บทที่ 5 ผีหลอกกลางวัน (1/2)
ย่ำรุ่งก่อนตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า ซ่งซูหลานและลี่ถังตื่นขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบเรือนให้ดูสะอาดตา เดิมทีสภาพแวดล้อมของที่นี่น่าอยู่และเรียบร้อยยิ่ง ทว่ายังขาดการดูแลรักษาเพียงหน่อยเดียว ส่วนเด็กทั้งสองยังนอนฝันหวานอยู่ด้านใน เรือนนี้โอ่อ่ามากเกินไปสำหรับสตรีสองนางกับเด็กตัวเล็กจริง ๆ มองไปมุมใดล้วนดูบางตาไม่น่าอบอุ่น
"คุณหนู ข้าจะออกไปตลาดครู่หนึ่ง ท่านต้องการสิ่งใดหรือไม่"
ซ่งซูหลานครุ่นคิด "อืม...เช่นนั้นที่ตลาดของยุคนี้ เอ่อ...ไม่ใช่สิ ที่ตลาดมียางรักหรือไม่"
"ยางรัก หมายถึงสิ่งใดเจ้าคะ" ลี่ถังงุนงง
"เดิมทีเวลาที่เราทำเครื่องใช้ตกแต่งบ้านจะต้องมีการเคลือบหรือลงสีเพื่อความสวยงามอีกทั้งยังรักษาสภาพให้คงทน ยางรักคือน้ำยางที่เก็บได้จากไม้ประเภทยืนต้น หากข้าเก็บเองกว่าจะได้ลงมือทำเครื่องใช้คงต้องรอหลายวันนัก เช่นนั้นเจ้าลองไปสอบถามร้านที่ขายเก้าอี้ โต๊ะ ตู้ พวกนี้ดูได้หรือไม่"
ลี่ถังพยักหน้า "ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นฝากท่านดูแลเด็ก ๆ ก่อนนะเจ้าคะ แล้วข้าจะรีบกลับ"
ซ่งซูหลานส่งยิ้มละไม "ได้สิ ไม่ต้องเป็นห่วง ตลาดไกลหรือไม่"
"ไม่ไกลมากเจ้าค่ะ ไม่เกินหนึ่งชั่วยามข้าจะรีบกลับนะเจ้าคะ"
"โอเค"
"หือ..." ลี่ถังฉงน
ซ่งซูหลานส่งยิ้มแห้งขอด "อ้อ...ขอโทษที โอเคหมายถึงตกลง เป็นภาษาของชาวตะวันตก"
แม้ลี่ถังไม่เข้าใจเท่าใดนัก ทว่านางยังพยักหน้าหงึกหงัก พลางหมุนกายจากไปพร้อมตะกร้าสาน ขณะเดียวกันก็ยกมือเกาศีรษะเกาแก้ม ดูเหมือนซ่งซูหลานผู้นี้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ภาษาชาวตะวันตกใด ยิ่งนึกก็ยิ่งชวนปวดหัวยิ่ง
ซ่งซูหลานมองอีกฝ่ายเดินลับหายไปบริเวณชายป่าไม่ไกลมากนัก จากนั้นจึงเตรียมจัดหาอุปกรณ์มีดพร้า ตะกร้าสะพายหลัง เสียงเตาะแตะดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซ่งซูหลานเหลียวมองตามต้นเสียง ก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นผู้ใด
"อาเชาไยตื่นเช้านัก"
หยางเชายกมือน้อย ๆ ขยี้ดวงตา เพราะยังง่วงงุน "พี่ฉาว จะไปไหนหรือขอรับ ให้อาเชาไปด้วยนะ"
ซ่งซูหลานคลี่ยิ้ม ยกมือลูบศีรษะอีกฝ่าย "อาเชาตื่นแล้วหรือ เช่นนั้นอยู่บ้านดูน้องสักครู่ได้หรือไม่ พี่สาวออกไปไม่นานจะรีบกลับ"
หยางเชาสลัดความพร่าเบลอออกจากศีรษะ แล้วจึงคว้าแขนเรียวไว้ด้วยสองมือ "แต่ข้าเป็นห่วงพี่ฉาว หากว่าท่านไปเล่นน้ำจนตัวเปียกปอนอีกจะทำเช่นไร"
"เอาล่ะ อาเชา เช่นนั้นรอแม่เจ้ากลับมาก่อนดีกว่าเพราะเจ้าก็ยังเล็กนัก ถึงจะรู้ความเกินวัยก็เถอะ ประเดี๋ยวพี่สาวค่อยออกไปดีหรือไม่ ถึงตอนนั้นหากเจ้าอยากไปด้วยพี่สาวจะพาไป"
"เย่ พี่ฉาวใจดีที่ฉุด" หยางเชากระโดดโหยง กอดเอวคอดเอาไว้ด้วยความดีใจ
ซ่งซูหลานคลี่ยิ้มอย่างนึกเอ็นดู จากนั้นจูงมือเด็กน้อยเพื่อส่งเข้านอนอีกครั้ง เพราะยามนี้ยังเช้ามากนัก หยางเชาหลับต่อแล้ว ซ่งซูหลานจึงออกมานั่งคำนวณเรื่องแรงลมและขนาดของลำไผ่ที่ต้องใช้งาน ปลายพู่กันถูกจรดลงบนแผ่นกระดาษเนื้อหยาบ ตวัดไปมาเปะปะ แม้ไม่คล่องมือเฉกเช่นปากกาดินสอในยุคที่จากมา แต่คงพอถูไถแทนกันได้
"ว้าวเรียบร้อยแล้ว ใช้ได้แฮะ" ซ่งซูหลานยกกระดาษขึ้น แหงนหน้าเขม้นตาส่องภาพวาดอย่างเป็นประกาย พลางเอ่ยชื่นชมผลงานของตนไม่ขาดปาก
ใช่แล้ว ในโลกอีกด้านนางก็คือหญิงสาวที่เรียนวิศวะเครื่องกลปีสาม ทว่าชอบทดลองศาสตร์ด้านเคมีร่วมด้วย ก่อนจิตวิญญาณหลุดลอยมาที่แห่งนี้ ดินประสิวที่นางคิดค้นเกิดระเบิดไม่คาดฝัน คิดว่าในโลกใบนั้นนางคงตายไปแล้วกระมัง ดวงจิตอันซุกซนนี้จึงอันตรธานข้ามมิติมายังโลกอีกด้านอย่างน่าประหลาด ถึงแม้เกรดเฉลี่ยตอนเรียนอาจพอถูไถ ทว่างานลงมือลงแรงซ่งซูหลานกลับไม่เคยเกี่ยงงอน ยิ่งเรื่องออกแบบข้าวของเครื่องใช้แล้วล้วนเป็นสิ่งที่นางถนัดยิ่ง ได้มาทดลองใช้เครื่องไม้เครื่องมือในยุคโบราณก็ไม่เลวเช่นกัน
ยามนี้ตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าแล้ว เสียงกระจองอแงของหยางหยางดังขึ้น ซ่งซูหลานจึงละงานในมือลง และเร่งเข้าไปดูแลเด็กทั้งสอง ก็พบว่าหยางเชากำลังใช้มือน้อย ๆ ตบก้นบางเบาเพื่อกล่อมน้องชายของตน ช่างเป็นภาพที่แสนวิเศษนัก
ซ่งซูหลานรักเด็ก ยิ่งเด็กที่ว่านอนสอนง่ายเฉกเช่นหยางเชา นางยิ่งรักมาก แม้ร่างเดิมในโลกปัจจุบันของนางเกิดปัญหาเรื่องมดลูกไม่สมบูรณ์จนต้องเข้ารับการผ่าตัดและไม่สามารถมีลูกได้ตลอดชีวิต หวังเพียงว่าชีวิตใหม่ในโลกใบนี้จะใจดีกับนางสักหน่อย ส่งนางมาให้ได้เจอรักแท้ และมีลูกน้อยที่น่ารักน่าชังสักหนึ่งคนก็ยังดี
ซ่งซูหลานยืนเหม่อสักพัก จึงสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป
ซูหลาน คิดอะไรเลอะเทอะมาก มาอยู่โลกนี้ก็คงเป็นได้แค่สาวแก่ทึนทึก รอบด้านมีแต่ป่าจะไปหารักดี ๆ จากที่ไหนกัน
เท้าเรียวเยื้องย่างเข้าใกล้เด็กน้อยทั้งสอง หยางเชาแหงนหน้ามอง
"พี่ฉาวน้องไม่หยุดร้องเลยขอรับ อาเชาจะทำเช่นไรดี"
"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่ดูแลเอง" ซ่งซูหลานยิ้มบาง จากนั้นประคองร่างเล็กขึ้นมาแนบอก นางเขย่าน้อย ๆ พลางตบเปาะแปะร้องเพลงขับกล่อมให้ทารกในอ้อมแขนสงบ เสียงงอแงค่อยจางลงแล้ว จากน้ำตานองหน้าก็แปรผันเป็นรอยยิ้มไร้เดียงสา หัวเราะเอิ๊กอ๊ากแทน
"ยิ้มแล้ว... อาเชาว่าพี่สาวกล่อมเด็กเก่งหรือไม่" ซ่งซูหลานดีใจราวตนถูกรางวัลที่หนึ่ง
หยางเชายิ้มตอบ "พี่ฉาวเก่งมาก เลี้ยงน้องเก่งกว่าท่านแม่อีก"
