บทที่14 ซื้อเกวียนวัว
จ้าวหลงมาขายหมูป่าให้เหลาอาหารต้าเหนิง เขาบอกให้สืออีบังคับรถม้ามาจอดด้านหลังร้าน
หลงจู๊กำลังตรวจสอบสินค้าอยู่ด้านหลังร้านพอดี จ้าวหลงจึงรีบเข้าไปทักทายและเสนอขายหมูป่าได้เงินมาเจ็ดตำลึงเงินไม่ขาดไม่เกินจากที่คิดไว้
หลินฮวาให้สืออีบังคับรถม้าไปร้านเครื่องหอม นางซื้อสบู่เหลวกับแชมพูสมุนไพรอย่างละสองขวดหมดไปแปดตำลึงเงิน
หลินฮวากำถุงเงินที่เบาหวิวก็ได้นึกแต่เสียดายที่นางไม่รู้วิธีทำสบู่กับยาสระผม
หลังจากพาทุกคนไปกินบะหมี่ร้านแผงลอยจนอิ่มหลินฮวาจึงให้สืออีบังคับรถม้าไปตลาดค้าขายสัตว์
วัวตัวผู้โตเต็มไวราคาสิบแปดตำลึงเงิน วัวตัวเมียโตเต็มไวราคายี่สิบตำลึงเงินเกวียนไม่มีหลังคาราคาสามตำลึงเงินมีหลังคาสี่ตำลึงเงิน
หลินฮวาเลือกซื้อวัวตัวผู้พร้อมเกวียนไม่มีหลังคาหลังจากต่อรองราคาพ่อค้าจึงลดให้หนึ่งตำลึงเงิน เพราะหลินฮวารับปากว่าครั้งหน้าถ้านางซื้อวัวนางจะมาซื้อกับเขาอย่างแน่นอน
สืออู่เป็นคนบังคับเกวียนวัวกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านสืออี,สืออู่ไปตัดไม้บนเขามาสร้างคอกวัวจ้าวหลงก็ไปช่วยด้วย เอ้อหลางที่บ้านอยู่ติดกันพอรู้ข่าวจึงมาช่วยด้วยอีกแรงใช้เวลาไม่นานคอกวัวก็สร้างเสร็จ
หลินฮวา “ พี่ใหญ่จ้าว,พี่เอ้อหลาง อย่าพึ่งรีบกลับอยู่กินอาหารเย็นก่อนเจ้าค่ะ ”
เอ้อหลาง,จ้าวหลง รีบเอ่ยปฏิเสธ แต่หลินฮวาบอกกับพวกเขาว่าถ้าพวกเขาไม่กินต่อไปนางจะไม่กล้ารบกวนพวกเขาให้ช่วยทำอะไรอีกเอ้อหลาง,จ้าวหลง จึงไม่ปฏิเสธอีก
หลินฮวาสอนให้ป้าหวังทำข้าวผัดหมูโปะไข่ดาว
หลินฮวา “ ป้าหวังตั้งกระทะเทน้ำมันลงไปให้เต็มก้นกระทะ พอน้ำมันเดือดแล้วลดไฟลงหน่อย ตอกไข่ลงในกระทะ พอไข่ขาวสุกขอบเหลืองกรอบเจ้าตักขึ้นได้เลยทอดสักสิบห้าใบนะ ”
เมื่อป้าหวังทอดไข่ดาวเสร็จหลินฮวาจึงบอกให้ป้าหวังตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง
พอน้ำมันเดือดใส่ซ้วนโถว(กระเทียม)ลงผัดใส่เนื้อหมูตามลงไปผัดจนสุก แล้วใส่ก้ายหลานช่าย(คะน้า)ซีหงซื่อ(มะเขือเทศ)ใส่ข้าวสวยผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอลถั่วเหลืองที่ซื้อมาจากร้านขายของชำในเมืองที่เจ้าของร้านบอกว่านำเข้ามาจากแคว้นโจว ใส่น้ำตาลนิดหน่อย
ตักขึ้นใส่จานโรยหน้าด้วยหูเจียวเล็กน้อย(พริกไทย) ปอกเปลือกเสี่ยวหวงกวาหั่นเป็นชิ้นพอดีใส่ไปจานละสามสี่ชิ้น(แตงกวา)
เพราะป้าหวังเป็นแม่ครัวที่เก่งอยู่แล้วหลังจากหลินฮวาสอนทำข้าวผัดจานแรก กระทะต่อไปจึงทำได้คล่องแคล่วไม่นานข้าวผัดหม้อใหญ่ก็เสร็จ
เมื่อทุกคนได้กินข้าวผัดหมูโปะไข่ดาวต่างก็ชื่นชอบพวกบรุษกินกันคนละสองจานเลยทีเดียว
เมื่อปิดประตูบ้านลงก็ได้เวลาอาบน้ำหลินฮวาเรียกสาวใช้ทั้งสี่คนมาแล้วยื่นสบู่เหลวกับแชมพูสมุนไพรให้
หลินฮวา “พวกเจ้าแบ่งกันใช้ไปก่อนสองคนใช้หนึ่งขวดจำไว้ต้องอาบน้ำให้สะอาดทุกวันถ้าใครไม่ฟังคำสั่งข้าจะขายออกไปทันที“
สาวใช้ “เจ้าค่ะนายหญิง ”
พวกบ่าวชายหญิงทั้งหมดจึงรีบไปอาบน้ำ
หลินฮวาประคองจางซูเม่ยเดินเล่นย่อยอาหารรอบบ้าน จางซูเม่ยซึ่งอยู่กับหลินฮวามาตั้งแต่หลินฮวาหกขวบเห็นความเปลี่ยนแปลงของหลินฮวาจึงเอ่ยถามขึ้น
“เจ้าเก่งขึ้นและเปลี่ยนไปเยอะมากเหมือนคนละคนกับที่ข้าเคยรู้จัก”
หลินฮวาไม่ได้ตื่นกลัวกับคำถามของจางซูเม่ย นางถามกลับด้วยคำถามเดิมที่เคยถามจางซูเม่ย เมื่อครั้งออกจากเมืองหลวงใหม่ๆ
หลินฮวา” ข้าเปลี่ยนเป็นแบบนี้ไม่ดีหรือ “
จางซูเม่ยรีบตอบ“ เจ้าเป็นแบบนี้ดีมากเลย ”
หลินฮวา“ เช่นนั้นเจ้าอย่าสงสัยในตัวข้ามิเช่นนั้นข้าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ”
จางซูเม่ยจับมือหลินฮวาแน่นพูดด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า
“ ไม่นะฮวาฮวาเจ้าเป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้วต่อไปนี้ข้าจะไม่สงสัยในตัวเจ้าและพูดอะไรโง่ๆอีกเจ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปได้รึไม่ “
หลินฮวา” อืม ”
จางซูเม่ยรู้สึกมีความสุขจึงส่งยิ้มหวานให้หลินฮวา
ส่วนฮวาฮวาคิดถึงแต่เรื่องหาเงินมาเลี้ยงดูจางซูเม่ยและเจ้าก้อนแป้งในท้องรวมถึงfc(บ่าวไพร่)ทุกคนและตนเองให้สุขสบาย
