บท
ตั้งค่า

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาพ่อค้าผัก

“ฉะ ฉันตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึง…เป็นแบบนี้ไปได้”

ความเงียบครอบงำบรรยากาศในห้อง มีเพียงเปลวเทียนที่สั่นไหว ท่ามกลางเงาของอดีตและปริศนาที่ค่อย ๆ เปิดเผยออกมา

หม่าเหยายืนอึ้งอยู่กลางห้อง ความรู้สึกหนักอึ้งถาโถมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าความทรงจำบางอย่างกำลังไหลบ่าเข้าสู่จิตใจของนาง

ท่ามกลางความสับสนมากมาย ทันใดนั้นภาพเหตุการณ์ในอดีตพลันปรากฏขึ้นราวกับเงาสะท้อนในผืนน้ำอย่างฉุกละหุก…

ภายในเรือนไม้เก่า ๆ ที่ทรุดโทรม เต็มไปด้วยความเงียบและความขมขื่นจากความยากจน เสียงท้องร้องของแม่นางน้อยตัวเล็กดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดแต่ก็ไม่มีผู้ใดสนใจ

โครกกก!

“ท่านพ่อ ท่าแม่ ข้าหิวเหลือเกิน…”

เสียงแผ่วเบาของเด็กสาววัยสิบสองปี นามว่า หม่าเยี่ยนถิง ดังขึ้น เยี่ยนถิงคือน้องสาวคนที่สามของหม่าเหยา ซึ่งหม่าเหยามีพี่น้องทั้งหมดเจ็ดคน รวมตัวของนางที่เป็นพี่สาวคนโตแล้วด้วย

โดยเรียงลำดับดังนี้ หม่าเหยา อายุ 17 ปี หม่าเยี่ยนหง อายุ 14 ปี หม่าเยี่ยนถิง อายุ 12 ปี หม่าอี้ผิง อายุ 9 ปี หม่าอี้ตาน อายุ 7 ปี หม่าอี้เหวย อายุ 5 ปี และหม่าหยาง (น้องชายเพียงคนเดียว) อายุ 2 ปี

หม่าเหยามองไปที่บิดาวัย 40 ปี ของนาง หม่าอี้เหิง ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะหมดแรงเต็มทีแล้ว ใบหน้าซีดเซียวจากความอดอยาก และสมองที่ไม่สามารถคิดอะไรได้อีกแล้ว

หม่าอี้เหิงหันไปมองภรรยาที่อายุน้อยกว่าตนเองเพียงแค่หนึ่งปี หวงโจวหราน ซึ่งสภาพในตอนนี้ก็ดูแย่ไม่แพ้กัน นางซูบผอมจนแทบจะไม่เหลือแรงที่จะพูดอะไร

และที่ครอบครัวนี้อยู่ในขั้นวิกฤติเช่นนี้ ก็เนื่องมาจากทั้งหม่าอี้เหิงและหวงโจวหรานมีบุตรมากถึงเจ็ดคน มิหนำซ้ำยังมีนิสัยเกียจคร้านและไม่สู้งานใด ๆ เลยทั้งสิ้น

วัน ๆ เอาแต่นอนและบังคับให้ลูก ๆ ออกไปทำงานหาเงิน จนใคร ๆ ที่ได้เห็นต่างก็เวทนา และสุดท้ายวิธีแก้ปัญหาของผู้เป็นพ่อก็ไม่พ้นขายลูกกิน

“เยี่ยนหง…เจ้าแต่งงานกับพ่อค้าขายผักผู้นั้นเถอะ”

บิดาพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและเต็มไปด้วยความเครียด ขมวดคิ้วไปมาเหมือนกำลังจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

“เขาจะให้ข้าวสารและอาหารกับพวกเรา แลกกับการที่เจ้าต้องแต่งงานกับเขา”

หม่าเยี่ยนหงถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้นของบิดา ซึ่งเขาไม่ได้พูดครั้งนี้เป็นครั้งแรก เยี่ยนหงจึงมิอาจทนได้อีกต่อไป

“ท่านพ่อ! ข้าบอกแล้วว่าไม่อยากแต่ง!”

ทันทีที่หม่าเยี่ยงหงตะคอกกลับไป หวงโจวหรานก็ตวัดสายตาไปมองบุตรสาวของตัวเองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดและไร้ความเห็นอกเห็นใจใด ๆ

“ทำไมต้องดื้อรั้นขนาดนี้! ถ้าเจ้าไม่แต่งกับเขาครอบครัวของเราจะอดตายกันหมด!”

เสียงตะคอกของมารดาทำให้หม่าเยี่ยนหงสะอื้นออกมา ก่อนที่น้ำตาจะไหลไม่หยุด ไม่เคยคิดเลยว่าในวันที่ไร้หนทางบิดามารดาของนางจะพูดคำเหล่านี้ออกมาจนได้

“เจ้าไม่เข้าใจเลยใช่ไหมว่าเราต้องการอาหาร! เราต้องการความช่วยเหลือ!”

“แต่ข้าไม่อยากแต่งกับคนที่ข้าไม่รู้จัก ข้าไม่อยากถูกขาย!”

“แล้วเจ้าคิดว่าพวกเราจะทำอะไรได้ดีไปกว่าการทำตามคำขอของเขากันล่ะ เราไม่มีทางเลือกอื่น เจ้าคิดว่าครอบครัวของเราจะอยู่รอดได้ไหมถ้าไม่มีข้าวกิน!”

“ท่านพ่อ! ท่านแม่! แต่ว่าข้าคือคน ไม่ใช่สิ่งของที่เอาไปแลกเปลี่ยนกับใครก็ได้!”

หม่าเยี่ยงหงเถียงออกมาอย่างอัดอั้น แต่คำพูดนี้กลับไม่ได้รับการสนใจจากบิดามารดาของนางเลยแม้แต่น้อย และตอนนี้ความเจ็บปวดที่เก็บเอาไว้ก็ได้ถูกระบายออกมาผ่านเสียงสะอื้นแล้ว

จนกระทั่งผู้เป็นพี่คนโตอย่างหม่าเหยาทนไม่ไหวเปล่งเสียงดัง ๆ

“ข้าจะเป็นผู้เสียสละเอง!”

“…”

“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าจะแต่งกับพ่อค้าผู้นั้นเอง!”

หม่าเหยาย้ำอีกครั้งก่อนจะหันไปมองน้องชายคนเล็กที่ยังเยาว์วัยและอ่อนแอที่สุด หากไม่มีอาหารเขาคงไม่อาจมีชีวิตรอดได้อีก

ก่อนจะหันไปหาหม่าเยี่ยงหง แล้วพยักหน้าให้นางเพื่อแทนการพูดคำว่าพี่จะรับทุกอย่างเอาไว้เอง ไม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว

ส่วนบิดามารดาก็ได้หันไปมองหน้ากันก่อนจะแอบยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างร้ายกาจ แท้จริงแล้วพวกเขาทั้งสองเห็นบุตรทั้งหมดเป็นเพียงเครื่องมือในการหาเงินก็เท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel