บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 นี่ฉันทะลุมิติจริงเหรอเนี่ย

บทที่ 6 นี่ฉันทะลุมิติจริงเหรอเนี่ย

เหมือนเหตุการณ์ในวันนี้ ที่หลินเพ่ยหลันไปลำธารกับจ้าวจินเยว่พี่สะใภ้และซ่งชุนเป้ยน้องสาวของซ่งเฟยหลง การมาครั้งนี้ของเธอเพื่อมาซักผ้าและตักน้ำ ซึ่งเป็นกิจวัตรที่หลินเพ่ยหลันพยายามทำอย่างเต็มที่ให้เหมือนคนทั่วไปถึงแม้จะมองไม่เห็นก็ตาม แต่เพราะมองไม่เห็นและขาดความไม่ระวังรวมถึงความลื่นของหินในลำธาร ทำให้เธอก้าวผิดพลาดพลัดตกลงไปในลำธารทันที

ร่างของเธอจมลงไปในกระแสน้ำเนื่องจากหลินเพ่ยหลันว่ายน้ำไม่เป็น

จ้าวจินเยว่และซ่งชุนเป้ยที่มาด้วยกันต่างตกใจมาก พวกเธอยืนตะลึงและไม่กล้ากระโดดลงไปช่วย เพราะทั้งคู่เองก็ว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้แต่ยืนกรีดร้องและเรียกให้คนมาช่วย

โชคดีที่ตอนนั้นซ่งเฟยหลงเพิ่งกลับจากคอมมูนมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี เมื่อรู้ว่าภรรยาตกน้ำจึงรีบกระโดดลงไปช่วยโดยไม่ลังเล ร่างของเขาว่ายผ่านกระแสน้ำจนไปถึงตัวหลินเพ่ยหลันที่กำลังจะจมชายหนุ่มจึงรีบคว้าเธอขึ้นมา แล้วพาว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อขึ้นมาถึงฝั่ง ร่างของหลินเพ่ยหลันกลับขาวซีดและเย็นเฉียบตอนนี้เธอหมดสติไปแล้ว ซ่งเฟยหลงรีบตรวจดูชีพจรแต่ไม่พบ เขาไม่รอช้ารีบอุ้มภรรยาแล้ววิ่งพาไปยังสถานพยาบาลของหมู่บ้านอย่างรีบร้อน

ในขณะที่กำลังอุ้มพาร่างอันเย็นเฉียบของภรรยานั้น หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความกังวล ในใจนั้นวาดหวังว่าหญิงสาวในอ้อมกอดจะไม่เป็นอะไร แต่ก่อนที่จะถึงสถานพยาบาล ซ่งเฟยหลงรู้สึกว่า ร่างของหลินเพ่ยหลันเริ่มมีปฏิกิริยา ดูเหมือนเวลานี้เธอเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ดวงตาที่ปิดสนิทเริ่มขยับเล็กน้อย

“เพ่ยหลัน เป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มถามด้วยความห่วงใยจนเธอสัมผัสได้ ในขณะที่ยังคงอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น และรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม

หลินเพ่ยหลันไม่ตอบอะไร เพียงแต่กรีดร้องด้วยความปวดศีรษะออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเงียบลงไปอีกครั้ง

เมื่อความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมจบเพียงเท่านี้ บัดนี้นลินเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง เวลานี้เธอรู้ตัวแล้วว่าตอนที่ถูกรถชนนั้น เธอได้ตายไปแล้ว และวิญญาณของเธอก็ได้มาอาศัยอยู่ในร่างนี้แทน

แม้ว่าภายในใจของเธอกำลังตื่นตระหนกแค่ไหน แต่ไม่นานก็เริ่มรับกับสภาพนี้ได้ในที่สุด นลินหายใจลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ เมื่อพิจารณาดูจากความทรงจำของเจ้าของร่างแล้ว ก็เหมือนกับว่าเธอจะอยู่ในช่วงต้นของยุคเจ็ดสิบ ซึ่งเป็นยุคก่อนการปฏิรูปของจีน แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนจีนแต่ที่รู้เพราะชอบการอ่านนิยายจีนแนวนี้อย่างมาก

‘เฮ้อ! มายุคไหนไม่มา ดันมายุคนี้ซะได้ เป็นที่ขึ้นชื่อว่าลำบากเอามาก ๆ เสียด้วย’ นลินได้แต่ค่อนแคะในใจถึงชะตากรรมที่กำลังพบเจอ

นลินยังคงได้ยินเสียงของซ่งเฟยหลง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเจ้าของร่างนี้เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งว่า “เพ่ยหลัน เธอเป็นอย่างไรบ้าง”

แม้จะได้ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมาบ้างแล้ว แต่นลินก็ยังรู้สึกสับสนไม่น้อย ความทรงจำเก่าและใหม่มันตีกันวุ่นวายไปหมด จนทำให้เธอปวดหัวตุบ ๆ อีกครั้ง

แต่เมื่อตั้งสติได้จึงตอบกลับน้ำเสียงอิดโรย

“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ฉันอยากนอนพักสักครู่ เรากลับบ้านกันเถอะ” ขณะเดียวกันเปลือกตาก็ปิดลงช้า ๆ เพราะถึงลืมตาก็เจอแต่ความมืดมิดอยู่ดี

ชายหนุ่มมองดูเธอด้วยสายตาห่วงใยก่อนพยักหน้าเล็กน้อย อย่างไรเวลานี้อาการของเธอไม่น่าเป็นห่วงเท่าไรแล้ว เนื่องจากตัวเริ่มอุ่นและสีหน้าเริ่มขึ้นสีเลือดมาบาง ๆ

“ตอนแรกพี่ว่าจะพาเธอไปหาหมอ ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ อดทนหน่อยเดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปที่บ้านแทน

หญิงสาวพยักหน้าและหลับตาอีกครั้งด้วยความเหนื่อยล้าและความสับสนในความทรงจำ

เมื่อถึงบ้านซ่งเฟยหลงวางเธอลงบนเตียงพร้อมกับนำเสื้อผ้ามาให้เธอเปลี่ยน จากนั้นก็ให้เธอนอนและห่มผ้าให้อย่างเบามือ ก่อนจะนั่งลงข้างเตียงมองดูเธอด้วยความสงสารและความห่วงใย ในใจก็อดสงสารภรรยาของตัวเองไม่ได้ จึงได้แต่คิดในใจว่า นอกจากเธอจะตาบอดแล้วก็เหมือนกับโชคจะไม่เคยเข้าข้างเธอเลยสักครั้งเดียว

“ทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้นะ เพ่ยหลัน” ชายหนุ่มเหมือนพูดกับตัวเอง

“แต่พี่สัญญานะว่าจะปกป้องเธอให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ซ่งเฟยหลงยืนนิ่งอยู่สักพักหนึ่ง จึงจะตัดสินใจออกจากห้องเพื่อให้ภรรยาได้พักผ่อน ก่อนจะปิดประตูด้วยเสียงอันเบา และเดินออกไปอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้หญิงสาวในห้องพักผ่อนอยู่ในความเงียบสงบ

ในขณะที่นลินหลับสนิท ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเริ่มผสมผสานกับความคิดของเธอ บ้านซ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ โอบล้อมด้วยทิวเขาและท้องทุ่งเขียวขจี ตัวบ้านเป็นบ้านไม้สองชั้นที่ดูเรียบง่าย แต่ก็แข็งแรงและอบอุ่น มีลานกว้างอยู่หน้าบ้านที่ปลูกต้นไม้ดอกไม้หลากสีสัน ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและสวยงาม

ภายในบ้านมีห้องนอนหลายห้อง ในบ้านซ่งนี้ตอนนี้มีสมาชิกรวมเธอด้วยก็เจ็ดคน ซ่งเฟยหลงสามีของหลินเพ่งหลันเป็นลูกชายคนที่สาม เขาเป็นคนขยันทำงานและเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน

ซ่งชุนเหยาพี่ชายคนโตของซ่งเฟยหลงเป็นคนที่ใจดีและอบอุ่น เขาทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือครอบครัว และพี่สะใภ้ใหญ่จ้าวจินเยว่ก็เป็นคนที่มีจิตใจดี ทั้งไปทำงานที่คอมมูนและดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่

ซ่งชุนเป้ยน้องสาวคนเล็กของซ่งเฟยหลงเป็นคนสดใสและมีความสุข เธอชอบทำอาหารและมักจะเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน

ส่วนพี่ชายคนรองนั้นได้แยกบ้านออกไปอยู่ในเมืองแล้วเพื่อหางานทำและสร้างครอบครัวของตนเอง แต่ทว่าเขากลับไร้วาสนาเมื่อต้องมาตายก่อนวัยอันควร

ซ่งตงลี่พ่อของสามีเป็นคนขยันทำงานและไม่ยุ่งกับครอบครัวของลูกชาย แต่ปัญหาของเธอก็คือนางหยางเจี่ย แม่ของซ่งเฟยหลงเป็นคนที่เข้มงวดและมีความคิดเก่า ๆ เธอมักจะมีปัญหากับหลินเพ่ยหลันอยู่เสมอเพราะไม่ชอบที่ลูกสะใภ้เป็นคนพิการ

บรรยากาศในบ้านซ่งนั้นอบอุ่นและเป็นกันเอง แม้ว่าจะมีความขัดแย้งบ้างเป็นบางครั้งแต่ทุกคนก็พยายามอยู่ร่วมกันด้วยความรักและความเข้าใจ

ทางด้านซ่งเฟยหลงเมื่อออกมาจากห้องก็พบพี่สะใภ้ใหญ่และน้องสาวที่กำลังรออยู่ในห้องนั่งเล่น ใบหน้าทั้งสองคนเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก

“อาเฟย พวกเราขอโทษที่ดูแลสะใภ้สามไม่ได้” จ้าวจินเยว่หรือสะใภ้ใหญ่ของบ้านซ่ง รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “พวกเราไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้” ประโยคตบท้ายบอกว่าเธอนั้นกังวลใจจริง ๆ

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่พี่สะใภ้ใหญ่ ทำไมไม่มีคนช่วยเพ่ยหลันตอนที่เธอตกน้ำเลยล่ะ” ซ่งเฟยหลงถามด้วยความสงสัย เขาพยายามข่มอารมณ์ให้สงบลง

พอได้ยินพี่ชายถามอย่านั้น ซ่งชุนเป้ยจึงลุกขึ้นและเดินเข้ามาใกล้พี่ชายพร้อมกับบอกว่า “พี่สาม ตอนนั้นพวกเรามัวแต่กำลังจะล้างผ้าอยู่ที่ลำธาร เลยไม่เห็นว่าพี่สะใภ้สามพลาดลื่นตกลงไปในน้ำ มาเห็นอีกทีเธอก็ตกน้ำไปแล้ว พี่สะใภ้ใหญ่กับฉันไม่ใช่ไม่อยากลงไปช่วย แต่เพราะว่าพวกเราเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น ถ้าฉันและพี่สะใภ้ใหญ่ว่ายน้ำเป็น มีหรือที่จะไม่ช่วยพี่สะใภ้สาม”

ในขณะที่พูดออกไปนั้น ใบหน้าของหญิงสาวก็มีน้ำตาคลอเบ้าด้วยความน้อยใจ ที่ถูกพี่ชายต่อว่าโดยไม่ถามเหตุผลเสียก่อน

พอเห็นน้องสามีน้ำตาปริ่มคล้ายกับจะร้องไห้ที่ถูกพี่ชายต่อว่า จ้าวจินเยว่จึงรีบอธิบายต่อ “ใช่แล้ว ตอนนั้นพวกเราตกใจมากและไม่รู้จะทำยังไงดี พี่กับน้องเล็กทั้งตะโกนและคิดจะไปเรียกคนมาช่วย พอดีอาเฟยกลับมาเห็นเสียก่อนน่ะ”

เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของทั้งสองคน ซ่งเฟยหลงจึงถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน “เข้าใจแล้วครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel