บท
ตั้งค่า

โชคชะตานำพา 2

“เธอเสียชีวิตแล้วครับ คาดว่าเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน”

ทุกอย่างรอบตัวเงียบสนิท โดยเฉพาะเจี๋ยหลินและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ราวกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะอย่างไรอย่างนั้น

ข่าวการเสียชีวิตของหม่าเหยาถูกส่งกลับมายังบริษัท ทุกคนต่างตกอยู่ในความโศกเศร้า และยังมีบางคนที่รับไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหันของเพื่อนร่วมงาน

“เป็นไปไม่ได้ เมื่อวานหม่าเหยายังดูปกติดีอยู่เลย”

“หม่าเหยาไม่มีโรคประจำตัวไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงจากไปเร็วแบบนี้”

แต่ความจริงก็คือ ไม่มีใครรู้เลยว่าภายในร่างกายของหม่าเหยานั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าสะสมมานานแค่ไหน จึงทำให้จากไปเร็วเช่นนี้

และเมื่อร่างของหม่าเหยาถูกส่งกลับมายังบ้านเกิด พ่อแม่และญาติพี่น้องของเธอต่างร่ำไห้จนเสียงสะอื้นดังไปทั่วงาน

“ฮือ ๆ”

แม่ของหม่าเหยาเปิดโทรศัพท์ของลูกสาวดู และพบข้อความที่ยังไม่ได้ถูกส่ง หนูจะรีบกลับไปอย่างแน่นอน ผู้เป็นแม่ก็ยิ่งร้องไห้หนักมากกว่าเดิม

“ฮือ ๆ”

แม่กำโทรศัพท์แน่น น้ำตาไหลไม่หยุด เพราะคำสัญญาของลูกสาวนั้นไม่มีวันเป็นจริงอีกแล้ว

ภายในงานศพของหม่าเหยา เต็มไปด้วยเพื่อนร่วมงานและญาติพี่น้องที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัย กลิ่นธูปลอยคลุ้งทั่วทั้งสถานที่ เสียงสะอื้นเบา ๆ ดังเป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ยังมีเจ้าของงานที่กำลังยืนมองดูภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ซึ่งนั่นก็คือหม่าเหยา เธอยืนอยู่ตรงนี้แต่ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครรับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอ

‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่’

หม่าเหยาจำได้ว่าคืนก่อนเธอเหนื่อยล้าและเจ็บที่หน้าอก หลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดสนิท และพอตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่นี่เสียแล้ว ตอนนี้หม่าเหยาทำได้เพียงแค่ยืนมองดูร่างไร้วิญญาณของตัวเองที่กำลังนอนสงบนิ่งอยู่ในโลงศพเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้อีก

ส่วนหลิวเจี๋ยและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ก็กำลังช่วยกันจัดเตรียมงานตามพิธีกรรมทางศาสนาให้กับหม่าเหยาตามธรรมเนียม แต่ยิ่งพิธีกรรมดำเนินต่อไปเท่าไร ความชัดเจนก็ยิ่งทำให้หม่าเหยารับไม่ได้

‘ฉันยังไม่อยากตาย ฮือ…’

หม่าเหยาคร่ำครวญกับตัวเองโดยที่ไม่มีใครมองเห็นอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งอยู่ดี ๆ ทุกอย่างรอบตัวก็หมุนคว้าง เปลวไฟสีส้มแดงหน้าโลงศพกลับกลายเป็นความมืดมิด

ร่างที่เป็นวิญญาณรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในห้วงลึกบางอย่าง คล้ายกับมีมือที่มองไม่เห็นกำลังฉุดกระชากวิญญาณของเธอออกจากพิภพเดิม

‘อ๊ะ! เกิดอะไรขึ้น! ไม่นะ ฉันไม่ไป ฉันยังไม่อยากตาย ม่าย…’

ฟุ่บ!

“อึก!”

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เปลือกตาบางลืมขึ้นอย่างกะทันหัน ใบหูอื้ออึง ลมหายใจติด หัวใจเต้นแรงราวกับพึ่งผ่านพายุร้ายมา ทั้งยังรู้สึกว่าถึงเหงื่ออุ่น ๆ ที่กำลังแตกพลั่กอยู่เต็มหน้าผากรู้สึกตัวอีกทีคือต้องรีบลุกขึ้นนั่ง แต่สิ่งที่เห็นทำให้ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะพึมพำกับตัวเองด้วยความตกตะลึงว่า…

“ที่นี่ที่ไหน”

เพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คุ้นเคย ผ้าม่านสีแดงสดแขวนอยู่ทั่วทั้งห้อง เตียงขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าปักลายหงส์มังกร เครื่องเรือนรอบข้างเป็นไม้แกะสลักหรูหรา โคมไฟสีแดงอ่อนให้แสงสลัว ๆ เต็มไปหมด

“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมที่นี่มันเหมือนกับพิธีแต่งงานแบบจีนโบราณที่ฉันเคยดูในละครเลยล่ะ”

ใบหน้าสวยเหลอหลา ขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย ก่อนที่นางจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้าวไปยังกระจกบานใหญ่ตรงมุมห้อง พอลองส่องดูเงาสะท้อนของตัวเองสิ่งที่เห็นกลับทำให้ชะงัก เพราะสิ่งที่สะท้อนอยู่ในกระจกนั้นเป็นใบหน้าของหม่าเหยาที่ยังคงเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือเสื้อผ้า ซึ่งนางกำลังสวมชุดแต่งงานจีนโบราณสีแดงเข้ม ปักลวดลายอย่างประณีต มีผ้าบาง ๆ สีแดงสำหรับคลุมใบหน้าที่ถูกเปิดออกแล้วอยู่อีกด้วย

แต่ก่อนที่จะได้ตั้งสติได้ ก็มีเสียงฝีเท้าหนึ่งดังขึ้นจากด้านนอกห้อง ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังตามมา

ตึก! ตึก!

ก๊อก! ก๊อก!

“หม่าเหยาตื่นได้แล้ว! ถึงเจ้าจะพึ่งแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ แต่เจ้าก็ไม่ควรที่จะตื่นสายนะ!”

คำพูดของบุคคลที่อยู่ด้านนอกทำให้ร่างระหงต้องรีบหันกลับไปมองที่เตียงนอน และสิ่งที่นางเห็นก็ทำให้ลมหายใจสะดุด มีใครอีกคนนอนอยู่บนเตียง เป็นบุรุษในชุดแต่งงานสีแดง ร่างหนานอนแน่นิ่ง ไม่ไหวติง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel