
บทย่อ
มิริน หญิงสาวที่ต้องตายด้วยฝีมือพ่อเลี้ยง ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ย้อนอดีตไปอยู่ในจีนยุค 60 หนำซ้ำยังต้องมาพานพบกับพ่อเลี้ยงชั่วเหมือนกันอีก จนต้องหนีไปอยู่ในชนบทอันห่างไกล แต่ใครจะไปนึกว่า ในท้องของเธอ..
ตอนที่ 1 เรื่องราวของวิญญาณ
ตอนที่ 1
เรื่องราวของวิญญาณ
...ฉึกกะฉัก ๆ ...ปู๊น ๆ ...
เสียงของเครื่องจักรไอน้ำที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากหัวเมืองต้าชิง เคลื่อนไปตามรางรถไฟ เพื่อนำพาผู้โดยสารไปส่งตามหัวเมืองต่าง ๆ
ตลอดสองข้างทางยามนี้ เต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งนาเขียวขจี สร้างความสบายตาให้กับผู้คนที่มองลอดผ่านช่องหน้าต่าง ชื่นชมความงามของทิวทัศน์สองข้างทาง
แต่ไม่ใช่กับหญิงสาววัยสิบหกปีคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ติดกับหน้าต่าง เธอนั้นทอดสายตาเหม่อมองออกไปภายนอก แต่กลับไม่รับรู้ถึงความสวยงามของทิวทัศน์เลยแม้แต่น้อย
เพราะความคิดของหญิงสาว หมกมุ่นอยู่แต่กลับอดีตของตัวเอง และของเจ้าของร่างที่วิญญาณของเธอมาอาศัยอยู่
ใช่แล้ว...เธอกับร่างกายนี้ เป็นคนละคนกัน แต่มีเรื่องเหนือธรรมชาติเกิดขึ้น ทำให้วิญญาณยุค 2024 อย่างมิริน ต้องทะลุมิติกลับมาอยู่ในร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่อยู่ในประเทศจีนยุคสมัย 1960-1970 อันเป็นยุคที่ประชาชนใช้ชีวิตอย่างลำบากมากที่สุด
เดิมทีมิรินนั้น เป็นหญิงสาวชาวไทย อายุ25ปี เข้าสู่วัยเบญจเพสพอดี เธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบอาชีพทำไร่ ทำสวน ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของบิดาที่จากไปทิ้งเอาไว้ให้
ตั้งแต่บิดาจากไปเมื่อสามปีก่อน มารดาของมิรินก็แต่งงานใหม่กับชายหนุ่มซึ่งอายุน้อยกว่ามารดาเกือบสิบปี เรียกได้ว่า พ่อเลี้ยงของเธอแก่กว่าเธอเพียงสามถึงสี่ปีเท่านั้น
มิริน ไม่ชอบพ่อเลี้ยงของเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะสายตาของชายคนนั้น ยามจ้องมองเธอ ราวกับนักล่าผู้หิวกระหายจะล่าเหยื่อ เธอพยายามบอกเรื่องนี้กับมารดาก็หลายครั้ง...แต่คำตอบที่ได้รับ
“แกคิดมากไปเอง หลงตัวเองไปหน่อยละมั้ง คิดว่าตัวเองสวย จนใคร ๆ ต้องพากันคิดอกุศลกับแกหรือไง”
“แม่ ฉันไม่ได้คิดไปเอง เวลาแม่ไม่อยู่ หมอนั่นก็ชอบเข้ามาใกล้ หาเรื่องมาถูกตัวฉัน” มิรินพยายามบอกความจริงให้มารดาฟัง จวนเจียนจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ เพราะความดื้อรั้นของคนเป็นแม่
“พูดจาให้มันดี ๆ น่ะ หมอนั่นที่แกเรียก เขาก็ถือว่าเป็นพ่อแกนะโว้ย ไป ๆ ไปเข้าสวนของแกเถอะไป เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว” หญิงวัยกลางคนโบกมือไล่บุตรสาวอย่างนึกรำคาญใจ ก่อนจะเดินไปเข้าครัว ทำอาหารเช้าให้สามีเด็กกิน
มิริน จึงเลิกพูดเรื่องที่มารดาบอกว่าไร้สาระ หันมาระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น พยายามเลี่ยงที่จะอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยงสองต่อสองเวลาที่มารดาไม่อยู่ โดยการไปดูข้าวที่แปลงนาบ้าง เข้าสวนผัก สวนผลไม้บ้าง แต่ก็ไม่วายเกิดเรื่องจนได้
เช้ามืดวันหนึ่ง ที่หมู่บ้านมีคนตาย มารดาของเธอต้องไปเป็นแม่ครัวที่บ้านงาน เธอจึงเลือกที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาเดินดูแปลงนา เพราะไม่อยากอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยง ที่กำลังนอนหลับสนิทอย่างสบายอารมณ์
หลังจากเดินสำรวจ อุดรอยรั่วตามคันนาเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นมาเอนหลังพักอยู่บนกระท่อมหลังเล็ก ด้วยความที่ตื่นแต่เช้า หลับตาลงไม่นานเธอก็เผลอหลับไปในที่สุด
มารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่เหมือนมีมือของใคร มาลูบไล้ต้นขาของเธอเลื่อนระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ เปลือกตางอนเปิดขึ้นในทันที
จนได้เห็นมือของพ่อเลี้ยง กำลังเล่นปูไต่บนท่อนขาของเธอ มิรินรีบลุกขึ้นนั่ง ขยับถอยหลังหนีให้ห่างจากคนที่เธอคิดว่านอนหลับอยู่บ้าน
“แกมาที่นี่ได้ยังไง” เสียงห้วนตะคอกถาม
“แหม ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มานะสิถามได้ เพียงแต่พอใกล้มาถึงนาของเรา พี่ก็ดับเครื่อง น้องเลยไม่ได้ยินเสียงรถยังไงล่ะ”
ชด กวาดสายตามองรูปร่างสมส่วนของลูกเลี้ยง แม้จะสวมใส่เสื้อและกางเกงขายาวปิดบังเอาไว้ แต่เขาเคยเห็นตอนที่หญิงสาวเปียกฝนกลับบ้าน ตอนนั้นเอวเป็นเอว อกเป็นอก จนเขาเก็บเอาไปฝัน ฝันที่ทำให้กางเกงของเขานั้นเปียกชุ่ม นับแต่นั้นมา เขาก็ตั้งปณิธานในใจว่า จะลิ้มลองลูกเลี้ยงให้ได้สักครั้งหนึ่ง แล้วโอกาสก็มาถึง
“คงจะเหนื่อยมากสินะ ถึงมานอนหลับอยู่กระท่อมปลายนา เอ้...หรือว่า จะมานอนรอพี่กันแน่”
“พูดจาหมา ๆ”
มิรินด่าพ่อเลี้ยงแบบไม่เกรงใจ รีบขยับตัวจะลงจากกระท่อม เพื่อหนีให้พ้นจากสายตาโลมเลียนั้น แต่ว่ากลับมีมือหนาเอื้อมมาจับต้นแขน แล้วฉุดดึงให้ตัวเธอล้มลงไปกับพื้นกระท่อมเสียก่อน
“จะไปไหน หาความสุขด้วยกันก่อนสิ”
ชด นอกจากจะดึงร่างของลูกเลี้ยงล้มลงแล้ว ยังถือโอกาสนี้ ขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนร่างกายสมส่วน สองมือเอื้อมไปจับข้อมือที่เล็กกว่า แล้วตรึงเอาไว้อยู่เหนือศีรษะของหญิงสาว
“แกอย่าทำบ้า ๆ น่ะ ถ้าแม่รู้ แม่ไม่เอาแกเอาไว้แน่”
มิรินพยายามดิ้นให้หลุดเท่าไร ก็ไม่สามารถสู้แรงของฝ่ายชายได้ จึงยกมารดามาข่มขู่อีกฝ่าย แต่นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังได้รับเสียงหัวเราะเยาะกลับคืนมาอีก
“ฮ่า ๆ นังแก่หนังเหี่ยวนั่นนะหรือ จะเชื่อคำพูดของน้อง แค่พี่พูดไม่กี่คำ นังแก่นั่นก็เชื่อแล้วว่าพี่ถูกน้องล่อลวงมา”
ชด ไม่ได้เกรงกลัวว่าภรรยาแก่ของเขาจะรู้เรื่องเลวทรามที่เขาทำ เพราะว่าอีกฝ่ายหลงรักเขาจนหัวปักหัวปำ ดังนั้น วันนี้เขาจะต้องจัดการเอาลูกเลี้ยงมาเป็นเมียให้ได้
ใบหน้าของคนหื่นกาม โน้มลงไปสูดดมกลิ่นกายสาว ตามซอกคอ และจูบพรมไปทั่วใบหน้า แม้หญิงสาวจะพยายามเบือนหน้าหนี ก็ไม่เป็นอุปสรรค
“ปล่อยนะ ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ช่วยด้วย ๆ”
มิริน ทั้งตะโกนด่า ทั้งร้องขอความช่วยเหลือ พยายามดิ้นให้หลุดจากมือหนา ที่จับตรึงมือของเธอเอาไว้ แต่ก็ยังไม่เป็นผลอยู่ดี
ชด จึงใช้โอกาสที่คนใต้ร่างแหกปากร้อง ใช้ริมฝีปากของตัวเองเข้าไปประกบ แล้วสอดปลายลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานในโพรงปากนุ่ม
ความรังเกียจที่ถูกรุกล้ำ ทำให้มิรินพยายามเอาตัวรอดให้พ้นจากเงื้อมมือของพ่อเลี้ยงหื่นกามให้ได้ จึงตัดสินใจออกแรงกัดลิ้นที่แทรกเข้ามา
“โอ๊ย”
ความเจ็บทำให้ชดยอมถอนริมฝีปากออก ร้องโอดโอยจากความเจ็บที่ลิ้นถูกกัด และโทสะที่ก่อตัวขึ้น ทำให้เขาใช้สองมือเลื่อนเข้ามาบีบลำคอของตัวต้นเหตุที่ทำให้ลิ้นของเขาเกือบขาด
“มึงกล้ากัดลิ้นกูหรือ จะพาขึ้นสวรรค์ดี ๆ ไม่ชอบ ก็ไปลงนรกแทนเสียเถอะมึง”
“ปะ...ปล่อยหายใจไม่ออก”
สองมือเรียวยกขึ้นมาพยายามแกะมือที่กำลังบีบคอของตัวเองอยู่ออก ลมหายใจติดขัด สมองเริ่มขาวโพลน ดวงตาสองข้างพร่ามัว อีกไม่นานลมหายใจที่มีอยู่ก็จะหมดลง
ชดเองก็ถูกโทสะเข้าครอบงำ เกินกว่าจะหยุดยั้งในสิ่งที่ทำอยู่ ยังคงออกแรงบีบคอของหญิงสาวมากขึ้นกว่าเดิม
จนวินาทีสุดท้าย มิรินได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ ที่ตัดสินใจผิดพลาด เธอน่าจะไปหลบอยู่บ้านเพื่อนดีกว่า แต่เป็นเพราะเธอไม่คิดว่า พ่อเลี้ยงจะลงทุนยืมรถมอเตอร์ไซค์ของคนอื่นตามมาแบบนี้
สองมือที่จับดึงมือของคนชั่ว ตกลงพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับลมหายใจที่ถูกพรากออกจากกายหยาบก่อนเวลาอันควร
ชด เห็นคนที่ตัวเองบีบคออยู่ ตาเหลือกแข็งค้างแน่นิ่งไปแล้วก็ได้สติ รีบปล่อยมือออก แล้วเลื่อนตัวลงจากร่างของหญิงสาว
“กูไม่ได้ตั้งใจ กูไม่ได้ฆ่าคน ต้อง...ต้องทำลายหลักฐาน”
ชายหนุ่มลุกลี้ลุกลน รีบคิดหาวิธีจัดการกับร่างไร้วิญญาณ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นเชือกเส้นหนึ่ง จึงรีบลงจากกระท่อม เดินหาก้อนหินขนาดใหญ่พอสมควร จากนั้นก็มัดเชือกเข้ากับก้อนหิน ส่วนปลายเชือกอีกด้าน ก็มัดเข้ากับร่างของลูกเลี้ยง
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็โยนร่างไร้วิญญาณทิ้งลงไปในสระน้ำ ด้วยความที่มีก้อนหินใหญ่ถ่วงเอาไว้ ร่างกายนั้นจมลงไปสู่ก้นสระทันที และไม่โผล่ขึ้นมาเหมือนศพอื่น ๆ ที่จมน้ำ
ทางฝ่ายชด หลังจากอำพรางศพเรียบร้อยแล้ว ก็รีบกลับบ้าน ทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แล้วใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาแก่ของเขาต่อไป
วิญญาณของมิริน วนเวียนอยู่รอบตัวของคนร้ายที่ฆ่าเธอ ได้ยิน ได้เห็น ว่าแม่แท้ ๆ แม่ที่ให้กำเนิดเธอ ก่นด่าเธอไม่หยุด เพราะไปเชื่อคำพูดของสามีเด็ก ว่าที่เธอหายไป เพราะหนีตามผู้ชาย
“สวรรค์...เกิดใหม่ชาติหน้าฉันใด อย่าให้ฉันมีแม่แบบนี้อีกเลย แล้วถ้าฉันได้เป็นแม่คน จะไม่ทำตัวเป็นแม่แย่ ๆ แบบนี้เป็นอันขาด”
วิญญาณของหญิงสาวผู้โชคร้ายกล่าวจบ กายทิพย์ก็ค่อย ๆ เลือนหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ...
