้อนวล ตัวเขาเองยังเดาใจเธอไม่ได้ว่าแต่ละวันเธอจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เขาหรือเปล่า
หลังทุกคนในบ้านรับประทานอาหารเช้าเสร็จสุรศักดิ์กับภรรยาก็พาภูริศกับวนิดาออกไปเที่ยวสวนสัตว์ข้างนอก น้ำอ้อยรดน้ำผักเสร็จก็ถอนหญ้าผักและพรวนดินต่อ ส่วนน้ำขิงนั้นยังง่วนอยู่กับการทำงานบ้าน ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้าของทุกคนภายในบ้าน เนื้อนวลยังช่วยพวงแก้วกรอกผักดองใส่ถุงไม่เสร็จ กรอกผักดองเสร็จยังเหลือพริก มะเขือรอคิวอยู่อีก
ช่วงบ่ายใกล้เวลาที่จะไปตลาดน้ำขิงเดินตัวงอมาหาพวงแก้ว สีหน้าเธอไม่ค่อยดีนัก
“คุณนายคะ วันนี้ให้นวลไปตลาดแทนฉันได้ไหมคะ พอดีวันนี้ฉันปวดท้องประจำเดือนน่ะค่ะ” น้ำขิงบอกคุณนายเสียงอ่อย
เนื้อนวลเหลือบมองหน้าของน้ำขิงแวบหนึ่ง วันนี้เธอจะมาไม้ไหนอีก
“อือ” พวงแก้วตอบสั้น ๆ เพราะใครไปก็คงเหมือนกัน
“แล้วใครจะดูแลคุณเชษฐ์แทนนวลล่ะคะ” เนื้อนวลถามออกไป
“ให้คุณแม่ทำแทนก็ได้ค่ะคุณนาย” น้ำขิงชิงพูดขึ้นเพราะเธอไม่อยากเข้าไปรับใช้ผู้ชายอย่างสุรเชษฐ์อีก ใบหน้าก็หล่ออยู่หรอก แต่นิสัยเขวี้ยงปาข้าวของแบบนั้นเธอไม่อยากเข้าใกล้
“เออ ๆ ไม่อ้อยก็แกนั่นแหละยัยขิง”
“แต่นวลอยู่ที่นี่ตลอดเวลายังไงก็มาดูแลทันอยู่ดีค่ะ ไปตลาดไม่ได้กลับมืดสักหน่อย” น้ำขิงรู้ว่าพวงแก้วเป็นคนขี้งกไม่ยอมปล่อยให้ใครสบายง่าย ๆ เธอจึงพูดออกไปอย่างนั้นเพราะอยากให้พวงแก้วใช้งานเนื้อนวลจนมืดค่ำ
“อือ แกจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ให้นวลมันไปนั่นแหละ เรื่องตาเชษฐ์แกบอกอ้อยไว้ด้วยล่ะ”
“ค่ะ”
น้ำขิงรับคำแล้วหันหน้ามาเบะปากใส่เนื้อนวล แล้วเดินส่ายตูดกลับไปทำงานบ้านต่อ และดูท่าเหมือนเธอจะหายปวดท้องแล้วด้วย
ดีเหมือนกันจะได้ไปเที่ยวตลาด ยังไม่เคยเห็นตลาดสักที เนื้อนวลคิดในใจ
“นั่งรถอะไรไปคะคุณนาย”
“รถสองแถว”
“ค่ะ”
ตอนอยู่ในยุคปัจจุบันเธอก็อาศัยรถสองแถวในการเดินทางประจำ คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
