บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ทำไมแม่ไม่ไปหาหมอ

กลับเข้ามาในบ้านจึงล้างหอยให้สะอาด จากนั้นนำไปสับก้นหอยออก เพื่อง่ายต่อการกิน สับก้นหอยล้างให้สะอาดอีกครั้ง แล้วค่อยเตรียมผักไว้ให้ครบครัน คั้นน้ำย่านางเสร็จ โขลกพริกและข้าวเบือซึ่งก็คือข้าวสารแช่ให้นิ่มแล้วเอามาตำให้ละเอียด สิ่งนี้จะทำให้น้ำแกงมีความเข้มข้นมากขึ้น

กรองเอาน้ำย่านางใส่หม้อ ใส่เครื่องปรุงรสให้ครบรวมถึงข้าวเบือ จากนั้นนำไปตั้งไฟ ระหว่างรอน้ำเดือดให้คนน้ำแกงไปด้วย เพราะจะทำให้ข้าวเบือไม่ติดก้นหม้อ เมื่อน้ำแกงเดือดจึงเทหอยที่สับก้นเรียบร้อยแล้วลงไป เมื่อหอยสุกจึงเติมผักที่เตรียมไว้ลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย ปรุงรสเพิ่มตามใจชอบก็ยกหม้อลงได้เลย

เมื่อเขาทำอาหารเสร็จ ลูกกับภรรยาก็ตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้ว

“อาทำอะไรกินเหรอครับ ทำไมกลิ่นหอมจัง” สายน้ำ ลูกชายคนรองวัยหกขวบเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้ แถมยังเดินเข้ามาในครัวชะเง้อหน้ามองหม้อที่ตั้งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ที่ใช้สำหรับวางสิ่งของอยู่ในห้องครัว

“ทำแกงอ่อมหอย”

“ผมอยากกินแกงอ่อมหอยครับ”

“ไปรอข้างนอก เดี๋ยวอายกออกไปแล้ว”

“ครับ”

“อ้อเดี๋ยว หิ้วกระติบข้าวออกไปให้อาด้วย”

“ครับ” ว่าแล้วเด็กชายก็หิ้วกระติบข้าวเหนียวออกไปยังโถงบ้านด้านนอก

แสนดีลูกชายคนโตวัยแปดขวบนำเสื่อมาปูตามที่แม่บอก จากนั้นก็นั่งรออาหารที่พ่อเลี้ยงกำลังยกออกมา

ทั้งสี่คนพ่อลูกนั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกัน ส่วนอัจฉรานั่งดูโทรทัศน์อยู่ไม่ไกลมากนัก

ชาญชัยมองภรรยาในนามด้วยความเวทนา เอ่ยถามขึ้นว่า “ไม่กินข้าวหน่อยเหรอ”

อัจฉราส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนตอบออกว่า “ฉันไม่หิว นี่ยังรู้สึกแน่นท้องอยู่เลย” เกือบห้าเดือนแล้วที่เธอกินอะไรไม่ค่อยได้ กินอะไรเข้าไปก็รู้สึกแน่นท้องตลอดเวลา ทั้งที่กินไปแค่นิดเดียว บางครั้งก็ปวดท้อง บางครั้งก็ท้องเสียสลับกับท้องผูก และรู้สึกอ่อนเพลียมาก จนไม่สามารถทำงานหนักและให้ความสุขกับอดีตสามีได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่สามีหยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างเพื่อขอหย่ากับเธอเมื่อห้าเดือนก่อน

ลูกทั้งสามก้มหน้ากินข้าวกับแกงอ่อมหอยอย่างเงียบ ๆ เสียงแสนดีกับสายน้ำใช้ปากดูดหอยขมดังจ๊วบ ๆ เป็นระยะ ส่วนสตางค์น้องเล็กยังดูดหอยไม่เป็น จึงใช้ไม้แหลมที่พ่อเลี้ยงเตรียมไว้ให้จิ้มหอยอย่างเอาเป็นเอาตาย

“วันนี้อาทำแกงหอยอร่อยมากเลยค่ะ” สตางค์วัยสี่ขวบพูดขึ้น เธอรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ อร่อยกว่าทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงทำให้กิน

“อร่อยก็กินเยอะ ๆ” ชาญชัยใช้คำข้าวจิ้มน้ำแกงหอยข้าวปาก จากนั้นจึงจิ้มหอยให้สตางค์ ที่ยังงมอยู่กับการจิ้มตัวหอยออกจากเปลือกของมัน ส่วนแสนดีกับสายน้ำเขาไม่ต้องห่วงเพราะลูกชายทั้งสองช่วยเหลือตนเองได้ดีอยู่แล้ว

อัจฉรามองสามีจิ้มตัวหอยขมให้ลูกสาวด้วยความปลาบปลื้ม เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่เขาเอาใจใส่ลูกของเธอ

ชาญชัยเงยหน้าขึ้นแล้วพูดกับภรรยา “พี่ว่าเธอควรไปหาหมอได้แล้วนะ” ตอนนี้อัจฉรานั่งเอนหลังพิงหมอน ท้องโตราวกับคนท้องได้สี่เดือน

“อย่าเลยฉันรู้ตัวฉันดี” อัจฉราค่อนข้างแปลกใจที่สามีบอกให้เธอไปหาหมอ เพราะปกติเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด และไม่เคยยุ่งเรื่องของเธอเลย อีกทั้งตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาจนจะครบสองเดือนอยู่แล้วเขาก็ไม่เคยกินข้าวเช้าพร้อมหน้ากันกับเธอและลูกสักครั้ง ปกตินึ่งข้าวทำกับข้าวเสร็จก็จะออกไปทำงานรับจ้างทันที แต่วันนี้เขาดูแปลกไป

“ไม่ลองไปรักษาแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าจะหายหรือไม่หาย” เขาพูดขึ้นอีก

“พี่ก็รู้ว่าฐานะเราเป็นยังไง รักษาไปก็เปลืองเงินเปล่า ๆ” อัจฉราพูดพลางเม้มปากแน่น เมื่อคิดว่าตนเองคงอยู่ได้อีกไม่นาน มองดูเด็กทั้งสามแล้วน้ำตาก็เอ่อคลอเบ้า ตอนแรกเธอมีเงินเก็บอยู่ประมาณสี่หมื่นกว่าบาท แต่พอรู้ว่าตนเองใกล้หมดลมหายใจแล้วจึงรีบหาพ่อเลี้ยงมาให้เด็ก ด้วยการออกค่าสินสอดแต่งผู้ชายเข้าบ้าน ตอนนี้เธอจึงเหลือเงินอยู่ประมาณหมื่นกว่าบาท เธออยากเก็บเงินจำนวนนี้ไว้เลี้ยงลูก จึงไม่กล้านำเงินไปรักษาตนเอง เพราะรู้ดีว่าอย่างไรก็คงไม่รอดและเงินเพียงเท่านี้คงไม่พอสำหรับการรักษา

“หนูไม่อยากให้แม่ตาย” สตางค์พูดขึ้นพร้อมกับเบะปากร้องไห้

“ผมก็ไม่อยากให้แม่ตาย” สายน้ำ

“ถ้าแม่ตายแล้วพวกเราจะอยู่กับใคร” แสนดี

น้ำตาของเด็กสามคนเริ่มปริ่มออกมาพลางหยดลงข้างแก้ม

“อยู่กับอาชาญยังไงคะ”

“ผมไม่อยู่/หนูไม่อยู่” ทั้งสามพูดขึ้นพร้อมกันเสียงแข็ง

ตั้งแต่ชาญชัยย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ลูกทั้งสามก็เกิดการต่อต้าน ไม่ยอมรับชาญชัยเป็นพ่อเลี้ยงง่าย ๆ สายน้ำกับสตางค์ยังพอคุยดีด้วย แต่แสนดีนั้นเหมือนจะมีอคติกับพ่อเลี้ยงอยู่มาก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่พวกเขาเรียกชาญชัยว่าอา

อัจฉรากลืนน้ำตาลงท้องเพราะไม่อยากให้ลูกเห็น ริมฝีปากฉีกยิ้มออกพูดปลอบลูกอย่างอ่อนโยน “แม่ไม่ตายง่าย ๆ หรอก แม่แค่ป่วยเท่านั้นอีกหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว”

“แล้วทำไมแม่ไม่ไปหาหมอละครับ” แสนดีถาม

“แม่ก็กินยาสมุนไพรของหมอโสอยู่นี่ไง ใครกินยาของแกก็หายกันทั้งนั้นแหละ” หมอโสภณคือหมอสมุนไพรประจำหมู่บ้านที่เก่งกาจคนหนึ่ง แม้แต่คนต่างหมู่บ้านต่างตำบลหรือต่างอำเภอก็มาให้เขาจัดยารักษาให้ แต่ในกรณีของเธอยิ่งกินท้องก็ยิ่งโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่โสภณก็ยังยืนยันให้เธอกินยาสมุนไพรกับเขาต่อ เพราะเวลากินยาสมุนไพรกับเขาแล้วทำให้อาการท้องอืดท้องเฟ้อทุเลาลงได้บ้าง

ชาญชัยนั่งฟังภรรยาคุยกับลูกอย่างเงียบ ๆ เพราะตอนนี้เขาไม่มีเงินพาเธอไปรักษาจริง ๆ เขาเคยอ่านนิยายกำลังภายใน ส่วนใหญ่คนที่ย้อนเวลากลับมาจะมีของวิเศษหรือไม่ก็มิติ แต่เขากลับไม่มีอะไรเลย ช่างน่าสงสารจริง ๆ แต่ถึงอย่างไรเขาก็คงหาเงินมารักษาภรรยาให้ได้ แม้จุดจบเธอต้องจากไป แต่อย่างน้อยเขาก็ได้พยายามแล้ว แต่ในเมื่อยังไม่มีเงินตอนนี้เขาคงพูดอะไรมากไม่ได้

กินข้าวยังไม่ทันอิ่มก็มีเสียงคนมาเรียกอยู่หน้าบ้าน

“ชาญอยู่บ้านไหม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel