บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ใช้ชีวิตในร่างของหลินเพ่ยหลัน

บทที่ 7 ใช้ชีวิตในร่างของหลินเพ่ยหลัน

จ้าวจินเยว่พูดต่อด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดอีกครั้ง “พี่เสียใจจริง ๆ ที่ไม่สามารถช่วยเพ่ยหลันได้ทันที พี่รู้ว่าอาเฟยเป็นห่วงเธอมาก ขอโทษจริง ๆ”

“ฉันก็ขอโทษพี่สามด้วยนะ ต่อไปฉันเองจะระวังมากขึ้น จะดูแลพี่สะใภ้สามให้ดี และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีก จะรีบไปเรียกคนมาช่วยให้เร็วที่สุด ฉันสัญญา พี่สามอย่าโกรธฉันเลยนะ” ซ่งชุนเป้ยพูดพร้อมพยักหน้าด้วยอีกคน ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนของเธอเลยก็ว่าได้ที่ชะล่าใจเรื่องนี้

ซ่งเฟยหลงพยักหน้ารับรู้เบา ๆ เขาไม่คิดว่าทั้งสองคนคิดจะกลั่นแกล้งภรรยา ชายหนุ่มมองไปที่ทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมา“ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องพี่สะใภ้ เราด้วยนะชุนเป้ย ต่อไปนี้หากว่าไปซักผ้าหรือทำอะไรที่ลำธาร ไม่ต้องให้เพ่ยหลันไปได้ไหม เธอมองไม่เห็นพวกเราทุกคนรู้ดี โอกาสเกิดอุบัติเหตุแบบวันนี้นั้นมีมาก จะให้คอยระวังตลอดไม่ได้หรอก ทางที่ดีให้เธอทำงานบ้านแค่อยู่ในบ้านนี้ก็พอแล้ว”

สุดท้ายแล้ว ซ่งเฟยหลงเลือกที่จะพูดแบบนี้ เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อภรรยาตนเอง แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอแบบชู้สาว แต่อย่างน้อยเขาก็มองเธอเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เลยอยากให้ทุกคนในบ้านมองเธอเหมือนคนในครอบครัว อย่ารังเกียจเพียงเพราะเธอพิการตาบอด

จ้าวจินเยว่ได้ยินอย่านั้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความหนักใจ “พี่ว่าเรื่องนี้อาเฟยต้องไปคุยกับสะใภ้สามให้เข้าใจแล้วล่ะ พี่บอกเธอหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องไปด้วยมันอันตราย แต่สะใภ้สามก็ยืนยันว่าจะไปช่วยให้ได้”

“จริงค่ะพี่สาม ฉันเองก็ช่วยพูดห้ามแล้ว แต่พี่สะใภ้สามไม่ฟังเราสองคนเลย” ซ่งชุนเป้ยพูดขึ้นมาอีกคน ไม่ใช่ว่าเธอและพี่สะใภ้ใหญ่ไม่พูด หรือว่าห้ามพี่สะใภ้สาม แต่ไม่ว่าจะห้ามหรือพูดเท่าไร พี่สะใภ้สามก็ยังคงยืนยันที่จะไปด้วย จนเธอและพี่สะใภ้ใหญ่จนปัญญาที่จะห้าม

“ครับพี่สะใภ้ อย่างไรเดี๋ยวรอให้เธอตื่นก่อนก็แล้วกัน ผมจะคุยกับเพ่ยหลันในเรื่องนี้เอง ตอนนี้ให้เธอพักผ่อนก่อน ส่วนผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ” ซ่งเฟยหลงพูดอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปทำงานตนเองต่อ

ย้อนกลับมาในห้อง

เวลานี้นลินเข้าสู่ในห้วงฝันอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับไม่เหมือนเดิมแล้ว ที่นี่ราวกับทะเลดวงดาวที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด เธอมองไปรอบ ๆ ก็เจอแต่ความเวิ้งว้าง กระทั่งมีเสียงขยับปีกของผีเสื้อดังขึ้นเบา ๆ เรียกความสนใจให้เธอหันไปมองทันที

นลินเห็นผีเสื้อบินมาใกล้ ๆ แต่พอเธอยื่นมือออกไป ผีเสื้อกลับบินไปช้าๆ เธอจึงเดินตามผีเสื้อตัวนั้นไปอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งเธอได้หยุดอยู่เบื้องหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวคนนี้ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างที่สะท้อนเป็นประกายรอบตัว

นลินมองสำรวจหญิงตรงหน้าแล้วเอ่ยถามออกมาอย่างแปลกใจเพราะใบหน้าของเธอคล้ายกับคนในความทรงจำมาก “เธอเป็นใคร เธอคือหลินเพ่ยหลันเหรอ”

หญิงสาวคนนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพียงแค่ส่งยิ้มให้เธอเท่านั้น

ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านลิน จากนั้นก็ค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้ามาจนหน้าผากของหลินเพ่ยหลันแตะลงที่หน้าผากของเธอ นลินเบิกตากว้างก่อนจะมีแสงรัศมีบางอย่างส่องประกายมาออกรอบ ๆ ตัว

“ขอให้โชคดีนะ ถึงเวลาที่ฉันต้องไปแล้ว” หลินเพ่ยหลันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและดูคล้ายคนที่กำลังมีความสุข

นลินรู้สึกถึงความอบอุ่นและแสงสว่างที่แผ่ออกมาจากตัวของอีกฝ่าย มันเหมือนกับว่าความรู้สึกของหลินเพ่ยหลันถูกถ่ายทอดมาสู่เธอในวินาทีนั้น นลินรู้สึกถึงความรักและความห่วงใยที่หญิงสาวมีต่อครอบครัวและซ่งเฟยหลง ความตั้งใจที่จะไม่เป็นภาระ และความปรารถนาที่จะเห็นคนที่เธอรักมีความสุข

ในขณะที่แสงสว่างนั้นค่อย ๆ เลือนหายไป หลินเพ่ยหลันก็ค่อย ๆ จางหายไปด้วย นลินยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของทะเลดวงดาว เธอรู้สึกได้ถึงความมั่นใจและความแข็งแกร่งที่หลินเพ่ยหลันได้ฝากไว้กับเธอ

หญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งผีเสื้อตัวเดิมได้บินกลับมาอีกครั้ง มันโบยบินไปรอบๆ ตัวเธอด้วยท่วงท่าที่สง่างามราวกับกำลังเต้นรำในอากาศ เธอยืนมองผีเสื้อด้วยความสนใจและค่อย ๆ ยื่นมือออกไปตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว พลันมันก็บินมาเกาะอยู่ที่สร้อยข้อมือของเธอ นลินจับจ้องสร้อยข้อมือที่มีหยกผีเสื้อประดับอยู่ ผีเสื้อตัวนั้นค่อย ๆ ซึมหายเข้าไปในหยกผีเสื้อ ราวกับว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องประดับชิ้นนั้น

“ขอให้โชคดีอย่างนั้นเหรอ” นลินคิดทบทวนคำพูดนี้ของหลินเพ่ยหลันอีกครั้ง ‘คำพูดนี้มีหมายความว่าอย่างไร จะบอกว่าให้เธอใช้ชีวิตที่เหลือในร่างของหลินเพ่ยหลันอย่างนั้นเหรอ’

นลินรู้สึกถึงความสับสนและความกังวลที่ถาโถมเข้ามาในใจ แต่ก็เริ่มเข้าใจและเธอไม่สามารถปฏิเสธความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้ ว่าตนเองต้องใช้ชีวิตในร่างของหลินเพ่ยหลันคนนี้ให้ดีที่สุด

“หลินเพ่ยหลัน” นลินพูดชื่อของหญิงสาวที่เคยเป็นเจ้าของร่างนี้เบา ๆ คล้ายกับต้องการสื่อสารกับเธอ “ฉันไม่รู้ว่าทำไมเราถึงได้มาเจอกันในลักษณะนี้ แต่ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ชีวิตของเธอและคนที่เธอรักมีความสุข”

การกลับมาในห้วงฝันครั้งนี้ ทำให้นลินเห็นถึงความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นในร่างของใครก็ตาม เธอต้องยืนหยัดและต่อสู้เพื่อความสุขและความสำเร็จของตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่ารู้ว่าเส้นทางข้างหน้าอาจจะไม่ง่ายเลย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้อยู่ดี

เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงยิ้มออกมาเล็กน้อยและพอคิดถึงคำพูดของหลินเพ่ยหลันที่บอกว่า “ขอให้โชคดี” หญิงสาวมองว่าคำพูดนี้เป็นเสมือนคำอวยพรและคำสั่งเสียในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เต็มใจนัก

แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เธอก็เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว คงหนีไม่พ้นที่จะต้องใช้ชีวิตต่อไปให้ดีที่สุด

“ขอให้เธอโชคดีเช่นกันนะ หลินเพ่ยหลัน” นลินพูดออกมาเบา ๆ ไปกับสายลม และหวังว่าเจ้าของร่างนี้จะไปสู่ภพภูมิที่ดี

หลังจากเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของร่างนี้แล้ว เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าดวงตาทั้งสองข้างของเธอนั้นมองไม่เห็นแล้วจริง ๆ จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ความมืดมิดรอบตัวทำให้รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

แต่ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงดังราวเสียงฟ้าผ่าของนางหยางเจี่ยก็ดังขึ้น จนทำให้หญิงสาวสะดุ้งด้วยความตกใจ

“หลินเพ่ยหลัน นี่เธอจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน ป่านนี้แล้วถึงได้ยังไม่ลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้คนในบ้านกินอีกเหรอ”

นางหยางเจี่ยเดินเข้ามาในห้องก็บ่นอย่างไม่หยุดหย่อน เมื่อเห็นว่าลูกสะใภ้แสนชังยังไม่ยอมออกมาทำหน้าที่ของตัวเอง เสียงของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

นลินในร่างของหลินเพ่ยหลันคิ้วขมวดมุ่นทันที พร้อมกับคิดว่า

‘ต่อให้แม่สามีไม่ชอบลูกสะใภ้ของตัวเองแค่ไหน แต่ดีร้ายยังไงเธอก็เป็นคนป่วย ใจคอจะให้คนป่วยลุกไปทำกับข้าวจริงเหรอ’

ถึงแม้ในใจจะคิดอย่างนั้น แต่จากความทรงจำของร่างเดิม คิดว่าคงไม่สามารถต่อต้านแม่สามีได้ จึงได้พยายามปรับตัวกับสถานการณ์นี้ เพราะรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจำใจขยับลุกจากเตียงอย่างช้า ๆ ขณะที่เสียงบ่นของแม่สามียังคงดังแว่วเข้ามาในหูไม่หยุด

“คนอื่นเขาตื่นนอนและไปทำงานกันหมดแล้ว เธอเคยสงสารสามีบ้างไหมว่าเขาทำงานหนักมาก พอกลับมาบ้านยังต้องมาหาของกินให้เธออีก!” ผู้เป็นแม่สามียังพูดไม่หยุด

เมื่อลุกขึ้นนั่งหลินเพ่ยหลันจึงหายใจเข้าปอดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมความกล้าที่จะเดินหน้าต่อไป แม้จะรู้สึกมึนงงอยู่บ้างเพราะต้องอยู่ในโลกมืดมิดแบบนี้ทำให้ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย

แต่ต่อให้จะไม่ชินอย่างไรหญิงสาวก็พร้อมสู้ จึงได้ปัดป่ายมือไปสะเปะสะปะในอากาศ คว้าหาที่จับเพื่อพยุงตัวเอง แต่ไม่ว่าจะควานหาเท่าไรก็ไม่เจอสักที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel