บทที่15 ขายกวาง+พบดินโป่ง
ในวันรุ่งขึ้นหลินฮวาพาสืออี,สืออู่ขึ้นเขาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เดินได้ประมาณ1ชั่วยามก็เจอฝูงกวางป่า
ฝูงกวางกำลังกินดินโป่ง หลินฮวามองดูแล้วเห็นกวางตัวผู้โตเต็มไวตัวนึงเขาของมันสวยงามมากน่าจะขายได้สองสามตำลึงเงิน นางไม่รอช้าเล็งธนูไปที่ขาของกวางหนุ่มทันที
เฟี้ยว ฉึก เสียงลูกธนูแหวกอากาศปักลงที่ขาของกวางหนุ่มกวางตัวอื่นๆตกใจพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
หลินฮวาไม่รอช้ายิงธนูอีกดอกปักเข้ากลางลำตัวของกวางตัวเมียที่เคลื่อนไหวช้ากว่าตัวอื่น
กวางตัวเมียถูกลูกธนูปักกลางลำตัวแต่ยังมีแรงวิ่งหลินฮวาตามมันไปยิงธนูไปที่ลำตัวของมันอีกดอก มันล้มลงทันทีหลินฮวาแบกกวางกับมาที่จุดเดิม
สืออี,สืออู่ใช้เถาวัลย์มัดขากวางตัวผู้ไว้แล้วเมื่อหลินฮวามาถึงนางจึงโยนกวางตัวเมียที่ไร้ลมหายใจลงบนพื้นดิน
หลินฮวาหยิบดินขึ้นมาสัมผัสและใช้ลิ้นแตะชิมดูหลินฮวาตาเป็นประกายด้วยความดีใจ นางเคยดูสารคดีการต้มดินทำเกลือ
หลินฮวา ” หาใบไม้มารองตระกร้าแล้วขุดดินเค็มพวกนี้กลับไป “
สืออี,สืออู่มองนายหญิงด้วยความสงสัยพวกเขาหยิบดินขึ้นมาแล้วใช้ลิ้นแตะชิมดินเหมือนนายหญิงและพูดพร้อมกัน
“ ดินเค็มเหมือนเกลือเลยขอรับ ”
หลินฮวา“ ดินเค็มทำเป็นเกลือได้พวกเราจะทำเกลือกินเอง พวกเจ้าอย่าให้ใครรู้อย่างเด็ดขาด“
สืออี,สืออู่รู้ดีถึงความร้ายแรงในเรื่องนี้จึงพยักหน้าเป็นไก่จิกข้าวสาร
ในเมื่อล่ากวางได้และยังพบดินเค็มหลินฮวาจึงไม่รีบร้อน นางนำซาลาเปาหมูสับที่ให้ป้าหวังทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืนสิบห้าลูกมาแบ่งกันกินกับสืออี,สืออู่ กินได้สามลูกหลินฮวาก็อิ่มแล้วที่เหลือจึงให้สองแฝดจัดการ
ระหว่างเดินลงเขาพบชาวบ้านกำลังขึ้นเขาไปหาของป่า พวกชาวบ้านเห็นกวางสองตัวที่สืออี,สืออู่แบกลงเขา พวกชาวบ้านมองดูด้วยความอิจฉา
หลินฮวาหอบหิ้วตระกร้าสามใบที่บรรจุดินเค็มจนเต็มนางใช้ใบไม้ใบใหญ่และผักป่าบังไว้ด้านบนจึงไม่มีเห็นดินเค็มในตระกร้า แต่ถึงเห็นพวกเขาก็ไม่รู้หรอกว่าดินเค็มเอาไปใช้ทำอะไร
หลินฮวามองท้องฟ้าพบว่ายังไม่ถึงเวลาอาหารกลางวันจึงให้ต้ายาไปตามจ้าวหลง
หลินฮวาที่ตัวเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยดินและเลือดกวางกำลังใช้กริชตัดเขากวาง
หลินฮวา “สืออี,สืออู่ ต่อเกวียนกับม้าเราจะเข้าเมืองกัน ”
เมื่อจ้าวหลงมาถึงหลินฮวาและสองแฝดจึงออกเดินทางเข้าเมือง
หลินฮวา “พี่ใหญ่จ้าวครั้งนี้ขออภัยด้วยที่รบกวน“
จ้าวหลง “ เจ้าเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ เจ้าก็เปรียบเหมือนน้องสาวข้า เพราะฉะนั้นต่อไปอย่าได้เอ่ยถ้อยคำห่างเหินกันอีกเลย “
หลินฮวายิ้มแล้วพูดด้วยความเกรงใจ ” ลำบากท่านแล้ว “
หลงจู๊ร้านต้าเหนิงออกมาดูกวางป่าแล้วพยักหน้าพอใจ เขากำลังกลุ้มใจพรุ่งนี้นายน้อยกับสหายจะเดินทางมาเมืองเทียนชาง
เขายังไม่มีสัตว์ป่ามาทำอาหารต้อนรับ หมูป่าที่ซื้อมาวันก่อนก็ขายหมดแล้ว
เขาสืบรู้มาว่าสหายของนายน้อยทุกคนชื่นชอบการล่าสัตว์และกินสัตว์ป่า ครั้งนี้โชคดีมีกวางป่ามาทำอาหารต้อนรับสหายของนายน้อย
วันนี้หลงจู๊ใจดีให้ราคากวางป่าตัวละเจ็ดตำลึงเงินเท่ากับหมูป่า ขายกวางป่าได้เงินมาสิบสี่ตำลึงเงิน หลินฮวานำเขากวางไปขายให้โรงหมอฮุ่ยหวงได้เงินมาอีกสามตำลึงเงิน
มีเงินสิบเจ็ดตำลึงเงินใส่ถุงเงินที่เบาหวิวหลินฮวาจึงอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย พาจ้าวหลงและสองแฝดไปกินบะหมี่น้ำแผงลอยเจ้าเดิม
หลินฮวารู้สึกสงสัยว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาทำไมมองมาที่โต๊ะของพวกนาง แต่เมื่อหางตาหันไปเห็นสภาพของสืออี,สืออู่ ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนเลือดและดิน นางก้มมองดูตนเองสภาพไม่ต่างจากสองแฝด
หลินฮวาก้มหน้ารีบกินบะหมี่ด้วยความเขินอายสีหน้าภายนอกของนางดูเรียบเฉยมีแต่ใบหูเท่านั้นที่แดงเล็กน้อย
