บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 มีอะไรอยู่ในนั้น

“ก็เรื่อง…เอ่อเรื่อง…” สุรเชษฐ์ไม่รู้จะบอกเธออย่างไรดีได้แต่ทำท่าทีกระอักกระอ่วนใจ

เนื้อนวลมองหน้าเขาก็รู้ได้ในทันที “อ้อ…เรื่องเช็ด…”

“ไม่ต้องพูด!” ปากที่อ้ากำลังจะพูดก็ต้องอ้าค้างไว้ก่อน สุรเชษฐ์จะไม่ยอมให้คำนั้นหลุดออกมาจากปากของเธออย่างแน่นอน

“แล้วใช่เรื่องนั้นไหมล่ะคะ”

“อือ” เขาครางอือในลำคอเบา ๆ ทำหน้าทำตาไม่ถูก คิดมาแล้วมันอายว่ะ ไม่รู้ปล่อยให้เธอทำไปได้ยังไง

เนื้อนวลแอบยิ้มในใจ ที่แท้เขาก็มัวแต่หมกมุ่นในเรื่องที่เธอเช็ดตัวให้เขา เนื้อนวลอยากจะบอกเขาจริง ๆ ว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนดูแลผู้ป่วยอย่างเธอมากถึงมากที่สุด เธอก็แค่เห็น…เห็นหนอนอ้วนตัวเขียวบนต้นดอกพุดอยู่บนตัวเขาก็เท่านั้น เธอจะไปเล่าให้คนอื่นฟังทำไม ใคร ๆ เขาก็คงรู้กันหมดแล้วว่าหน้าตามันเป็นยังไง

“คุณเชษฐ์ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันไม่ใช่พวกชอบนินทาเจ้านาย” พูดแล้วเนื้อนวลก็ห่มผ้าแพรสีแดงผืนใหม่ให้เขา “แล้วตอนดึกคุณเชษฐ์ต้องให้ฉันมาพลิกตัวให้ไหมคะ”

“ไม่ต้อง ฉันทำเองได้ เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ ฉันง่วงแล้ว” เขาทำเองได้ แต่ก็ทำแบบทุลักทุเล แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ชอบให้ใครเข้ามาในห้องตอนที่เขาหลับไปแล้ว

“ค่ะ”

เนื้อนวลกำลังจะก้าวขาออกจากห้อง เด็กหญิงตัวน้อยก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาพร้อมเอ่ยเสียงเล็กแหลม มุ่งไปที่เตียงของผู้เป็นพ่อ

“คุณพ่อขา”

“แก้มยังไม่นอนอีกเหรอลูก” น้ำเสียงเขาอ่อนโยนขึ้นเมื่อพูดกับลูกสาว ไม่นานน้องชายคนรองก็เดินตามหลานเข้ามา

“แก้มคิดถึงพ่อค่ะ” วนิดาปีนขึ้นไปบนเตียงพ่อฝั่งซ้ายแล้วนอนลงกอดพ่อเบา ๆ สุรเชษฐ์เอามือลูบศีรษะลูกด้วยความรักใคร่ เนื้อนวลมองตามด้วยความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก เธอน่าสงสาร แต่ถึงวนิดาจะกำพร้าแม่แต่เธอก็ยังมีอีกหลายคนที่คอยซัพพอร์ต ไม่ได้ลำบากสู้มาเพียงลำพังเหมือนเด็กอีกหลายคน ไม่ได้ลำบากเท่ากับเนื้อนวลและน้องชาย

วาสนาคงต่างกันสินะ

“บอกอยากนอนกับพี่” สุรศักดิ์เดินเข้ามาหย่อนกายลงนั่งตรงปลายเตียงของพี่ชาย

“ขอบคุณคุณศักดิ์มากนะคะที่ช่วยนวล” เนื้อนวลพูดด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจที่เขาไม่รังเกียจคนจนอย่างเธอ เขาช่วยเธอเข็นน้ำและช่วยอุ้มเธอเข้าไปนอนในห้องด้วย

“ไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อย นวลไปพักผ่อนเถอะ ยังไม่หายป่วยดีไม่ใช่เหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ค่ะ” กล่าวจบเนื้อนวลก็เดินออกจากห้องไป ปิดประตูห้องให้อย่างเบามือ

พ้นร่างเนื้อนวลไปแล้วสุรเชษฐ์จึงถามขึ้น “ไปอุ้มเด็กนั่นด้วยเหรอ” เธอป่วยหนักจนถึงขั้นต้องอุ้มกันเลยหรือไง แล้วเธอเอาแรงมาจากไหนมาจับเขาพลิกกาย

“เออดิ เป็นไข้จนเป็นลม ตัวก็ร้อนจี๋” สุรเชษฐ์ได้ฟังก็นิ่งไป รู้สึกผิดนิดหนึ่งที่โวยวายลั่นบ้านตอนเรียกหาเธอไม่เจอ เห็นพี่ชายเงียบไปเขาจึงถามต่อ “ได้ยินข่าวว่าพี่ยอมให้เช็ดตัวแล้วเหรอ” แม้แต่คนรับใช้ผู้ชายยังยากที่จะมีใครทำหน้าที่นี้ได้ เหตุใดครั้งนี้พี่ชายเขาจึงยอมง่าย ๆ

“ใครบอก?” สุรเชษฐ์เหล่ตาข้างหนึ่งมองน้องชาย

“คุณแม่”

“ก็แค่เช็ดแขนขา จะตื่นเต้นทำไม” สุรเชษฐ์ว่าไม่เต็มเสียงนัก แถมยังไม่กล้าสบตาน้องชายที่อายุห่างเขาเกือบห้าปีด้วย ใครจะไปกล้าเล่าให้มันฟังละว่าการเช็ดตัววันนี้เหมือนเขาเสียตัวให้สาวใช้ที่ชื่อเนื้อนวลนั้นไปแล้ว ผู้หญิงอะไรใจกล้าบ้าบิ่นชะมัด คิดมาแล้วก็อยากจะร้องไห้ เรื่องนี้เขาจะให้ใครรู้ไม่ได้ หากมีใครรู้เขาต้องได้ไปสู่ขอเจ้าหล่อนแน่

“เดี๋ยวอย่างอื่นก็เน่ากันพอดี” น้องชายยังเย้าต่อ

“ช่างมันปะไร ไม่ได้ใช้งานสักหน่อย” และคงไม่ได้ใช้ตลอดชีวิต สุรเชษฐ์พูดเหมือนไม่ไยดีกับชีวิตตัวเองอีกแล้ว

“พี่ก็เป็นซะอย่างนี้” ยิ่งป่วยก็ยิ่งไม่รักษาความสะอาด ใจหดหู่กายก็หดหู่ตาม

“ช่างฉันเถอะน่า” ไม่อยากบอกมันเลยว่าวันนี้เขาตัวสะอาดที่สุดในรอบสองปี

“ให้ผมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ไหม” สุรศักดิ์พูดพลางเตรียมถอดกางเกงพี่ชายเหมือนเช่นทุกครั้ง

แต่สุรเชษฐ์ยกมือซ้ายขึ้นปรามไว้ก่อน ซ้ำตัวเขายังเกร็งเหมือนอยากกระเถิบหนี “มะ ไม่ต้อง ฉันเปลี่ยนเองแล้ว”

“จริง?”

“อือ ฉันให้นวลช่วยสวมใส่ขาทั้งสองข้าง แล้วฉันก็ดึงขึ้นเอง”

“อ้อ…เก่งแล้วนี่” สุรศักดิ์โคลงศีรษะเล็กน้อย นึกภาพตอนพี่ชายเปลี่ยนกางเกงผ้าอ้อมออกว่าเขาต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะตอนที่เขาช่วยพี่ชายก็ทำบ่อย ผู้ชายด้วยกันไม่รู้จะหวงอะไรนักหนา ยิ่งเป็นคนใช้ผู้หญิงอย่างเนื้อนวลยิ่งไม่ต้องพูดถึง พี่ชายเขาไม่ยอมให้เข้าใกล้ส่วนนั้นเป็นอันขาด

“อืม” เขาสวมเองตามที่บอกน้องได้ แต่ต้องใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงกว่าจะเสร็จ และก็ต้องเสียแรงไปมากทีเดียวเลยละ

สองพี่น้องมัวแต่คุยกันจนไม่รู้ว่าวนิดาเด็กสาวตากลมนอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไร เห็นดังนั้นสุรศักดิ์จึงอุ้มหลานสาวขึ้นเตรียมกลับไปนอนยังห้องพ่อกับแม่ ก่อนลูกสาวจะออกไปเขาก้มลงหอมแก้มนุ่มของเธอด้วยความรักหนึ่งที

เนื้อนวลที่เข้ามาแย่งห้องเก็บของแคบ ๆ นอน มาถึงก็กางมุ้งที่มีรอยขาดจนสามารถยัดกำปั้นเข้าไปได้ แล้วแบบนี้จะกันอะไรได้ ไม่ใช่แค่ยุงที่เข้าได้ รูเท่านี้หมากับแมวก็เข้าได้เช่นกัน ก่อนเดินเข้ามาในห้องสายตาเหลือบมองนาฬิกาข้างผนังเห็นว่าเกือบสองทุ่มครึ่ง ป่านนี้พวงแก้วคงทำผักดองเสร็จไปแล้ว ร่างกายอ่อนเพลียจนอยากจะหลับคาห้องเจ้านายที่อยู่ติดกับห้องเธอทางปีกตะวันออกของบ้านแต่ห้องเขาอยู่ตรงหัวมุมพอดี

แต่ด้วยความอยากรู้เธอจึงหยิบสร้อยคอขึ้นมาแล้วค่อย ๆ แกะออก อยากรู้ว่ามีรูปใครซ่อนไว้ในล็อกเก็ตสีเงินนั้น

ทันใดนั้นดวงตากลมก็เบิกกว้างขึ้น แสงสีทองทอประกายออกมาจากประตูบานกว้าง เบื้องหน้าของเธอกลายเป็นร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ มันเป็นเหมือนมิติอีกมิติหนึ่งที่เธอสามารถเดินเข้าไปหยิบเอาของกินของใช้ในร้านนั้นมาได้ทุกอย่าง ข้างร้านสะดวกซื้อยังมีบ่อน้ำที่เป็นหินอ่อนสีขาวอีกหนึ่งบ่อ เส้นผ่านศูนย์กลางน่าจะกว้างแค่ศอกเดียว มีน้ำปริ่มอยู่ขอบบ่อจนสามารถใช้มือเอื้อมตักได้ น้ำในบ่อใสจนสามารถใช้แทนกระจกได้ ไม่น่าเชื่อว่าสร้อยคอเก่า ๆ จะมีของวิเศษซ่อนอยู่ในนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel