บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เรื่องราวของเจ้าของร่าง

ตอนที่ 2

เรื่องราวของเจ้าของร่าง

มณฑลต้าชิงยุค (1960-1970)

“ฮึก ๆ”

ร่างกายเปลือยเปล่านั่งซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงหน้าเรียวงามอาบไปด้วยคราบน้ำตา ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยริ้วรอยแดง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่น่ามอง

“จะร้องไห้สะอึกสะอื้นทำไม ทำยังกับไม่เคย...น่ารำคาญชะมัด”

ชายฉกรรจ์วัยสามสิบเจ็ดปี ยืนอยู่ข้างเตียง กำลังจัดการสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เห็นคนบนเตียงเอาแต่ร้องสะอึกสะอื้น จึงตวาดเสียงดังออกมาด้วยความรำคาญใจ

“ฉัน...ฉันจะบอกแม่ ว่าคุณข่มขืนฉัน”

‘เหยียนอี้หลาน’ ทนความอัปยศอดสูไม่ได้อีกต่อไป นี้เป็นหนที่สองแล้ว ที่เธอถูกพ่อเลี้ยงข่มเหง ครั้งแรกเป็นเมื่อสองเดือนก่อน เธอก็สู้ทนเก็บเงียบ เพราะไม่อยากให้มารดาเสียใจ กระทั่งวันนี้แม่กับน้องสาวของเธอไม่อยู่บ้าน พ่อเลี้ยงก็ใช้โอกาสนี้เข้ามารังแกเธออีก

“เอาสิ ฟ้องเลย แล้วเรามาดูกัน ว่าแม่ของเธอจะทำอะไรฉันได้”

‘ฟางหยุนเทียน’ อาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย กล่าวท้าทายลูกเลี้ยงคนสวยของเขาอย่างไม่เกรงกลัว เพราะต่อให้แม่ของหญิงสาวจะรู้ ก็ไม่ทำอะไรเขาหรอก ขนาดลูกสาวคนเล็กของหล่อน เขาก็มีอะไรด้วยจนนับครั้งไม่ถ้วน ภรรยาของเขาก็รู้ดี แต่นอกจากจะไม่ว่าอะไรแล้ว ยังยอมหลีกทางให้อีก

“ฉัน...ฉันบอกแน่ คอยดูนะ แม่จะต้องแจ้งความเอาคุณเข้าคุกแน่นอน”

อี้หลาน ไม่แน่ใจในสิ่งที่พูดนัก เพราะว่ามารดารักผู้ชายเลวทรามคนนี้เสียเหลือเกิน นับตั้งแต่บิดาแท้ ๆ มาด่วนจากไป มารดาของเธอก็แต่งงานใหม่กับเศรษฐีหนุ่ม และพาเธอกับน้องสาว ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่

ตอนแรก พ่อเลี้ยงก็ทำตัวเป็นพ่อใหม่ที่ดีอยู่หรอก มักซื้อของให้เธอกับน้องสาวเสมอ จนกระทั่งสองเดือนก่อน มารดาไปนอนค้างบ้านเพื่อน พ่อเลี้ยงก็ออกลาย บุกเข้ามาข่มขืนเธอจนสำเร็จ แต่ครั้งนั้นเธอไม่ได้บอกใคร เพราะคิดว่าที่พ่อเลี้ยงทำไป คงเพราะเมาขาดสติ และไม่อยากให้มารดาต้องคิดมาก แต่ครั้งนี้ที่ถูกกระทำอีก เธอจะไม่ยอมปิดปากเงียบอีกแล้ว

ฟางหยุนเทียน ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ถ้าหากเหม่ยหรงเอาเรื่องเขา เขาก็จะเฉดสามคนแม่ลูกนี้ออกจากบ้านไป คอยดูสิว่าผู้หญิงสามคนที่ไม่มีเงินติดตัว จะเอาชีวิตรอดได้ยังไง

“อยากทำอะไรก็เชิญ คิดดูดี ๆ น่ะ อี้หลาน ถ้าอยากมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ต่อไปก็ทำตัวดี ๆ ยอมเข้าหาปรนนิบัติฉัน แค่นี้ชีวิตเธอกับแม่และน้องของเธอก็สบายแล้ว ฮ่า ๆ”

ชายวัยสามสิบเปล่งเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับเดินออกจากห้องนอนของลูกเลี้ยงไปอย่างสบายตัว

“ฮือ ๆ”

เหยียนอี้หลาน กอดเข่าก้มหน้าร้องไห้อยู่แบบนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากชั้นล่างของบ้าน ถึงได้รีบลุกออกจากเตียง สวมใส่เสื้อผ้า แล้ววิ่งออกจากห้องลงบันไดไปหามารดาทันที

“แกลงมาพอดี ไปเอาน้ำมาให้ฉันหน่อย คอแห้งไปหมดแล้วเนี่ย”

‘ซูเหม่ยหรง’ วางถุงหลายใบลงบนโต๊ะ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา รู้สึกหมดแรงจากการเดินซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่สามีใจดีให้เงินเธอกับลูกสาวคนเล็กออกไปซื้อ

อี้หลาน ไม่ได้ไปหยิบน้ำตามที่มารดาสั่ง แต่ยืนนิ่งมือจับกระโปรงเอาไว้แน่น สายตาจับจ้องใบหน้าของหญิงวัยกลางคนตลอดเวลา

“เอ๊ะ นังลูกคนนี้ ฉันบอกให้แกไปเอาน้ำมา หูหนวกหรือไง”

ซูเหม่ยหรง ขึ้นเสียงใส่ลูกสาวคนโต ที่มักทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเธอเลย ไม่เหมือนกับลูกสาวคนเล็ก ที่สั่งอะไรก็ได้อย่างนั้น

“แม่ ฉันมีอะไรจะบอก”

แม้รู้สึกใจเสีย ที่มารดาตะคอกใส่ แต่อี้หลานก็พยายามรวบรวมกำลังใจ พูดในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้

“มีอะไร เอาไว้วันหลังไม่ได้หรือไง คนยิ่งเหนื่อย ๆ อยู่ คอแห้ง น้ำก็ไม่ได้กิน”

เหม่ยหรงนึกรำคาญ เมื่อใช้ลูกสาวคนโต แล้วไม่ได้ดั่งใจ ก็หันมากล่าวเสียงหวานกับลูกสาวคนเล็กแทน

“ซูหนิง ลูกไปเอาน้ำมาให้แม่กินหน่อยสิ ใช้พี่ของลูกก็ไม่ได้เรื่อง”

“ได้ค่ะแม่”

‘เหยียนซูหนิง’ รับคำมารดา วางเสื้อผ้าชุดใหม่ที่หยิบออกจากถุงมาดูเอาไว้ก่อน รีบวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อหยิบน้ำมาให้ตามที่มารดาสั่ง

เหยียนอี้หลาน ใช้โอกาสที่มารดาเงียบนี้ บอกเล่าเรื่องของเธอกับพ่อเลี้ยงออกมาจนหมดเปลือก

“แม่คะ ฉันถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนมาสองครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อสองเดือนก่อน แล้วก็วันนี้ที่แม่ไม่อยู่อีก แม่ต้องพาฉันไปแจ้งความ จับพ่อเลี้ยงเข้าคุกนะคะ”

พูดความจริงออกไปแล้ว หญิงสาวก็คาดว่า จะได้เห็นมารดาโกรธในสิ่งที่พ่อเลี้ยงทำกับเธอ แล้วเข้ามาพูดจาปลอบใจเธอ เปล่าเลย มารดากลับทำในสิ่งที่เธอไม่คาดคิด

...เพียะ...

ใบหน้างามหันไปตามแรงฟาดของฝ่ามือ มือเรียวรีบยกขึ้นมากุมแก้มข้างที่ถูกตบเอาไว้ ดวงตาหงส์รื้นไปด้วยหยดน้ำใส

“แม่ตบหน้าฉันทำไม”

อี้หลานถามมารดาเสียงสั่น ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงถูกตบหน้า ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด

“แจ้งความหรือ สมองแกคิดได้ยังไง ให้ฉันแจ้งความจับคนที่ให้เงินฉันใช้ ให้ฉันได้อยู่อย่างสุขสบาย กะอีแค่นอนกับผู้ชายแค่นี้ แกอย่าสะดีดสะดิ้งไปนักเลย”

ซูเหม่ยหรง ใช้นิ้วชี้จิ้มศีรษะของลูกสาวคนโตอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้กับความคิดโง่ ๆ ที่เธอกับลูกมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ไม่ใช่เพราะเงินของสามีใหม่หรอกหรือ เธอไม่โง่พอที่จะเล่นงานเขา แล้วถูกเฉดหัวออกจากบ้าน กลับไปใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เหมือนตอนอยู่กับสามีเก่าหรอกนะ ไม่มีวัน

“...”

อี้หลาน พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงจะรู้ใจมารดาของเธอมากกว่าเธอที่เป็นลูกเสียอีก คนเลวนั้นรู้ดีว่ามารดาขาดเงินไม่ได้ ถึงกล้าทำเรื่องบัดสีกับเธอเช่นนี้

“ฮึก ๆ”

หยดน้ำตาที่พึ่งจะหาย ไหลรินออกมาอีกรอบ พร้อมกับเสียงสะอื้น ที่เล็ดลอดออกจากริมฝีปาก เป็นความเสียใจ ความผิดหวัง ในตัวของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแม่

น้ำตาของหญิงสาว ยิ่งไปกระตุ้นให้หญิงวัยกลางคนโมโหมากขึ้นกว่าเดิมอีก

“โอ๊ย อะไรนักหนา เสียตัวแค่นี้มันไม่ตายหรอก ดูอย่างน้องสาวแกสิ มีอะไรกับพ่อเลี้ยงไม่รู้กี่ครั้ง ยังไม่เห็นร้องไห้คร่ำครวญเหมือนแกเลย

แกก็ทำตัวเหมือนน้องสาวแกสิ เข้าไปออดอ้อนเอาใจ ช่วยกันปรนนิบัติ แค่นี้สมบัติของตระกูลฟางก็ไม่ไปไหนแล้ว”

“ใช่แล้ว คุณแม่พูดถูกค่ะ”

เหยียนซูหนิง เดินถือแก้วน้ำออกมาจากห้องครัว ได้ยินเสียงตะคอกของมารดาพอดี เลยรีบกล่าวเออออสมทบขึ้นมา

ดวงตาของอี้หลานเบิกกว้าง เมื่อได้ยินว่าน้องสาวเองก็ถูกพ่อเลี้ยงเลวนั้นข่มขืนเช่นกัน มารดาเองก็รู้ แต่ไม่คิดจะจัดการอะไร หนำซ้ำยังเห็นดีให้ลูกสาวใช้สามีร่วมกันอีก

ก้อนหนักอึ้งจุกขึ้นมาในอก จนทำให้ลมหายใจของหญิงสาวเริ่มติดขัด หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง ก่อนที่ร่างกายนั้นจะทรุดลงหมดสติกองอยู่แทบเท้าของมารดา...

เหยียนอี้หลาน ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาล หมอทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ในที่สุดก็ออกมาแจ้งให้กับญาติได้รับทราบว่า หญิงสาวที่หมดสติมา กำลังตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว

“ลูก ฉันกำลังจะมีลูกหรือ”

ฟางหยุนเทียน พึมพำกับตัวเอง ไม่อาจปกปิดอาการดีใจเอาไว้ได้ ในที่สุดเขาก็จะมีทายาทที่เป็นสายเลือดของเขาเองเสียที หลังจากที่อยู่กินกับแม่หม้ายลูกติดมาหลายปี ภรรยาก็ไม่มีบุตรให้เขาได้เสียที ใครจะไปนึกว่า ได้กับลูกเลี้ยงครั้งแรกเมื่อสองเดือนก่อน หญิงสาวจะตั้งท้องขึ้นมา

ทางด้านซูเหม่ยหรงกับบุตรสาวคนเล็ก ต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอเองแม้จะยอมให้บุตรสาวใช้สามีคนเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้อยากให้บุตรสาวตั้งครรภ์ แบบนี้สามีเศรษฐีของเธอ จะไม่หันไปรักบุตรสาวคนโตมากกว่าเธอหรอกหรือ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel