บทที่ 4
“ท่านอ๋อง พระชายา...” ข้างนอกจื่อฉิงตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังขนาดนี้ จึงรีบวิ่งเข้าไปในห้อง และถอยออกมาด้วยสีหน้าแดงก่ำ “บ่าวไม่เห็นอะไรเลยเพคะ! บ่าวไม่เห็นอะไรเลย!”
ท่านอ๋องเป็นที่รักและเอ็นดูของพระชายามากที่สุดจริงๆ เช้าตรู่... ยังไม่ใส่เสื้อผ้าอะไรเลย นางไม่เห็นอะไร ไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ...
เซี่ยเหยามองเขาแวบหนึ่ง ในฐานะหมอเห็นก็ไม่แปลกใจ เมื่อช่วยชีวิตคน ในสายตาของนางไม่มีการแบ่งแยกเพศ “ท่านอ๋องโปรดใจเย็น โกรธมากไปอาจทำให้โรคเก่ากำเริบ”
ฉู่หานจะสามารถกลับไปโล้สำเภาได้หรือไม่นั้นไม่เกี่ยวกับนาง แต่เมื่อคืนการฝังเข็มทำให้นางใช้พลังงานไปมาก จะเสียเปล่าไม่ได้
จะว่าไปก็แปลก เมื่อคืนนางถอดเสื้อฉู่หานออก และพบว่าไม่มีเข็มฝังเข็มอยู่ในมือ พอจะปิดเสื้อผ้าให้ฉู่หานอีกครั้ง เพิ่งพบว่ามีเข็มฝังเข็มตกอยู่ที่มุมห้อง และไม่ว่าเข็มนี้จะมีพิษหรือไม่ มาจากไหนก็ใช้กับฉู่หานแล้ว
ตอนนี้สีหน้าของฉู่หานเหมือนก้นหม้อที่ร้อนจัด หันหลังให้เซี่ยเหยา มือสั่นเทาเล็กน้อยและดึงเข็มเงินที่ปักอยู่เฉพาะจุดออก ดึงออกพลางด่าไปพลาง สตรีผู้นี้กล้าหาญมาก! คาดไม่ถึงว่าจะถอดเสื้อผ้าของเขาในขณะที่เขาไม่ทันตั้งตัว และลงมือกับร่างกายของเขา!
ยิ่งนึกถึง ความหนาวเย็นรอบตัวเขายิ่งเข้มข้นขึ้น “เซี่ยเหยา! เจ้าสมควรตาย!” แค่คิดว่ามือของนางสัมผัสตรงนั้น ในใจก็รู้สึกรังเกียจอย่างยิ่ง
ปล่อยนางไปไม่ได้!
สตีร้ายกาจที่น่ารังเกียจที่สุด!
“ท่านอ๋อง ได้เวลาเข้าวังแล้วพะย่ะค่ะ” เสียงองครักษ์ดังมาจากข้างนอก
องครักษ์เฝ้าทั้งคืน สงสัยมากว่า ท่านอ๋องอยู่ทั้งคืน เพื่อเข้าห้องหอกับพระชายางั้นหรือ? ท่านอ๋องเกลียดพระชายามากไม่ใช่หรือ? แต่เสียงเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ดูเหมือนจะไม่น้อยนะ!
ฉู่หานแค่นเสียงเย็นชา รีบเดินไปที่ประตูห้อง
“ท่านอ๋องไม่อยู่ต่ออีกหน่อยหรือ?” เซี่ยเหยาจงใจส่งเสียงให้องครักษ์ข้างนอกได้ยิน
ฉู่หานไม่หยุด ดวงตาดำสนิทเย็นชาและลึกล้ำ
เข็มเงินเหล่านั้นรักษาเขาได้จริงๆ ความเจ็บปวดที่รบกวนเมื่อคืนได้หายไปแล้ว!
“เซี่ยเหยา โชคดีที่ไม่ใช่เจ้าที่วางยาพิษข้า มิฉะนั้นข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าเด็ดขาด!” ฉู่หานหรี่ตาลง เพื่อซ่อนความอาฆาต
เซี่ยเหยากลอกตา อย่างหมดคำพูด “ถ้าข้าวางยาพิษท่าน ข้าจะมองท่านตายไปตาต่อตาเท่านั้น อ๋องหาน หากมีเวลามิสู้ไปสืบหาคนที่แอบวางยาพิษท่านว่าเป็นใครดีกว่า”
ฉู่หานสีหน้ามึงงง ขมวดคิ้วมองนางอย่างลึกซึ้ง แค่นเสียงเย้ยหยันที่น่ารังเกียจออกจากจมูก “โชคดีที่ไม่ใช่เจ้า!”
ทิ้งประโยคนี้ไว้ และผลักประตูออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าหากอยู่ที่นี่อีกสักพัก จะทำให้เขารู้สึกไม่สบายและรังเกียจ
“พวกเจ้าไปตรวจสอบว่า หลายวันมานี้นางเคยติดต่อกับใครบ้าง” ฉู่หานออกคำสั่ง “ฮัดเช่ย!”
องครักษ์รีบเอ่ย “ท่านอ๋องดูแลร่างกายให้ดี ระวังอย่าให้โดนลมหนาวพะยะค่ะ”
ให้ตายสิ! ใบหน้าของฉู่หานเริ่มแดงขึ้นแปลกๆ จากนั้นก็เย็นชาราวกับน้ำแข็ง นางถอดเสื้อผ้าของเขา และปล่อยให้เขานอนบนพื้นทั้งคืน แถมยังไม่คลุมผ้าห่มให้เขาด้วย! สตรีร้ายกาจ!
“ให้คนเตรียมน้ำร้อน! ข้าจะอาบน้ำ!” ฉู่หานกําลังจะเดิน และสั่งเสียงเย็นชาอีกครั้ง เขาจะล้างส่วนที่โดนสตรีร้ายกาจจับก่อน!
องครักษ์ประหลาดใจเล็กน้อย ท่านอ๋องไม่เคยผิดเวลาเข้าวังไม่ว่าอะไรก็ตาม
หลังจากฉู่หานจากไป จื่อฉิงก็วิ่งเหยาะๆ เข้าไปในห้อง “บ่าวขอแสดงความยินดีกับพระชายาด้วยเพคะ ยินดีด้วยเพคะ ในที่สุดพระชายาก็ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว!”
เซี่ยเหยาเข้าใจความหมายของจื่อฉิงและขี้เกียจเกินไปที่จะอธิบาย จึงเอ่ยว่า “เตรียมอาหารเช้า ข้าหิวแล้ว”
พิษในร่างกายของฉู่หานไม่รุนแรงนัก แต่แผ่ซ่านไปทั่ว ทำให้นางต้องใช้พลังอย่างมาก แถมยังนอนหลับไม่สนิท ตอนนี้ทั้งง่วงและหิว
“เมื่อคืนบ่าวให้คนไปทำแล้ว มีแต่อาหารบำรุงร่างกายทั้งนั้นเพคะ บ่าวจะไปยกมาให้ท่าน” จื่อฉิงกำลังจะหันเดินออกไป แต่หันกลับมาพูดอย่างระมัดระวังว่า “จะให้ยกไปให้ท่านอ๋องด้วยไหมเพคะ?”
“ไม่จําเป็น” เซี่ยเหยาเอ่ย
“พระชายาเพคะ บ่าวให้คนทำไว้เยอะมากเลย ถ้าแบ่งให้ท่านอ๋องส่วนหนึ่ง หากท่านอ๋องรู้ว่าพระชายาห่วงใยขนาดนี้ คืนนี้อาจจะมาเรือนฝูอวิ๋นอีกก็ได้นะเพคะ” จื่อฉิงคํานวณอย่างละเอียด ไม่พอใจที่ท่านอ๋องค้างแค่คืนเดียว ต้องทำวันละเล็กละน้อย แต่ทำทุกวันไม่ขาด
“ไม่ต้อง!” เซี่ยเหยาย้ำอีกครั้ง
แม้ว่านางจะกล้าส่งไป แต่ฉู่หานก็ไม่กล้ากินอยู่ดี
จื่อฉิงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบไปจัดการ
เซี่ยเหยานั่งอยู่ในห้อง มองดูนิ้วนางข้างซ้ายของตนอย่างเหม่อลอย
แหวนมาจากไหน? เมื่อวานยังไม่มีเลย
จะบอกว่าแหวน แต่เหมือนแหวนเรียบๆ ตัววงส่วนใหญ่เป็นสีแดง แซมด้วยจุดสีดำประปราย เปล่งประกายมันวาว ทำให้คนแยกไม่ออกว่าเป็นหยกหรือเนื้อไม้
ในไม่ช้าจื่อฉิงก็กลับมาพร้อมกับอาหารเช้า เซี่ยเหยาได้สติและเก็บมือ แต่ก็ประหลาดใจที่พบว่าแหวนหายไปอีกครั้ง!
ถือโอกาสที่จื่อฉิงวางสำรับ นางจึงลองอีกหลายครั้ง และพบว่าแหวนไม่ได้ปรากฏอยู่เสมอ แต่กฎเกณฑ์เฉพาะยังไม่ชัดเจน
แล้วแหวนนี่มันอะไรกันแน่?
“พระชายา เชิญกินอาหารเถิด” จื่อฉิงวางอาหารเรียงรายเต็มโต๊ะ
พระชายาบอกว่าไม่ส่งก็ไม่ส่ง ส่วนที่พระชายาไม่ส่งนั้นย่อมมีเหตุผล
เซี่ยเหยาได้สติ มองอาหารบนโต๊ะด้วยดวงตาเปล่งประกาย ได้กินอิ่มเสียที แม้ว่าจะดูไม่ประณีตนัก แต่ก่อนทะลุมิติมานางจู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับการกินอาหารมาก และมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถตอบสนองความต้องการของนางได้ ดังนั้นนางจึงชอบทำเองอยู่เสมอ ตอนนี้ช่วยไม่ได้ เพิ่งทะลุมิติมาก็มีเรื่องมากมาย รอให้มีเวลาว่างนางจะทําอาหารเอง
อย่างน้อยที่นี่ก็ไม่มียาพิษ นางชิมทีละอย่าง เลือกกินสิ่งที่ดูน่ากินก่อน
จื่อฉิงเตรียมไว้เยอะมากจริงๆ นางกินคนเดียวคงสิ้นเปลือง
“จื่อฉิง มากินด้วยกัน”
“บ่าวไม่กล้าเพคะ! พระชายากินเถิด บ่าว...” จื่อฉิงพยายามโกหกพระชายาว่าตนกินแล้ว แต่สายตากลับกวาดมอง
“ข้าให้เจ้ากินก็กิน ที่นี่ไม่มีคนอื่น” เซี่ยเหยาดึงจื่อฉิงเข้ามานั่งอย่างขบขัน “ห้ามลุก! ไม่งั้นถือว่าไม่เคารพข้า!”
สำหรับสาวใช้ที่ซื่อจนเกือบจะโง่คนนี้ นางเองก็ชอบมาก
จื่อฉิงนั่งลงอย่างจนปัญญา
นายบ่าวทั้งสองยังกินไม่เสร็จ ด้านนอกก็มีคนมา
“พระชายาตื่นหรือยังเพคะ? ข้ามาทักทายพระชายา” เป็นเสียงของซ่างกวนเยว่
จื่อฉิงยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ซ่อนชามและตะเกียบอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเหยายังคงกินอย่างช้าๆ เงยหน้าขึ้นพูดกับจื่อฉิงว่า “บอกนางว่า เมื่อคืนข้าเหนื่อย ไม่รับแขก”
เมื่อคืนเข้าห้องหอไม่สำเร็จ ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้ว่าซ่างกวนเยว่คับข้องใจเต็มอก และนางไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์
จื่อฉิงเงยหน้าเล็กๆ และเดินออกไปอย่างภูมิใจ “พระชายารองเชิญกลับไปเถิดเพคะ เมื่อคืนท่านอ๋องค้างคืนที่นี่ พระชายารู้สึกเหนื่อย ไม่รับแขกเพคะ”
หางตาของซ่างกวนเยว่กระตุกหลายครั้ง นี่เป็นการจงใจทำให้นางโมโห!
“พอดีข้ารู้ตำรับยาบํารุงร่างกายอยู่บ้าง เอาให้พระชายาเลือก จะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น” พูดพลางเดินเข้าไปเรื่อยๆ
เหตุผลที่นางมาแต่เช้า ก็เพราะอยากแน่ใจว่า ท่านอ๋องที่เกลียดเซี่ยเหยามาก ทิ้งตนในวันแต่งงานได้อย่างไร? มันต้องมีเงื่อนงำบางอย่างที่นี่
“พระชายารองหยุดเถิดเพคะ พระชายาบอกแล้วว่า ไม่รับแขก” จื่อฉิงยืนอยู่หน้าประตูเหมือนเทพเจ้าเฝ้าประตู
“บังอาจ! พระชายารองเป็นคนที่เจ้าขวางได้งั้นหรือ?” จื่อหลิงก้าวไปข้างหน้าเอ่ยตําหนิ
